The Yellow Revolutio

5 แกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) “สนธิ ลิ้มทองกุล – พลตรีจำลอง ศรีเมือง -สมศักดิ์ โกศัยสุข – สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ – พิภพ ธงไชย” ได้ใช้ 193 วัน พิสูจน์การเป็นแกนนำภาคประชาชน ต่อต้านระบอบทักษิณ จนได้รับชัยชนะมาแล้ว วันนี้ เขากำลังสวมบทบาท “ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง” ด้วยโจทย์ใหม่ที่ใหญ่กว่าเก่า การผลักดัน “การเมืองใหม่” ที่ต้องท้าทายกับ “อำนาจใหม่” อันทรงพลังก็ตาม

จนในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบ 3 พรรค“พรรคชาติไทย-พรรคมัชฌิมา-พรรคพลังประชาชน”ส่งผลให้รัฐบาลนอมินี “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” น้องเขย นช.ทักษิณ ชินวัตร ต้องพังครืน และมีการจับขั้วการเมืองใหม่ จนในที่สุดได้มีรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27

แม้ว่าการชุมนุมได้ยุติไปแล้วกว่า 5 เดือน แต่แกนนำทั้ง 5 ยังคงเคลื่อนไหวและมีบทบาทต่อการขับเคลื่อนเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวิกฤตการณ์ชุมนุมของ “คนเสื้อแดง” กลุ่มพันธมิตรเสื้อเหลืองถูกร้องขอให้ออกมาช่วยเหลือรัฐบาล ซึ่งขณะนั้นกำลังเพลี่ยงพล้ำ เพราะถูกรุกหนักไล่ล่าจนเอาไม่อยู่จากม็อบคนเสื้อแดง จนกระทั่งการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนต้องยกเลิกอย่างกะทันหัน

แต่ด้วยความรู้เท่าทันว่า เป็นกลลวงของฝ่ายม็อบเสื้อแดงที่วางกับดับไว้ เพื่อให้คนเสื้อเหลืองออกมาปะทะ 5 แกนนำ จึงมีมติตัดสินไม่เรียกระดมพลคนเสื้อเหลือง พธม.ออกมาจากที่ตั้ง เพราะมองว่า อาจไม่คุ้มค่า แถมยังเสี่ยงเกินไปที่จะต้องเอาชีวิตของคนพันธมิตรมาแลกกับอันธพาลการเมือง จึงต้องอยู่อย่างสงบในที่ตั้งแล้วปล่อยให้รัฐบาล เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และผู้เกี่ยวข้องโดยตรงเป็นผู้จัดการกันเอง

ในการเล่นบทเพียง “คนดู” ที่เฝ้าคอยสังเกตการณ์อยู่นี้ 5 แกนนำก็ยังคงร่วมพลังกันอย่างเหนียวแน่น และแสดงออกมาในรูปแบบ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” กระตุ้นเตือนรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นทางการ ได้แก่ การออกแถลงการณ์ 2 ครั้ง ฉบับแรก 29/2551 เรื่อง คำเตือนก่อนเข้าสู่อำนาจ และครั้งสอง ฉบับ 1/2552 เรื่อง “คำเตือนต่อการวางเฉยกรณีมีการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์” อันการส่งสัญญาณล่วงหน้า

นอกจากนี้ แกนนำทั้ง 5 ยังร่วมกันเดินสายสัญจรและผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยให้ความรู้และความบันเทิงแก่เครือข่ายพันธมิตรที่กระจายอยู่ตามต่างจังหวัดทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน และใต้ ไม่เว้นแม้ในต่างประเทศ เช่น อเมริกาหลายมลรัฐ ในรูปแบบ “คอนเสิร์ต การเมืองสัญจร” ซึ่งจัดต่อเนื่องไปแล้วถึง 7 ครั้ง ล่าสุดเดือนเมษายนที่ผ่านมาจัดที่ระยอง โดยทุกครั้งจะมี ASTV ทีวีของประชาชน เป็นสื่อหลักทำการถ่ายทอดสดตลอดงาน ซึ่งงานนี้ก็ไม่ทำให้แกนนำผิดหวัง เพราะบัตรขายเกลี้ยงทุกงาน สมาชิกพันธมิตรเรือนหมื่นแห่กันมาร่วมกิจกรรมกันอย่างเนืองแน่น

การขับเคลื่อนของพันธมิตรดังกล่าว แม้ไม่ใช่การชุมนุมต่อต้านรัฐบาล เป็นเพียงการโรดโชว์หรือบิ๊กอีเวนต์

เพื่อกระชับสัมพันธ์เครือข่ายฯ และเผยแพร่ให้ความรู้ “การเมืองใหม่” รวมถึงข้อเสนอ “ตั้งพรรคการเมือง” ของพันธมิตรถูกโยนออกมา “แบบโยนหินถามทาง” ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากกองเชียร์ พธม. ทั้งหนุนและต้านควบคู่กันไป โดยเฉพาะฝ่ายคนเสื้อแดง หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในระบอบทักษิณที่หยิบเอาเป็นเป้าโจมตีมาตลอด

ไม่ว่า เป็นการรุกหนักรัฐบาลให้ดำเนินคดีกับ พธม. การขับไล่รัฐมนตรีต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ อดีตทูตที่เคยขึ้นเวทีพันธมิตร และกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย จนกระทั่งรัฐบาล โดยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย สุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องเดินหน้าเอาผิดกับพันธมิตร ในกรณีบุกรุกหน้ารัฐสภากับ 21 แกนนำ พธม. ซึ่งทั้งหมดก็ได้เดินเข้าไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท่ามกลางกองเชียร์พันธมิตรนับพันคนที่ไปให้กำลังใจสู้ต่อไป

หากย้อนกลับไปดูบทบาทเด่นๆ ของแกนนำ พธม.ทั้ง 5 คน ที่สะท้อนให้เห็นถึง “พลัง” ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการไม่น้อยเลย จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา สำหรับ “สนธิ ลิ้มทองกุล”
1 แกนนำ พธม. และผู้ก่อตั้งสื่อในเครือเอเอสทีวี ผู้จัดการ ถือว่า เป็นแกนนำที่ออกมาเคลื่อนไหวแล้วถูกจับตามองมากที่สุด

โดยเฉพาะ เมื่อสวมบทบาทเป็นผู้จัดรายการ “Good Morning Thailand” ทุก 6 โมงเช้าตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ทาง ASTV News1 เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่แล้ว ด้วยสไตล์ การวิเคราะห์เจาะลึก วิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับการทำงานของรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงออกอาละวาดที่พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แถลงการณ์พันธมิตรและสนธิ ได้วิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่มีมีส่วนดูแลรับผิดชอบด้านความมั่นคงอย่างรุนแรง ทั้งยังเรียกร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งด้วย

รวมทั้งการให้ความรู้กับคนเปิดโปงความสัมพันธ์และพฤติกรรมของ 1.กลุ่มเสื้อแดง 2.กลุ่มสี่เหลี่ยมอำนาจใหม่
แผนการความเคลื่อนไหวของนักการเมือง ทหาร ตำรวจบางคนที่กำลังสมคบคิดกันทำการใหญ่ในบ้านเมืองอย่างไม่เกรงกลัว อีกทั้งเขายังประกาศตัวเป็นสื่อมวลชนผู้กล้าพูดความจริง โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพล เช่น กรณีที่ออกมาแฉท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เพื่อช่วยเหลือทักษิณ ชินวัตร ในการโฟนอินปลุกม็อบให้มีน้ำหนักมากขึ้น

กระทั่งวันที่ 17 เมษายน ได้เกิดเหตุสั่นสะเทือนอย่างหนัก และตกเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อ “สนธิ” ได้ถูก ลอบฆ่า จากอาวุธสงครามร้ายแรง ปืน M-16, HK 33, AK 47 จำนวน 200 นัด ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์

ถ้าดูจากอาวุธที่ใช้ และวิธีการลอบสังหาร ไม่ใช่มืออาชีพธรรมดาๆ ถ้าใครบอกเป็นเรื่องส่วนตัว หรือการฆ่าปิดปากสื่อมวลชนต่างจังหวัด ก็คงแปลกน่าดู เพราะไม่ต้องลงทุนถึงเพียงนี้

ต้องมาดุบทบาทของสนธิ เป็นทั้งสื่อมวลชน และยังเป็นแกนนำมวลชน ภาคประชาชน ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงมีบทบาทสูงมากต่อจุดยื ที่ต้องการผลักดัน “การเมืองใหม่” เป็นการปฏิวัติรูปแบบการเมืองเก่าอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งเมื่อประเมิน พลังมวลชนที่ให้การสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศ และเป็นกลุ่มชนชั้นกลาง ไม่ใช่ม็อบจัดตั้ง กลุ่มพันธมิตรฯ จึงเป็นอุปสรรคต่อ “กลุ่มอำนาจใหม่” ซึ่งเกิดจากกลุ่มบิ๊ก คนมีสีจับขั้วกับนักการเมืองเก่า คนกลุ่มนี้ยังต้องการ การเมืองแบบเก่า เพราะการขึ้นสู่อำนาจเป็นเพียง “สมบัติผลัดกันชม” ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่ คมช. เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลทักษิณ ซึ่ง คมช. เลือกที่จะปล่อยเกียร์ว่าง ไม่ได้มีการปฏิรูปการเมือง หรือดำเนินคดีกับทักษิณ ชินวัตร แต่อย่างใด

กลุ่มพันธมิตรฯ จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่เป็น “หนามยอกอก” ขวางกั้นการยึดกุมอำนาจบริหารประเทศของกลุ่มอำนาจใหม่ในเวลานี้ ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงและทักษิณ อ่อนแรงไปมากแล้ว เป็นช่วงสุญญากาศของกลุ่มอำนาจใหม่

การเด็ดหัวแกนนำัพันธมิตรฯ จึงเป็นวิธีเดี่ยวที่กลุ่มอำนาจใหม่เชื่อว่า สยบกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหว แล้วยังเป็นการสยบนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สื่อมวลชนที่ออกมาแฉกระบวนการภาคประชาชน ไม่ใช่แค่เสื้อเหลือง แต่อาจรวมเสื้อแดงด้วย

ไม่เพียงแต่รอดพ้นจากการลอบสังหารมาได้แล้ว วันที่ 24-25 พฤษภาคมนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ จะประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ก็ิยิ่งทำให้กลุ่มอำนาจใหม่ต้องสะท้านสะเทือนกับพลังของสีเหลืองและกลุ่มพันธมิตรฯ

Profile

Name : สนธิ ลิ้มทองกุล (ฉายา Media Tycoon)
Born : 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490
Education : มัธยมศึกษา จากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา รุ่น18
ปริญญาตรีที่ยูซีแอลเอ เมืองลอสแองเจลิส
ปริญญาโท สาขาประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยยูทาห์สเตต รัฐยูทาห์
ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาอักษรศาสตร์ ที่วิทยาลัยฮาร์ตวิคก์ รัฐนิวยอร์ก
ปริญญาเอกดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิเทศศาสตร์ / วิชาผู้นำทางสังคมฯ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต
Career Highlights :
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ที่ปรึกษากลุ่มหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
อาจารย์พิเศษ คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้ก่อตั้งและเจ้าของหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ
ผู้ดำเนินรายการกลางแจ้ง เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร
บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ ประชาธิปไตย
Family : สมรสกับนางจันทน์ทิพย์ (ช่องดารากุล) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ระดับ 9 มศว.
มีบุตรชาย คือ นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ปัจจุบันเป็นผู้บริหารกิจการในเครือผู้จัดการ

Name : พล.ต.จำลอง ศรีเมือง (มหาจำลอง)
Born : 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2478
Education : โรงเรียนนายร้อย จปร. รุ่น 7
Career Highlights :
2549 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
– ก่อตั้งโรงเรียนผู้นำ
2537-2538 รองนายกรัฐมนตรี
2533-2535 ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร
2528-2532 ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร
Family : สมรสกับ พ.ต.หญิง ศิริลักษณ์ เขียวละออ
งานอดิเรก : กิจกรรมสังคมหลายๆ อย่าง ทั้งด้านการปฏิบัติธรรมกินอาหารมังสวิรัติ ดูแลสุนัขจรจัด

Name : พิภพ ธงไชย
Born : 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2488
Education : มัธยมศึกษาจากโรงเรียนนันทศึกษา กรุงเทพ
ศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จ ระหว่างศึกษาทำกิจกรรมจนได้เป็นนายกองค์การนักศึกษาในปี พ.ศ. 2510
Career Highlights :
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)
กรรมการเลขานุการมูลนิธิเด็ก
ผู้จัดการ โรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็ก สานรัก
กรรมการชี้ทิศทางสุขภาพคนไทย ปี 2547-2548
กรรมการมูลนิธิโกมล คีมทอง
ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.)
ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)
กรรมการอำนวยการ สถาบันสัญญา ธรรมศักดิ์ เพื่อประชาธิปไตย
กรรมการกองทุนคุ้มครองนักสิทธิมนุษยชน
สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

Name : สมศักดิ์ โกศัยสุข
Born : 2 มิถุนายน พ.ศ. 2488
Education : –
Career Highlights :
เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)
ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท)
ที่ปรึกษา สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)

Name : สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
Born : 12 มกราคม พ.ศ. 2493
Education :
ปริญญาตรีสาขาการศึกษา (กศ.บ.) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ปริญญาโทศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
Career Highlights :
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ส.ส. สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์
อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
เลขาธิการสภาองค์การครูเพื่อสังคม (อคส.) เครือข่ายครูทั่วประเทศ 66 องค์กร
ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน
คอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์มติชน