เครื่องบินโตสนั่น! แอร์บัสฟันธง อีก 20 ปี มีลำใหม่เพิ่ม 37,400 ลำ มูลค่า 5.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

แอร์บัส ได้ออกมาเปิดเผยถึงความต้องการเครื่องบินโดยสารของโลกในอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีจำนวน 48,000 ลำ ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และการเติบโตของการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ต่อปี ส่งผลให้ความต้องการเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินบรรทุกสินค้าลำใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 37,390 ลำ ตามการคาดการณ์ตลาดโลกปี 2561-2579 ของแอร์บัส (Global Market Forecast 2018-2036)

ตัวขับเคลื่อนการเติบโต มาจากการบริโภคของภาคเอกชนในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่เพิ่มขึ้น 2.4 เท่า และรายได้ของชนชั้นกลางทั่วโลกสูงขึ้นและเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

โดยประเทศกำลังพัฒนาจะมีสัดส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจคิดเป็นร้อยละ 60 ต่อการเดินทางต่อหัวเพิ่มจำนวนเป็น 2.5 เท่า เมื่อรวมกับรูปแบบธุรกิจการบินที่กำลังพัฒนาและการเปิดเสรีอย่างต่อเนื่อง การขยายตัวของการขนส่งทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้ความยืดหยุ่นในการชะลอตัวของภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น

ความหลากหลายของเครื่องบินและความสามารถในการพัฒนาทางเทคโนโลยีช่วยให้สายการบินต่างๆ มีความยืดหยุ่นในการสำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการลดต้นทุน

แอรบัสมองว่า ศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของเครื่องบินในปัจจุบัน จะช่วยลดขอบเขตความแตกต่างระหว่างตลาดต่างๆ ลง จึงทำให้มีแนวโน้มในการนำเครื่องบินไปใช้งานในวงกว้างมากขึ้น

“ข้อเท็จจริงเหล่านี้ ทำให้แอร์บัสพัฒนาการแบ่งกลุ่มเครื่องบินออกเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ขนาดปานกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการที่สายการบินใช้อากาศยานมากขึ้น” เอริค ชัลซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพาณิชย์ บริษัทแอร์บัส กล่าว

เมื่อแบ่งกลุ่มเครื่องบินออกเป็นสี่กลุ่มอย่างละเอียด พบว่า

กลุ่มเครื่องบินขนาดเล็ก

จะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่มีการแข่งขันมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งทางแอร์บัสคาดการณ์ว่าในอนาคตความต้องการเครื่องบินใหม่จะมีจำนวน 28,550 ลำ ซึ่งคิดเป็นกว่าสามในสี่ของความต้องการทั้งหมดที่คาดไว้

กลุ่มเครื่องบินขนาดกลาง

ย่างเครื่องบินลำตัวกว้างขนาดเล็กและเครื่องบินทางเดินเดี่ยวพิสัยไกล เพื่อใช้ในภารกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเติมและพิสัยการบินที่ไกลขึ้น แอร์บัสคาดการณ์ว่าความต้องการเครื่องบินขนส่งผู้โดยสารและเครื่องบินบรรทุกสินค้าจำนวน 5,480 ลำ

กลุ่มเครื่องบินขนาดใหญ่อย่างรุ่น เอ350 ที่ปัจจุบันนิยมนำมาใช้ปฏิบัติการบินมากที่สุด ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่องความยืดหยุ่นในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเติมและพิสัยการบิน คาดว่าจะมีความต้องการถึง 1,760 ลำ

กลุ่มเครื่องบินขนาดใหญ่พิเศษอย่างรุ่น เอ350-1000 และ เอ380 โดยปกติแล้วจะสะท้อนถึงความสามารถในการรองรับผู้โดยสารและพิสัยการบินที่ไกล แอร์บัสคาดการณ์ว่าความต้องการที่มีต่อเครื่องบินกลุ่มนี้ในอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีจำนวน 1,590 ลำ

จากความต้องการเครื่องบินลำใหม่จำนวนทั้งสิ้น 37,390 ลำ เครื่องบินจำนวน 26,540 ลำ นำไปใช้เพื่อรองรับการเติบโตของฝูงบิน และอีก 10,850 ลำจะใช้เพื่อทดแทนเครื่องบินรุ่นเก่าที่ประหยัดพลังงานน้อยกว่า จากการที่ฝูงบินในโลกมีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวถึง 48,000 ลำ จึงส่งผลให้ความต้องการนักบินใหม่เพิ่มขึ้นถึง 540,000 คน แอร์บัสยังคงเดินพัฒนาธุรกิจบริการเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น.