Customer Care ของ Cosmetic ไฮโซ

ใครที่เคยไปเวียดนามสักครั้ง กลับมาทีไรมักพูดเหมือนๆ กันว่า “ผู้หญิงเวียดสวยนะ” ผิวขาว ผมยาว รูปร่างผอมเพรียว และจากการพบปะผู้หญิงเวียดนามมาหลายแบบ ผู้เขียนพบว่าพวกเธอทุ่มเทกับเรื่องความสวยความงามมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่จัดอยู่ในประเภทฐานะดี และแน่นอนพวกเธออยู่ในกลุ่มเป้าหมายการทำตลาดของเครื่องสำอางกลุ่มบน (Prestige & Premium) เช่น Estee Lauder, Clinique, Wigleys, Lancome

ที่นั่นเครื่องสำอางกลุ่มบนดังกล่าวและกลุ่มรองลงมา (High Class) เช่น Shiseido, Carita, L’Oreal, Kanebo, Clarins, Pupa นิยมทำการตลาดที่ใช้ Customer Care เป็นจุดขาย เน้นการเปิด Beauty Saloon & Spa ของแบรนด์ตัวเองเพื่อให้ได้รับ Brand Royalty จากลูกค้าและความประทับใจพิเศษสุดมากกว่าการเน้นการขายในห้างสรรพสินค้าหรูเป็นหลัก

บนถนนในนครโฮจิมินห์ย่านเขต 1 หรือบริเวณ Le Loi คือจุดรวมใหญ่ของ Beauty Saloon มากมายจากหลายแบรนด์ชั้นนำ ส่วนใหญ่เป็นตึกแถว 2-3 ชั้น ตกแต่งตามสไตล์แบรนด์ของตัวเอง มีบริการตั้งแต่ทำผม, แต่งหน้า, ทำเล็บ, นวดหน้า, นวดตัว อย่างครบวงจร และมีการขยายสาขาไปทั่วเมืองใหญ่ๆ ในเวียดนาม

แบรนด์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากคือ Dermalogica ปัจจุบันมี Beauty Saloon & Spa ของตัวเองที่เวียดนามมากถึง 129 แห่ง

วิธีการทำตลาดแบบ Customer Care ที่ทำร้านบริการในรูปแบบของตัวเองเช่นนี้ แต่ละแบรนด์ดังมองว่าถึงฐานลูกค้าจะไม่มากโดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับ VIP และลูกค้าที่ซื้อประจำแต่ในด้านผลกำไรนั้นถือว่าคุ้มค่ากว่าการวางขายทั่วไปในห้างหรูด้วยซ้ำ