จากการสำรวจเรตติ้งทีวีดิจิทัล เดือนพฤษภาคม 2561 ของ Nielsen พบว่า เดือนนี้ อันดับ 1-6 ไม่เปลี่ยนแปลง
ช่อง 7 ยึดตำแหน่งแชมป์คืนได้ตั้งแต่เดือนเมษายน หลังจากละครบุพเพสันนิวาสอวสานลง ทำให้อันดับแรกกลับมาเป็นของช่อง 7 แซงหน้าช่อง 3 HD ที่กลับมาอยู่อันดับ 2 อีกครั้ง
เรตติ้งเฉลี่ยขยับจาก 1.750 ในเดือนเมษายนมาอยู่ที่ 1.930 เนื่องจากละครหลังข่าวฟื้นกลับมาชนะคู่แข่งช่อง 3 อย่างเบ็ดเสร็จ มีเพียงละครเย็นที่ยังแพ้ช่อง 3 ที่จัด “บุพเพสันนิวาส” มาลงรีรันเรียกเรตติ้งอีกครั้ง
โมโน ยังคงใช้พลังหนังฝรั่ง ครองอันดับ 3 เหนือเวิร์คพอยท์ ที่อยู่อันดับ 4 ได้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้โมโนคาดการณ์ว่ารายได้เฉลี่ยของช่องต่อนาทีในปีนี้ จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาทต่อนาที เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 33,000 บาทต่อนาที โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้จะสอดคล้องกับเรตติ้งของช่องที่เพิ่มขึ้นด้วย
ช่อง 8 ยังครองอันดับ 5 ด้วยเรตติ้ง 0.567 นำหน้าช่อง ONE ได้เรตติ้ง 0.494 มากกว่าเดือนที่แล้ว
ที่น่าสนใจ ช่อง 3 SD หรือช่อง 28 ของกลุ่มช่อง 3 เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดจากเรตติ้งประจำเดือนพฤษภาคม 2561 ทำเรตติ้งแซงหน้าช่องไทยรัฐทีวี และอมรินทร์ทีวี กระโดดมาจากอันดับ 9 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 7 เป็นครั้งแรก
ด้วยอิทธิฤทธิ์ของละครรีรีน “สะใภ้จ้าว” ที่มี “โป๊ป ธนวรรธน์” น้ำตาล พิจักขณา นำแสดง ออกอากาศในช่วงละครเย็น ชนกับ “บุพเพสันนิวาส” ที่ช่อง 3 นำมารีรันด้วยซ้ำ ยังได้เรตติ้งสูง โดยเรตติ้งไต่ระดับขึ้นมาสูงถึง 1.743 ในวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ยังมีชุดละครรีรันในวันเสาร์-อาทิตย์ “คิวบิก” ได้เรตติ้งมาสูงในระดับ 1.5
นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากการถ่ายทอดสดวอลเลย์บอล เนชั่นส์ลีก 2018 เช่นแมตช์ระหว่าง เยอรมัน-รัสเซีย วันที่ 24 พฤษภาคม ยังได้เรตติ้งอยู่ที่ 0.351 ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยของช่องขึ้นมาถึง 2 อันดับ เข้าใกล้ช่องวันแล้ว
เมื่อเรตติ้งขึ้นมาติดท็อปเท็นช่อง ทำเรตติ้งสูงสุด ทำให้ช่อง 3 ทำรายได้จากช่อง 3 SD ได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน สามารถเป็นตัวเลือกให้กับองค์กรธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานรัฐ ที่มีงบไม่มาก สามารถเลือกมาลงโฆษณาในช่อง 3 SD ได้ เพราะติดอยู่ใน 10 อันดับ แถมเรตติ้งก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
จากข้อมูลเรตติ้งของช่อง 3 SD ทั้งปี 2560 พบว่า กลุ่มฐานผู้ชมของช่อง 3 SD เป็นกลุ่มคนในต่างจังหวัด ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ โดยมีเรตติ้งเฉลี่ยของพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่ที่ 0.259 และกรุงเทพฯ ที่ 0.314 เป็นกลุ่มผู้หญิง 0.313 และผู้ชาย 0.219
ส่วนช่องน้องเล็ก 3 Family หรือช่อง 13 ยังต้องลุ้นต่อ อยู่ในกลุ่มช่องอันดับประมาณ 15-16
ส่วนช่องทรูโฟร์ยู ที่เน้นหนักลงการรายการถ่ายทอดสดกีฬา ทั้งฟุตบอลไทยแลนด์ลีก และแบดมินตันชิงแชมป์โลก อูเบอร์คัพ ประเภททีมหญิง ทำให้เรตติ้งขยับขึ้นมาหนึ่งอันดับมาอยู่ที่ 12 ชนะช่องนาว 26
*** MCOT Family พุ่งขึ้น 4 อันดับ รั้งอันดับ 18
ช่อง 9 สามารถหนีจากอันดับท้ายๆ ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 10 ได้เป็นครั้งแรก จากกลยุทธ์การปรับผังของช่องใหม่เพิ่มรายการขายของ โฮม ช้อปปิ้ง, จัดซีรีส์เอเชียลงจอ โดยเฉพาะซีรีส์จีน ที่ได้รับความร่วมมือกับ Oversea Chaina TV (OCTV ) ของ China International Broadcasting Network (CIBN) ประเทศจีน นำเอาซีรีส์จีนลงจอ และยังมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลอังกฤษ รายการ English Football Legue (EFL)
*** สปริงนิวส์ลงแรง เรตติ้งใกล้บ๊วย
ช่องข่าวสปริงนิวส์ ที่ได้ไปรวมทีมข่าวกับเนชั่นทีวี เปลี่ยนแนวทางช่องสปริงนิวส์ให้กลายเป็นช่องโฮม ช้อปปิ้ง โดยร่วมมือกับทีวีไดเร็ค เรตติ้งลดลงจากเดือนเมษายนที่อยู่ที่ 0.029 ในอันดับ 20 หล่นมาอยู่ที่ 0.019 ในอันดับที่ 24 ชนะช่อง NBT ที่อยู่ในอันดับท้ายเพียงช่องเดียว.
