นับถอยหลัง เมื่อไหร่ Huawei ถึงเวลาแซง Apple ขึ้นเป็นสมาร์ทโฟนเบอร์ 2 ของโลกอย่างเต็มตัว?

กลางปี 2560 บริษัทวิจัยเคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ชเผยตัวเลขออกมาว่า แบรนด์ชั้นนำของจีนอย่าง “หัวเว่ย (Huawei)” สามารถทำยอดขายสมาร์ทโฟนประจำเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมของปี 2560 แซงหน้าไอโฟน (iPhone) ของบริษัทแอปเปิลได้สำเร็จ ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนยอดนิยมอันดับที่ 2 ตามหลังแค่แบรนด์ซัมซุงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาดูผลสรุปส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ในภาพรวมของปี 2560 ตามรายงานของไอดีซี กลับแสดงให้เห็นชัดเจนว่า เมื่อสรุปกันเป็นรายไตรมาสแล้ว ส่วนแบ่งการตลาดหัวเว่ยยังตามหลังไอโฟนอยู่ แม้ในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2560 จะสามารถจี้ติดแอปเปิลได้ แต่พอถึงไตรมาสที่ 4 ก็ถูกทิ้งขาด โดยในไตรมาสที่ 4 ของปีกลาย ไอโฟนของแอปเปิลสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้มากถึง 19.7% แซงเบอร์ 1 อย่างซัมซุง (18.9%) เสียด้วยซ้ำ

โดยเป็นผลมาจากการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ คือ ไอโฟน 8 และไอโฟน X ส่วนในช่วงเวลาเดียวกันหัวเว่ยสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้เพียง 10.7%

ข้อมูลจาก www.idc.com

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ภายหลังการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง คือ Huawei P20 และ Huawei P20 Pro ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม ทำให้เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ริชาร์ด หยู หรือ หยูเฉิงตง (余承东) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Huawei Consumer Business Group ออกมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจกลางงานประชุมที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระบุว่าในปีหน้า หรือ 2562 (ค.ศ. 2019) สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยน่าจะขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 2 ของโลกได้อย่างเต็มตัวเสียที

ริชาร์ด หยู

ริชาร์ด หยู เปิดเผยว่า ในปี 2561 นี้คาดว่าหัวเว่ยจะจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ถึงหลัก 200 ล้านเครื่อง ซึ่งจะทำให้ในภาพรวมหัวเว่ยจะจี้ติดแอปเปิลซึ่งในปี 2560 ขายสมาร์ทโฟนได้อยู่ที่ราว 215.8 ล้านเครื่อง

“ในปี 2560 หัวเว่ยมียอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก 153 ล้านเครื่อง ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของหัวเว่ยในจีนนั้นอยู่ที่ 23% โดยในปีนี้ส่วนแบ่งดังกล่าวน่าจะเติบโตโดยแตะ 30% และเพิ่มเป็น 40% ในปีถัดไป ตัวเลขดังกล่าวทำให้ปีหน้า (2562) เราจะยืนอยู่เหนือแอปเปิล และยึดอันดับ 2 ได้อย่างมั่นคง” ผู้บริหารหัวเว่ยระบุ ทั้งนี้นอกจากตลาดจีนแล้ว หัวเว่ยยังขายสมาร์ทโฟนได้เป็นล่ำเป็นสันในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปไม่ว่าจะเป็นอิตาลี สเปน และโปแลนด์

ส่วนในประเทศไทย สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยถือว่ามาแรงมาก โดยเมื่อกลางปีที่แล้ว ผู้บริหารของหัวเว่ย ประเทศไทย เคยออกมาเปิดตัวเลขระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 หัวเว่ยสามารถขายเครื่องได้มากกว่าปีก่อนหน้าถึง 8 เท่าตัว จากเมื่อเดือนเมษายน 2561 ที่ผ่านมา

ทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูเมอร์บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย ก็เคยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม หรือช่วงราคา 15,000 บาทขึ้นไป เหลือเจ้าตลาดหลัก ๆ อยู่ 3 ราย คือ ซัมซุง แอปเปิล และหัวเว่ย โดยหัวเว่ยพร้อมเร่งเครื่องชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าขึ้นเบอร์ 2 ในกลุ่มพรีเมียมภายในสิ้นปี 2561

เหลียวไปมองยอดจำหน่ายของไอโฟนทั่วโลกหลังไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 ก็พบว่า มีอาการค่อนข้างทรงตัวอย่างชัดเจน โดยบทวิเคราะห์จากไอดีซีที่ออกมาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2561 เผยว่า ในปีนี้ยอดขายไอโฟนน่าจะโตเพียง 2.6% ซึ่งแม้จะดีกว่าภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนของโลกที่มีแนวโน้มจะหดตัวลง 0.2%

เนื่องมาจากความอิ่มตัวของตลาดในประเทศกำลังพัฒนา แต่การรุกตลาดอย่างหนัก และความเติบโตแบบก้าวกระโดดของสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนอันดับหนึ่งอย่าง “หัวเว่ย” โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา น่าจะทำให้เจ้าพ่อสมาร์ทโฟนอย่างแอปเปิลเกิดอาการหนาว ๆ ร้อน ๆ บ้างไม่มากก็น้อย และแอปเปิลคงต้องเร่งสปีดมากขึ้นกว่านี้หากต้องการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของตัวเองเอาไว้.


หมายเหตุ :

• IDC: Smartphone Vendor Market Share 2017; https://www.idc.com/promo/smartphone-market-share/vendor

• Huawei set to overtake Apple in 2019 to be world’s No. 2 smartphone vendor; https://www.shine.cn/biz/tech/1806075920/

• Worldwide Smartphone Volumes Will Remain Down in 2018 Before Returning to Growth in 2019 and Beyond, According to IDC; https://www.idc.com/getdoc.jsp?containerId=prUS43856818