สไตล์นันดะ ขี่คลื่น K-Pop โตด้วยกลยุทธ์ Fashion ควบ Beauty จนเตะตาแบรนด์โลก

เป็นแบรนด์แฟชั่นสุดชิค สัญชาติเกาหลีใต้ ที่สร้างชื่อและความประสบความสำเร็จไปทั่วเอเชียทั้งประเทศต้นกำเนิดอย่างเกาหลีใต้ และขยายไปนิยมถึงประเทศใกล้เคียงอย่าง ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ รวมไปถึงประเทศไทยด้วย

ความโดดเด่นเป็นที่รู้จักของนันดะ คือความมีเอกลักษณ์ทั้งด้านเสื้อผ้าแบบชิค มีสไตล์ และสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ที่ทำให้จับลูกค้าได้ไว โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มที่ผู้ชื่นชอบแฟชั่น และอีกแบรนด์เด่นที่เป็นตัวสร้างชื่อให้กับ สไตล์นันดะ ไม่น้อย คือ เครื่องสำอาง 3CE ในสังกัด ซึ่งที่ผ่านมาก็เปิดช็อปในหลายๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทยและเป็นที่ยืนยันว่าเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มเป้าหมายเพราะได้รับการตอบรับอย่างดีทุกที่

ที่สำคัญ ทำให้แฟลกชิพสโตร์ของแบรนด์ทั้ง สไตล์นันดะ และ 3CE ที่ไปเปิดตามแลนด์มาร์กของประเทศต่าง ๆ อาทิ ฮงแด ในเกาหลีใต้, ฮาราจูกุ ที่ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ร้านสไตล์นันดะในไทยที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ ฯลฯ กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้กับสถานที่นั้น ๆ ยิ่งขึ้น

เครือนันดะ จากเกาหลีใต้ เริ่มเติบโตขึ้นตั้งแต่ปี 2004 หลังจากที่ คิม โซฮี CEO และผู้ก่อตั้งสไตล์นันดะ ที่เริ่มธุรกิจเสื้อแฟชั่นภายใต้แบรนด์สไตล์นันดะ ที่ชูความเป็น Fast-Fashion อย่างเต็มรูปแบบ แถมเปิดตัวภายใต้กระแส K-Pop ที่กำลังบูมทำให้แบรนด์นี้เกิดได้ไม่ยากและเติบโตอย่างรวดเร็ว

เธอเพิ่มกระแสการเติบโตให้กับแบรนด์ ด้วยการเปิดร้านค้าออนไลน์หลังการก่อตั้งธุรกิจซึ่งกลายเป็นร้านค้าออนไลน์ที่ทำยอดขายได้อย่างโดดเด่น และใช้เวลาเพียงแค่ 10 ปี ก็สามารถทำให้สไตล์นันดะ มียอดขายถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2014 และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นแบรนด์ที่มียอดขายติดอันดับท็อป 10 จากออนไลน์ในเกาหลีในปี 2015

แม้จะประสบความสำเร็จจากธุรกิจแฟชั่น แต่ นันดะ ไม่คิดจะหยุดตัวเองไว้แค่นั้น

ช่วงปี 2009 นันดะ เปิดตัวเครื่องสำอางแบรนด์ 3CE (Three Concept Eyes) เพื่อขยายไปสู่อุตสาหกรรมความงาม ภายใต้แนวคิดการใช้แฟชั่นเคป็อป หรือ k-fashion ทำตลาดคู่กับ k-beauty ซึ่งได้แรงส่งจากความนิยมทั้งจากวัฒนธรรมเคป็อป ที่ทำให้เครื่องสำอางจากเกาหลีใต้เป็นที่รู้จัก พูดถึง และรับรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในต่างประเทศ จากเทรนด์การแต่งหน้าอันเป็นเอกลักษณ์แบบสาวเกาหลี

แนวคิดนี้ได้ผล เพราะเครื่องสำอาง 3CE ซึ่งเปิดตัวทีหลังประสบความสำเร็จมากกว่าแบรนด์เสื้อผ้าอย่างสไตล์นันดะ ตัวอย่างเช่น ปี 2016 ที่ผ่านมา เฉพาะในประเทศจีน 3CE สามารถทำรายได้ให้กับนันดะกรุ๊ปมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด โดยแบรนด์สไตล์นันดะทำยอดขายได้ราว 1.7 แสนล้านวอน (ประมาณ 5,000 ล้านบาท)

ไม่ได้มีแค่ ลอรีอัล ที่อยากซื้อ สไตล์นันดะ

จากความสำเร็จที่ทำให้ นันดะกรุ๊ป เติบโตทั้งยอดขายและความนิยม ส่งผลให้ผู้ผลิตและแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังจากสองประเทศชั้นนำในผลิตความงาม อย่าง ลอรีอัล (L’oreal) จากฝรั่งเศส และ ชิเซโด (Shiseido) จากญี่ปุ่น ให้ความสนใจอยากควบรวมกิจการกับนันดะ

แต่ท้ายที่สุดเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.2018) ลอรีอัล เป็นประกาศว่าได้ซื้อหุ้น 100% ของบริษัท นันดะ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“บริษัทเข้าซื้อหุ้น 100% ของบริษัท นันดะ จำกัด เป็นบริษัทเครื่องสำอางและแฟชั่นเกาหลี ภายใต้แบรนด์สไตล์นันดะ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างสูงในกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลในเกาหลีและจีน” อเล็กซี เพราคิสวา ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวในการประกาศเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้

การซื้อหุ้นของนันดะ ทำให้ลอรีอัลควบแบรนด์ต่าง ๆ อาทิ สไตล์นันดะ และ 3CE ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในวงกว้างเข้ามาไว้ในพอร์ตของลอรีอัล ซึ่งต้องบอกว่านอกจากความสำเร็จและความมีเอกลักษณ์น่าสนใจของแบรนด์ที่เข้าตาลอรีอัลแล้ว สไตล์นันดะ ยังมีกลยุทธ์การตลาดที่คล้ายคลึงกับการทำตลาดของลอรีอัลในยุคนี้อีกด้วย เช่น การเน้นเจาะกลุ่มมิลเลนเนียม การเป็นแบรนด์ที่เน้นสไตล์การแต่งหน้าเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองหลากหลายและจัด รวมถึงกลยุทธ์การทำตลาดที่เลือกแมตชิ่งแฟชั่นสไตล์กับสไตล์การแต่งหน้าเข้าด้วยกันเพราะหลายแบรนด์ในสังกัดลอรีอัลก็เลือกทำตลาดร่วมกับเสื้อผ้าแบรนด์เนมชื่อดังของฝรั่งเศสอยู่เสมอในการจัดกิจกรรมการตลาด รวมทั้งออกคอลเลกชั่นที่ไปด้วยกันระหว่างเครื่องสำอางกับแฟชั่น ฯลฯ

การเข้าซื้อสไตล์นันดะครั้งนี้ ลอรีอัล ยังได้ประโยชน์จากช่องทางการจำหน่ายของนันดะที่มีอยู่ แน่นอนว่าเป็นช่องทางที่เชื่อมถึงลูกค้าจำนวนมหาศาล ซึ่งมีทั้งช่องทางของอีคอมเมิร์ซ ร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า รวมถึงในร้านค้าปลอดภาษี และที่สำคัญคือแฟลกชิพสโตร์ต่าง ๆ ของแบรนด์ สไตล์นันดะและ 3CE ที่มีอยู่ตามแลนมาร์กของประเทศต่างๆ

ร้านค้าปลีกของนันดะกรุ๊ป ที่มีอยู่ตอนนี้คร่าว ๆ ในเกาหลีใต้มีทั้งในกรุงโซลในย่านช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า ย่านมหาวิทยาลัย และเมืองสำคัญนอกกรุงโซลอย่างปูซาน ประมาณ 12 สาขา ร้านที่อยู่ในร้านค้าปลอดภาษีแบรนด์ต่าง ๆ อย่าง Shilla, Lotte, Hanwha, Doosan ฯลฯ รวม 14 แห่ง นอกจากนี้ยังมีร้านในฮ่องกง 15 แห่ง มาเก๊า 1 แห่ง จีน 13 แห่ง สิงคโปร์ 11 แห่ง มาเลเซีย 14 แห่ง และไทย 2 แห่ง

“บริษัทเชื่อมั่นว่าการขายกิจการครั้งนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของนันดะ ด้วยการสนับสนุนของลอรีอัล ซึ่งเป็นบริษัทความงามระดับโลก เราคาดว่าจะสามารถขยายเส้นทางของสไตล์นันดะสู่ตลาดระดับสากล และผลักดันให้กลายเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำในด้านความงามระดับโลกได้” คิม โซฮี CEO และผู้ก่อตั้งสไตล์นันดะ กล่าว

สำหรับ คิม โซฮี เป็นบุคคลที่น่าสนใจ เพราะทำธุรกิจได้สำเร็จโดยไม่มีผู้สนับสนุนด้านการลงทุน เป็นเจ้าของคนเดียว โดยเธอเป็นคนเกาหลีรุ่นใหม่ มาจากครอบครัวธรรมดา ไม่ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากของคนเกาหลี แต่ก็สามารถสร้างสไตล์นันดะให้ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นจนเป็นที่ต้องตาของแบรนด์ดังระดับโลกที่มีอายุมากกว่า 100 ปี และสร้างปรากฏการณ์ทางธุรกิจจากการขายกิจการในระดับนานาชาติจากการขายกิจการครั้งนี้

ท้ายที่สุด การเปลี่ยนมือของสไตล์นันดะครั้งนี้ เป็นเหมือนการผนึกกำลังที่เข้มแข็งระหว่างแบรนด์น้องใหม่จากโลกตะวันออกกับแบรนด์ระดับโลกจากฝั่งตะวันตก ซึ่งคงต้องจับตามองสเต็ปต่อไปว่า โปรเจกต์ต่อ ๆ ไปของนันดะจากนี้ไปภายใต้มุมมองของลอรีอัลจะเป็นเช่นไร แล้วแบรนด์อื่นๆ ในสนามเดียวกันนี้จะมีลูกเล่นอะไรมาสู้อย่างไร ซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นข้อดี ๆ แน่ ๆ อย่างหนึ่ง ก็คือการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคแบบเรานี่เอง.