พีพีทีวี เจ้าบุญทุ่ม ปี 60 ขาดทุนอ่วม 2 พันล้าน

พีพีทีวี ช่อง 36 ของกลุ่มปราสาททองโอสถ เป็นอีกหนึ่งช่องทีวีดิจิทัลทุนหนา พร้อมทุ่มทุนซื้อรายการต่างประเทศ และลิขสิทธิ์กีฬามหาศาล ด้วยมูลค่าการลงทุนแต่ละปีแตะหลักพันล้านบาท หวังเพิ่มความนิยมและเรตติ้งที่จะเข้าสู่อันดับท็อปเท็น แต่ก็ต้องแลกกับผลประกอบการขาดทุนสูงถึง 2 พันล้านบาท

จากตัวเลขผลประกอบการของช่องพีพีทีวี ในนามบริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้ง ในปี 2560 ที่แจ้งไว้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ บริษัทมีรายได้ 317.16 ล้านบาท ดีขึ้นจากปีก่อนๆ แต่ก็มีสภาพขาดทุนหนัก ขาดทุนถึง 2,028.76 ล้านบาท โดยมีรายจ่ายในปี 2560 สูงถึง 2,231.88 ล้านบาท รายจ่ายสูงกว่าปี 2559 ที่มีรายจ่ายรวมอยู่ที่ 2,099.26 ล้านบาท

ตัวเลขขาดทุนอยู่ในระดับ 1 พันล้านบาท ตั้งแต่ปี 2557 ที่เริ่มประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ในขณะที่ปี 2556 แสดงตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ 97.29 ล้านบาทเท่านั้น

นอกจากนี้ข้อมูลที่แจ้งไว้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้านั้น บริษัทบางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้ง มีทุนจดทะเบียน 3 พันล้านบาท มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ กลุ่มปราสาททองโอสถ

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลรายได้เฉพาะกิจการช่องทีวีดิจิทัลช่องพีพีทีวีอย่างเดียว ที่ได้แจ้งไว้กับกสทช.นั้น ระบุว่ามีรายได้ในปี 2560 อยู่ที่ 295.66 ล้านบาท จ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้กสทช. จำนวน 610,000 บาท แต่ไม่ได้มีรายงานสถานะเรื่องการขาดทุน

เมื่อต้นปี 2561 พีพีทีวีมีการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารชุดใหม่ ได้ สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ อดีตผู้บริหารช่อง 3 และ พลากร สมสุวรรณ อดีตผู้บริหารช่อง 7 เข้ามาบริหารช่อง พร้อมประกาศแผนการเป็น World Class ทีวี ด้วยการทุ่มทุนซื้อลิขสิทธิ์หนังฮอลลีวู๊ด วาไรตี้มากมาย เสริมทัพจากเดิมที่ได้เคยทุ่มซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลทุกลีกของยุโรปมาแล้ว

ทั้งนี้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลที่พีพีทีวีเคยมีไว้ในครอบครองทั้งหมดมีตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, บุนเดสลีกา เยอรมัน, ลาลีกา เสปน, ซีเรียอา อิตาลี, ลีกเอิง ฝรั่งเศส ไปจนถึงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก

สำหรับลิขสิทธิ์รายการใหม่ๆ ที่พีพีทีวีได้ทุ่มซื้อในปีนี้เช่น สารคดี Discovery , ภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ด, ซีรี่ส์ต่างประเทศ , รายการข่าวบันเทิง ET (Entertainment Tonight ) และจ้างผลิตรายการวาไรตี้ของไทยอีกจำนวนมาก รวมถึงแผนการลงทุนด้านละครไทย

อย่างไรก็ตามผลตอบรับจากการเปลี่ยนแปลงใหม่ยังไม่สามารถทำให้เรตติ้งความนิยมของช่องดีขึ้น เมื่อเดือนเม..61 เรตติ้งของช่องขึ้นสูงสุดที่ 0.179 ในอันดับ 11 เริ่มใกล้ติดท็อปเท็นเต็มที่ แต่หลังจากนั้นก็ลดต่ำลงเรื่อยๆ จนเดือนล่าสุด มิ.. หล่นไปอยู่อันดับ 15 เรตติ้ง 0.125

สาเหตุหนึ่งมาจากช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงปิดฤดูกาลฟุตบอลเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เมื่อไม่มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลเข้ามาเสริมผังเรตติ้งของช่องจึงตกลงไปด้วยรายการที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ รายการข่าว ช่วงข่าวเย็นและเข้มข่าวค่ำ เช่นวันที่ 25 ..ที่ผ่านมาเข้มข่าวค่ำ เป็นรายการที่ได้เรตติ้งสูงสุดของช่องประจำวัน เรตติ้ง 0.410 นอกจากรายการข่าวแล้ว ช่วงที่ถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกต่างๆของยุโรป ก็จะเป็นรายการที่ได้เรตติ้งสูงสุดของช่องด้วย

อย่างไรก็ตามแม้ว่าพีพีทีวีจะประสบปัญหาขาดทุนหนักก็ตาม เมื่อสิ้นปี 2560 ที่ผ่านมา นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหารพีพีทีวี ก็ยังประกาศให้เงินโบนัสพนักงาน ในอัตรา 5,000-10,000 บาทต่อคน ในขณะที่ทีวีดิจิทัลช่องอื่นๆ ประกาศปรับลดเลย์ออฟพนักงานกันเป็นส่วนใหญ่.