ผลการดำเนินงานของ 9 บริษัท 11 ช่องทีวีดิจิทัล ในปี 2560 ที่ได้แจ้งผลประกอบการที่กระทรวงพาณิชย์ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำกำไร , กลุ่มที่ขาดทุนเพิ่มขึ้น และกลุ่มที่ขาดทุนลดลง
ช่อง 7 – โมโน กำไร
ช่อง 7 ยังคงเป็นช่องพี่ใหญ่ ที่มีผลประกอบการที่ดีที่สุดในจำนวนทีวีดิจิทัลทั้งหมด ทั้งรายได้และกำไรสูงที่สุด แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแข่งขัน รายได้กำไรลดลงจากปีก่อนๆ ก็ตาม สถานะกำไรสูงถึง 1,516.86 ล้านบาท
สำหรับ โมโน เป็นปีแรกที่ฟื้นกลับมาทำกำไร หลังจากขาดทุนมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มกิจการทีวีดิจิทัล โดยมีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 4 เรตติ้งเฉลี่ยช่องในปี 2560 อยู่ที่ 0.702 ขยับสูงขึ้นจากปี 2559 ที่อยู่ที่ 0.536 พลิกมามีกำไรอยู่ที่ 90.85 ล้านบาท จากปี 2559 ที่ขาดทุนอยู่ 275.69 ล้านบาท
ในปี 2561 เปิดศักราชต้นปี โมโนก็ขยับเข้าสู่ช่องอันดับ 3 แซงหน้าเวิร์คพอยท์ขึ้นมาได้แล้ว
กลุ่มช่อง 3 – GMM25 ขาดทุนมากขึ้น
กลุ่มช่อง 3 ในชื่อบริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย เป็นบริษัทที่ได้ 3 ช่องใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ได้แก่ ช่อง 33, 3SD, 3Family แม้ว่าปี 2560 มีรายได้ 2,398.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 จำนวน 65 ล้านบาท แต่ยังคงขาดทุนเพิ่มขึ้น 85.98 ล้านบาท โดยมีผลขาดทุนรวมปี 2560 อยู่ที่ 204.25 ล้านบาท
ส่วนช่อง GMM25 ที่เพิ่งมีการปรับเปลี่ยนทีมผู้บริหารชุดไหม่ ปี 2560 ขาดทุนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2559 ที่ขาดทุน 326.91 ล้านบาท มาขาดทุนอยู่ที่ 638.45 ล้านบาท
ช่องวัน รายได้เพิ่ม ขาดทุนลด
ช่องวันมีผลประกอบการที่ดีขึ้น จากเรตติ้งเฉลี่ยช่องที่สูงขึ้นจาก 0.406 ปี 2559 มาเป็น 0.537 ในปี 2560 มีรายได้สูงขึ้นจากปี 2559 และมีผลประกอบการขาดทุนลดลง 61 ล้านบาท มาขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 498 ล้านบาท
ส่วน 2 ช่องในกลุ่มทรู ทรูโฟร์ยู และทีเอ็นเอ็น ขาดทุนลดลง ในขณะที่อีก 2 ช่องข่าว ไบรท์ทีวี และวอยซ์ทีวี แม้ยังอยู่ในสถานการณ์ลำบากขาดทุนต่อเนื่อง แต่ก็ขาดทุนลดลงเช่นกัน.