แอปเปิล (Apple) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 2018 สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2018 สร้างรายได้ 6.11 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน พร้อมรายได้สุทธิประจำไตรมาส 2.73 เหรียญสหรัฐ ต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 30% โดยมียอดขายจากต่างประเทศ 65%
ทิม คุก ซีอีโอ แอปเปิล ระบุว่า ด้วยรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์ iPhone การบริการ และอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะลูกค้าที่เลือกซื้อ iPhone X มากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆ ในแต่ละสัปดาห์ในช่วงไตรมาสเดือนมีนาคม คล้ายคลึงกับในช่วงการเปิดตัวในไตรมาสเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
จากรายได้ต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้น 30% ทำให้แอปเปิล สามารถสร้างกระแสเงินสดหมุนเวียนกว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ช่วยให้สามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเน้นโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ทางแอปเปิลยังได้มีการประกาศว่า คณะกรรมการได้อนุมัติการซื้อหุ้นคืนใหม่ จำนวน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และเพิ่มวงเงินการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาส 16% โดยบริษัทจะดำเนินการอนุมัติการเพิ่มวงเงินในการซื้อหุ้นคืนจำนวน 2.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ให้เสร็จสิ้นในช่วงไตรมาสที่สาม
จากผลการอนุมัติที่เพิ่มขึ้นนี้ คณะกรรมการได้ประกาศเงินสดปันผลหุ้นสามัญของ Apple อยู่ที่ 0.73 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งเงินปันผลจะจ่ายไปยังผู้ถือหุ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม 2018 โดยที่ผู้ถือหุ้นจะต้องมีสถานะการถือครองหุ้นเมื่อสิ้นสุดวันทำการของวันที่ 14 พฤษภาคม 2018
ทั้งนี้ ทางแอปเปิล ได้ประเมินผลประกอบการประจำไตรมาสที่สาม ประจำปีงบประมาณ 2018 โดยคาดว่ารายได้อยู่ระหว่าง 5.15-5.35 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไรขั้นต้น 38-38.5% ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ระหว่าง 7.7-7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ.
