ในที่สุดผังการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ทางทีวีดิจิทัลทางช่องทรูโฟร์ยู, อมรินทร์ทีวี และช่อง 5 ก็ประกาศออกมาได้อย่างเป็นทางการเสียที ก่อนมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกเพียงแค่ 3 วัน เริ่มวันที่ 14 มิถุนายน
สาเหตุที่ล่าช้า เกิดจากข้อตกลงระหว่าง 3 ช่อง ในการเลือกแมตช์วันแข่งขัน จนทำให้ผังถ่ายทอดสดต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกไปหลายรอบ
ผังที่สรุปออกมานั้น แต่ละช่องได้ถ่ายทอดสดช่องละ 24 แมตช์เท่ากัน โดยมีแมตช์ที่ถ่ายทอดพร้อมกันทั้ง 3 ช่อง 3 แมตช์ คือแมตช์เปิดสนามวันที่ 14 มิถุนายน , 2 แมตช์รอบรองชนะเลิศในวันที่ 11 และ 12 กรกฎาคม และนัดชิงชนะเลิศวันที่ 15 กรกฎาคม
ส่วนแมตช์ที่เหลือตั้งแต่รอบแรกนั้น แต่ละช่องจะได้ถ่ายทอดสดทีละช่องไม่ซ้ำกันจำนวน 20 แมตช์ เริ่มจากอมรินทร์เป็นช่องแรก ตามด้วยช่อง 5 และทรูโฟร์ยู
ช่อง 5 ขอมีเอี่ยว ถ่ายสดแมตช์เดี่ยว ทำผังล่าช้า
ปัญหาของการจัดผังรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ เริ่มแรกทรูวิชั่นส์ ในฐานะผู้ซื้อลิขสิทธิ์เป็นคนจัดผัง ได้วางผังการถ่ายทอดสดไว้ที่ช่องละ 37 แมตช์ โดยที่ทุกแมตช์ที่อมรินทร์ทีวีถ่ายทอดสด จะมีช่อง 5 ถ่ายทอดสดพร้อมกันไปด้วย ในขณะที่ทรูโฟร์ยูได้ถ่ายทอดสดเดี่ยวในทุกแมตช์ จนทำให้กลุ่มช้างขอเจรจาทบทวนใหม่อีกครั้ง
จนต้องแจ้ง กสทช.ขอเลื่อนส่งผังรายการอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอให้ผู้บริหารสูงสุดทั้ง 2 รายต้องหันมาเจรจากันอีกครั้ง
ทั้งนี้ทั้งกลุ่มซีพีและกลุ่มช้างเป็น 2 สปอนเซอร์หลักจาก 9 รายที่ร่วมลงขันรวม 1,400 ล้านบาท ในการไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาแล้ว โดยทั้ง 2 กลุ่ม เป็นเพียง 2 บริษัทที่มีสถานีทีวีดิจิทัลที่สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้
ในการเจรจากันระหว่างบิ๊กผู้บริหารกลุ่มทรูและกลุ่มช้าง ได้มีการปรับผังใหม่อีกครั้งเพื่อความเป็นธรรมและพอใจของทั้งสองฝ่าย โดยให้ทรูโฟร์ยูและอมรินทร์ทีวี เป็น 2 ช่องหลักในการจัดแมตช์ถ่ายทอดลงผัง และมีช่อง 5 เป็นช่องเสริมในการถ่ายทอดสดควบคู่ไปกับแมตช์ที่ทั้งอมรินทร์และทรูถ่ายทอด
แต่แล้ว ช่อง 5 ไม่ได้ถ่ายทอดสดเดี่ยวเลย ทำให้ผู้บริหารช่อง 5 ไม่พอใจ ต้องขอปรับผังใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องช่วงเวลาการออกอากาศของช่อง 5 ที่วางแผนหารายได้จากค่าโฆษณาของตัวเองในช่วงก่อนและหลังการแข่งขัน แต่ติดปัญหาที่การถ่ายทอดสดครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณทั้งชุดจากทรูวิชั่นส์ ตั้งแต่รายการก่อนการแข่งขันจะเริ่ม ช่วงโฆษณาของ 9 สปอนเซอร์ และรายการหลังจบเกมการแข่งขัน เป็นรูปแบบรายการแบบเดียวกันในทุกช่อง รวมถึงช่องทรูวิชั่นส์ที่ถ่ายทอดสดด้วย
ช่อง 5 แม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสปอนเซอร์ แต่ก็ติดโผได้ถ่ายทอดสดมาตั้งแต่ต้น ด้วยแรงสนับสนุนจากรัฐบาล ที่หวังช่วยสร้างกระแสความนิยม เรตติ้งของช่อง 5 ได้บ้างจากการถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาใหญ่
จากข้อมูลเรตติ้งของนีลเส็น เรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 5 ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 0.024 เป็นอันดับที่ 21 ของตารางทีวีดิจิทัลทั้งหมด 25 ช่อง
ความวุ่นวายเหล่านี้ทำให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นโต้โผใหญ่ในการจัดการให้ประเทศไทยได้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ต้องเข้ามาจัดการเคลียร์ผังทั้งหมดด้วยตัวเอง จนสามารถสรุปออกมาได้ก่อนการแข่งขันมีขึ้นเพียงแค่ 3 วัน
ทรูโฟร์ยู อมรินทร์ทีวี และช่อง 5 ถ่ายทอดช่องละ 24 แมตช์
สำหรับผังที่สรุปสุดท้ายออกมานั้น ใช้หลักการเลือกแมตช์เริ่มจาก อมรินทร์ทีวีเป็นช่องแรก ตามด้วยช่อง 5 และทรูโฟร์ยู เรียงลำดับเวลา และวันที่ถ่ายทอดสด โดยในรอบแรก แต่ละช่องได้ถ่ายทอดสดช่องละ 16 แมตช์
รอบ 16 ทีม อมรินทร์และทรูโฟร์ยู ได้ถ่ายทอดสดช่องละ 3 แมตช์ ส่วนช่อง 5 ได้ถ่ายทอดสด 2 แมตช์
ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้าย ช่อง 5 ได้ถ่ายทอดสด 2 แมตช์ ในขณะที่อมรินทร์ทีวีและทรูโฟร์ยูช่องละ 1 แมตช์
ในรอบรอบชนะเลิศ ทั้ง 3 ช่องถ่ายทอดพร้อมกันทั้ง 3 ช่อง เช่นเดียวกับรอบชิงชนะเลิศ ส่วนรอบชิงที่ 3 ทรูโฟร์ยูได้ถ่ายทอดสด
โดยสรุปรวมทั้งหมดนี้ ทั้ง 3 ช่อง ได้ถ่ายทอดสดช่องละ 24 แมตช์ โดยมี 3 แมตช์ที่ทั้ง 3 ช่องได้ถ่ายทอดสดพร้อมกันทั้ง 3 ช่อง คือ แมตช์เปิดสนาม, รอบรองชนะเลิศ 2 แมตช์ และรอบชิงชนะเลิศวันที่ 15 กรกฎ าคม 2561
สำหรับงบประมาณในการซื้อลิขสิทธิ์และถ่ายทอดสดครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนทั้งหมด 9 บริษัท โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ให้การสนับสนุนรายละ 200 ล้านบาท ได้แก่ กลุ่มซีพี, กลุ่มไทยเบฟเวอเรจ, บีทีเอส, กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี, คิง เพาเวอร์ และ ธนาคารกสิกรไทย
โดยมี พีทีที โกลบอล เคมิคอล ให้การสนับสนุน 100 ล้านบาท บางจาก และคาราบาวแดง ให้การสนับสนุนรายละ 50 ล้านบาท
ทรูวิชั่นส์ ในฐานะตัวแทนไปเจรจาลิขสิทธิ์ ได้แบ่งการบริหารงบประมาณในการจัดการเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนค่าซื้อลิขสิทธิ์ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าการตลาดและประชาสัมพันธ์ 65 ล้านบาท และที่เหลือเป็นค่าบริหารจัดการทางเทคนิค
แต่ก็ข่าวดราม่าเรื่องการบริหารจัดการเงินที่ได้จากสปอนเซอร์ จนกลุ่มทรูต้องยื่นข้อเสนอ ให้ 9 สปอนเซอร์จะได้ลงโฆษณาในช่วงถ่ายทอดสดทั้ง 3 ช่องในทีวีดิจิทัลแล้ว ยังได้ลงโฆษณาในช่องทรูวิชั่นส์ ที่เปิดช่องพิเศษถ่ายทอดสดอีก 2 ช่องทั้งระบบ 4k และ HD ด้วย.