เป็นธรรมเนียมที่ “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” ประธานเครือสหพัฒน์ จะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อเพียงในช่วงการจัดงานสหกรุ๊ป เอ็กซ์ปอร์ตฯ ที่ปีนี้จัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 13 ส่งผลให้คำพูดของเขาเป็นที่จับตามอง ด้วยประสบการณ์ที่ช่ำชองจากธุรกิจหลากหลายประเภท ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม
เป็นความพยายามสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจระดับประเทศผ่านผู้มีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน
ยิ่งกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ทั้งเงินบาทแข็ง เศรษฐกิจตกต่ำ คนตกงาน ส่งออกลด ที่ส่งให้ตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกติดลบถึง 7.1% มากเป็นประวัติการณ์
แต่ในมุมมองของ “บุณยสิทธิ์” กลับไม่แปลกใจแต่อย่างใด คะแนนที่ “บุณยสิทธิ์” ให้กับรัฐบาลชุดนี้ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ก็ไม่ค่อยสวยงามเท่าไรนัก โทษฐานที่ทำให้ประเทศต้องตกอยู่ในภาวะขาดทุน…ถังแตก
“เห็นตัวเลขจีดีพีแล้วไม่แปลกใจ พ่อค้ารู้อยู่แล้วว่าต้องตก ทำไมภาครัฐถึงเพิ่งรู้ สภาพประเทศไทยตอนนี้จึงเหมือนตกเหว และตีลังกา”
“บุณยสิทธิ์” ชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศดูจะไม่แตกต่างกับเครือสหพัฒน์มากนัก ด้วยตัวเลขยอดขายที่ติดลบใกล้เคียงกับจีดีพีในไตรมาสแรก ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ กำไรที่ตกลงฮวบฮาบ และไม่แปลกที่งานสหกรุ๊ป เอ็กซ์ปอร์ตฯ ปีนี้จะมาในรูปแบบมหกรรมลดราคา คล้ายๆ ธงฟ้าช่วยชาติ ของกระทรวงพาณิชย์
แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางวิกฤต คือโอกาสใหม่ๆ ที่มักไม่เกิดขึ้นในช่วงปกติ
สิ่งที่เขาเห็นชัดคือ การเปิดกว้างในแนวคิด และการดำเนินการใหม่ๆ เพื่อก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลง
ที่ผ่านมาสหพัฒน์พยายามแก้โจทย์เรื่องกำไรของบริษัท ด้วยเหตุที่สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจดั้งเดิมไม่ใช่สินค้าที่ทำกำไรมากนัก ทั้งจากราคาวัตถุดิบที่ผันผวน และการแข่งขันด้านโปรโมชั่นที่ดุเดือด ขณะที่สินค้าแบรนด์เนม แฟชั่น ก็ตกลงต่อเนื่องจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา
โอกาสใหม่ๆ ของสหพัฒน์ขณะนี้ จึงเป็นการมองหาตลาดที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง ทั้งในแง่การเติบโต และทำกำไร ซึ่งสหพัฒน์ค้นพบแล้วในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กับสินค้ากลุ่มสุขภาพ
ไม่แปลกที่ปีนี้บรรยากาศการแถลงข่าวการจัดงานสหกรุ๊ปฯ ตั้งแต่ด้านหน้าจะเต็มไปด้วยบูธแนะนำกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่สหพัฒน์ร่วมทุนกับต่างประเทศ ทั้ง “ไอ-เฮลติ แก๊ก” เครื่องดื่มผสมฟักข้าว ที่มีคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงฮาร์ทติ เบเนคอล ที่เจาะกลุ่มผู้มีปัญหาโคเลสเตอรอล ชีสเค้กและซอฟต์เค้กที่ใช้กรรมวิธีอบด้วยระบบไอน้ำ และทู วันเดอร์บัน ขนมปังสอดไส้ 2 ชั้น ครั้งแรกในตลาด
สินค้าในหมวดอื่นๆ อย่าง หน้ากากอนามัย นวัตกรรมนำเข้าจากญี่ปุ่น ป้องกันและฆ่าเชื้อไวรัสได้ 99.99 % รองเท้าแพนเปิดตัวรองเท้าเคลือบนาโนที่ป้องกันแบคทีเรียและลดกลิ่นอับชื้น
ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนถึงการปรับตัวของสหพัฒน์ ยังเกิดขึ้นกับชื่องานที่เปลี่ยนจาก “สหกรุ๊ป เอ็กซ์ปอร์ต แอนด์ เทรด เอ็กซิบิชั่น” เป็น “สหกรุ๊ปแฟร์” เพื่อให้สั้นและเป็นที่จดจำได้ง่ายตามไอเดียของประธานเครือสหพัฒน์ ทั้งเป็นครั้งแรกที่ปรับรูปแบบการแถลงข่าวเป็นการสัมภาษณ์ผ่านผู้ประกาศข่าวชื่อดัง กนก รัตน์วงศ์สกุล และ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
ซึ่งไม่ค่อยปรากฏมากนักในธรรมเนียมการจัดงานแถลงข่าวงานสหกรุ๊ป เอ็กซ์ปอร์ต กำลังบ่งบอกเป็นนัยถึงองค์กรเก่าแก่ของไทยรายนี้ ที่กำลังปรับเปลี่ยน และไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคย รวมถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่สหพัฒน์มองว่าจำเป็นต้องกระโดดเข้าไป เพื่อสามารถสร้างการเติบโตให้กับเครือได้ จากที่ปีนี้คาดว่าจะเติบโตติดลบ 5-10%
