AIRPORTELs สตาร์ทอัพที่เริ่มธุรกิจจากการมองเห็นปัญหาความลำบากของนักท่องเที่ยวต่างชาติในการขนส่งสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ระหว่างการท่องเที่ยว จนนำไปสู่บริการขนส่งกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยว มาฟังเบื้องหลังของพวกเขาจากงานสัมมนา STARTUP จับต้องได้ : เจาะลึกธุรกิจ สร้างสังคมแห่งสตาร์ทอัพ” จัดโดย positioningmag.com ในเครือผู้จัดการ และองค์กรพันธมิตร ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา
ปี 2560 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยมีรายได้สูงถึง 2.75 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย 35 ล้านคน เติบโตขึ้นถึง 12%
ถ้านักท่องเที่ยว 1 คนมีกระเป๋าหนึ่งใบก็เท่ากับ 35 ล้านใบ แต่โดยมากไม่เป็นเช่นนั้น แล้วใครจะคิดว่านี่คืออีกโอกาสของธุรกิจที่ทำให้สตาร์ทอัพอย่าง อภิโชค ประเสริฐรุ่งเรือง กรรมการฝ่ายการขนส่งและผู้ร่วมก่อตั้ง AIRPORTELs จับมาทำธุรกิจขนส่งและรับฝากกระเป๋าสัมภาระ ธุรกิจง่าย ๆ ที่พูดแล้วก็เข้าใจ แต่ก็แปลกที่เพิ่งมีคนคิดจะทำ
ไอเดียแบบนี้ก็เหมือนกับเรื่องที่ อภิโชค จะเล่าให้ฟังต่อไปว่า ความยากของการเป็นสตาร์ทอัพ ไม่ได้อยู่ที่จะทำธุรกิจอะไร เพียงแต่การจะเป็นสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จสักอย่างไม่ใช่เรื่องสวยหรูอย่างที่ทุกคนคิด
ลองคิดดูว่า ถ้าเป็นคนหนึ่งที่คิดจะทำธุรกิจแบบ AIRPORTELs คุณจะใช้หรือคิดถึงบริการแบบนี้ไหม ถ้าปกติคุณเลือกที่จะขนกระเป๋าไปที่สนามบิน โรงแรม หรือที่ไหนต่อไหนด้วยตัวเอง คิดเท่านี้ก็เป็นอุปสรรคเบอร์ใหญ่ที่มองไม่เห็นแล้วว่า บริการขนส่งและรับฝากกระเป๋าจะกลายเป็นธุรกิจที่เติบโตได้อย่างไร
“Service ของเราง่ายๆ ก็คือ เราโฟกัสที่กระเป๋าของลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย บริการแรกเริ่มที่ AIRPORTELs ทำ คือ ขนส่งกระเป๋าภายในกรุงเทพฯ รับกระเป๋าลูกค้าที่ลงเครื่องที่สนามบินไปส่งให้ที่โรงแรม แล้ววันที่เขาจะกลับก็ทำแบบเดียวกัน ส่งจากโรงแรมมาที่สนามบิน โดยมีเคาน์เตอร์ของบริษัทที่สนามบินรองรับ” อภิโชค กล่าว
จากบริการแรก ก็เริ่มขยายสู่บริการที่ 2 ตามความต้องการของลูกค้า เมื่อรู้ว่าลูกค้าที่มาไม่ได้มาเฉพาะในกรุงเทพฯ แต่ต้องการให้ส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัดด้วย จากจุด A จุด B ในกรุงเทพฯ AIRPORTELs ก็เริ่มขยายไปเชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย จนปัจจุบันสามารถส่งจากกระเป๋าจากกรุงเทพฯ ไปได้ทุกจังหวัดทั่วไป ภายใต้บริการที่เรียกว่า Door to Door Luggage Delivery Service
“พอมาถึงบริการที่ 3 เราก็ให้บริการรับฝากกระเป๋าง่าย ๆ เลยครับ บริการนี้ลูกค้าชาวยุโรปเรียกร้องเพราะปกติจะไม่ส่งกระเป๋าเพราะกลัวเสียหาย ฉะนั้นเวลาที่เขาไปเที่ยวต่างจังหวัดก็จะฝากกระเป๋าไว้กับเรา”
เบื้องหลังการให้บริการของ AIRPORTELs
เมื่อดูจากข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปี 2015 เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยจำนวน 30 ล้านคน เฉพาะในกรุงเทพฯ มีจำนวนมากถึง 20 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นทุกๆ ปี ทำให้ทาง Airportels นำข้อมูลในส่วนนี้ มาร่วมคำนวณต่อ ว่ามูลค่าตลาดในการขนส่งกระเป๋า จะต้องอยู่ที่ราคาเท่าไร
หากโฟกัสเฉพาะกลุ่ม FIT หรือ Foreigner Independent Traveller จะมีจำนวน 5.3 ล้านคน คิดเป็น 26.46% สิ่งสำคัญของกลุ่ม FIT จะเป็นประเภท ท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่มีแพ็กเกจ หรือซื้อกรุ๊ปทัวร์มา กลุ่มพวกนี้เขาจะต้องแบกกระเป๋าเอง ประเมินว่ามีกระเป๋าทั้งหมด 8.5 ล้านใบ เป็นมูลค่าทั้งหมด 3,200 ล้านบาท ทำให้เรารู้สึกว่าปัญหานี้ใหญ่มาก และมันก็เป็นตลาดที่ใหญ่มากพอที่จะเข้าไปได้เ
หลายคนอาจคิดว่าง่าย ก็แค่ส่งกระเป๋าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง จาก A ไป B เท่านั้น แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยความที่เคยทำธุรกิจมาก่อน เบื้องหลังของธุรกิจนี้ ต้องผ่านถึง 5 ขั้นตอนกว่าจะออกมาเป็นบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า
ขั้นแรก และสอง คือ สร้างการรับรู้ให้ และการตัดสินใจใช้บริการของลูกค้า ซึ่งเป็นไปได้ยากมากในช่วงแรก หลังจากที่ AIRPORTELs เริ่มต้นธุรกิจมา 1 เดือนแรก ไม่มีเลย จึงต้องกลับไปมองว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และพบว่า ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ คือหัวใจสำคัญของการเริ่มต้น
ต้องเปลี่ยนวิธีหาลูกค้าจากทางออนไลน์ ไปเป็นออฟไลน์ก่อน พร้อมกับติดต่อหาโรงแรมมาเป็นพาร์ตเนอร์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนใหญ่ให้คำตอบว่า “ขอคิดดูก่อน” จนกระทั่งมาได้โรงแรม วินซ์โฮเทล (VINCE Hotel) เป็นพาร์ตเนอร์รายแรก มาเป็นใบเบิกทาง สร้างโอกาสในการหาพาร์ตเนอร์ได้ง่ายขึ้น ทำให้เวลานี้มีโรงแรม 500 ราย มาเป็นพาร์ตเนอร์ใช้บริการ AIRPORTELs
ทุกวันนี้ AIRPORTELs ผ่านจุดของความยากลำบาก มาสู่ในช่วงของการเติบโตขึ้นทุกปี เฉพาะแค่การขนส่งกระเป๋าโตสูงถึง 75% ขณะที่บริการฝากของรายได้พุ่งทะลุ 2,000%
สำหรับสิ่งที่ต้องการจะแบ่งปันของการก้าวสู่การเป็น START UP มี 4 สิ่ง
1. การจะเป็นผู้ประกอบการ จะต้องทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับการทำธุรกิจ คือ คุณจะไม่มีวันเสาร์–อาทิตย์ คุณทำงานตลอด 7 วัน เพราะคุณจะรู้ว่า ถ้าคุณช้า 1 วัน คู่แข่งหรือตลาดจะวิ่งหนีคุณไป 1 วันแล้ว
2. มีแต่เวลาเริ่มงาน แต่เราไม่มีเวลาเลิกงาน นี่คือปัญหาที่คุณจะต้องรับให้ได้ เราจะต้องบอกกับตัวเองว่าจะเริ่มต้นการทำงานกี่โมง เราจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าโปรเจกต์ที่เราทำอยู่นั้นจะเสร็จ นี่คือการเป็นผู้ประกอบการ
3. ความเห็นไม่ตรงกัน ความขัดแย้ง เป็นเรื่องปกติ เพราะการทะเลาะกันก็เพื่อจะหาช่องทางที่ดีที่สุด เพื่อให้ธุรกิจไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุด
4. เลิกคิดถึงการท่องเที่ยว ทำธุรกิจมา 3 ปีแล้ว หุ้นส่วนทั้ง 4 คนนี้ยังไม่เคยท่องเที่ยวด้วยกันเลย ต้องคิดเสมอว่า ถ้าเราหยุดเมื่อไร คู่แข่งก็ก้าวนำเราไป 1 ก้าวเสมอ
ปีล่าสุด AIRPORTELs มีรายได้เติบโตขึ้น เฉพาะการขนส่งกระเป๋า 750 เปอร์เซ็นต์ และบริการฝากของเรา รายได้ของเราโตขึ้นถึง 2,000 เปอร์เซ็นต์ นี่คือสิ่งที่เราพยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ตลาดหนีเราไปนั่นเอง.