ถือเป็น “บิ๊กดีล” ที่คาดว่าจะเข้าไปเขย่าตลาดกาแฟในประเทศจีน หลังจากที่ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่จาก 2 ธุรกิจ ระหว่างเชนค้าปลีกกาแฟรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา และแพลตฟอร์มเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซของจีน เมื่อบริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (“สตาร์บัคส์”) (NASDAQ: SBUX) และอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (“อาลีบาบา”) (NYSE: BABA) ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ภายใต้แนวคิด “ค้าปลีกยุคใหม่” (New Retail)
ความร่วมมือในครั้งนี้ ถูกคาดหมายว่าจะเป็นการพลิกโฉมหน้าของวงการกาแฟในประเทศจีน โดยจะครอบคลุมธุรกิจหลักของอาลีบาบามากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งอาหารถึงบ้านจาก Ele.me ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งอนาคต เหอหม่า (Hema) แพลตฟอร์มค้าปลีกอย่างทีมอลล์ (Tmall) และเถาเป่า (Taobao) และแพลตฟอร์มชำระเงิน อาลีเพย์ (Alipay)
โดยสตาร์บัคส์จะเริ่มทดลองให้บริการส่งกาแฟถึงบ้าน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 เป็นต้นไปในประเทศจีน ควบคู่ไปกับการเปิดทำการ “สตาร์บัคส์ เดลิเวอรี คิทเช่น” (Starbucks Delivery Kitchen) สำหรับทำอาหารและเครื่องดื่มเพื่อจัดส่งถึงบ้านโดยเฉพาะ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยร้านสตาร์บัคส์ออนไลน์ ที่พัฒนาขึ้นจากการรวบรวมหลากหลายแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ที่แตกต่างกันไปของลูกค้าสตาร์บัคส์แต่ละคนในประเทศจีน
การประกาศความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของบริษัทระดับโลกทั้งสอง ในการนำจุดแข็งธุรกิจค้าปลีกและเทคโนโลยีมาผสมผสานกันให้เกิดเป็นประสบการณ์รูปแบบใหม่สำหรับลูกค้า ด้วยแพลตฟอร์มต่างๆ ของอาลีบาบา และโครงสร้างพื้นฐาน รองรับแนวคิด “ค้าปลีกยุคใหม่” ของสตาร์บัคส์ เพื่อให้บริการลูกค้าได้ทั้งทางหน้าร้านและผ่านช่องทางออนไลน์ แบบไร้รอยต่อ
เควิน จอห์นสัน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ บอกว่า ด้วยพันธมิตรกว่า 45,000 รายที่ร่วมือกัน ทำให้ธุรกิจของสตาร์บัคส์ในประเทศจีนเติบโตได้อย่างรวดเร็วกว่าในตลาดอื่นทั่วโลก และความร่วมมือกับอาลีบาบาจะพลิกรูปแบบของธุรกิจค้าปลีกสู่อนาคต ช่วยให้บริการของสตาร์บัคส์เหนือกว่าความคาดหวังของผู้บริโภคชาวจีน
แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดการผลักดันแนวคิดค้าปลีกยุคใหม่ของอาลีบาบา ซึ่งพลิกรูปแบบการค้าขายด้วยการผสานประสบการณ์บนช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน โดยอาลีบาบาได้นำเสนอแนวคิดค้าปลีกยุคใหม่นี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2559 ก่อนจะพัฒนาให้กลายเป็นกลยุทธ์ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมค้าปลีกจวบจนปัจจุบัน
เปิดอีโคซิสเต็ม อาลีบาบาหนุนสตาร์บัคส์ ส่งกาแฟถึงบ้าน ด้วย Ele.me
ในเดือนกันยายน สตาร์บัคส์จะร่วมมือกับ Ele.me แพลตฟอร์มการจัดส่งอาหาร ซึ่งครอบคลุมเครือข่ายผู้ให้บริการจัดส่งอาหารในระบบกว่า 3 ล้านราย โดยจะเริ่มให้บริการจากร้านสตาร์บัคส์ 150 สาขา ภายในย่านการค้าสำคัญของกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ จากนั้นจึงขยายบริการจัดส่งกาแฟไปยังร้านสตาร์บัคส์มากกว่า 2,000 สาขาใน 30 เมือง ภายในสิ้นปีนี้
สตาร์บัคส์และ Ele.me ได้ร่วมมือกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับบริการจัดส่งสินค้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทั้งพนักงานจัดส่งสินค้าจาก Ele.me ที่มารับหน้าที่จัดส่งกาแฟโดยเฉพาะ เพื่อทำเวลา และการส่งสินค้าที่แน่นอน และรูปแบบการจัดส่งตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละคน ให้เหมือนกับบริการจากหน้าร้านสตาร์บัคส์
หวัง เหล่ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ele.me บอกว่า การร่วมมือกับสตาร์บัคส์ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดความร่วมมือกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ ทั้งยังเป็นการขยายส่วนแบ่งตลาดจัดส่งอาหารในจีนด้วย
เหอหม่า ช่วยเรื่องคลังสินค้าและส่งของอินไซต์ลูกค้า
ในส่วนการร่วมมือกับซูเปอร์มาร์เก็ต เหอหม่า จะเข้ามาช่วยเสริมให้กับ “สตาร์บัคส์ เดลิเวอรี คิทเช่น” ทั้งในเรื่องคลังสินค้าและบริการในการจัดส่งเครื่องดื่มชา-กาแฟของสตาร์บัคส์ถึงมือลูกค้า ควบคู่ไปกับการจัดส่งจากร้านสาขาของสตาร์บัคส์ที่มีอยู่เดิม
ขณะเดียวกัน สตาร์บัคส์ ยังสามารถนำข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค และความเชี่ยวชาญในการจัดการคลังสินค้าของเหอหม่ามาพัฒนาศักยภาพในการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของทั้งลูกค้ารายบุคคลและครอบครัวในชุมชนต่างๆ ทั่วทั้งประเทศจีน
กลยุทธ์ความร่วมมือนี้จะมีบทบาทในการวางแผนขยายเครือข่ายร้านสตาร์บัคส์สู่สาขาใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงสาขาของสตาร์บัคส์ เดลิเวอรี คิทเช่น เพื่อขยายความครอบคลุมพื้นที่และการเข้าถึงลูกค้าของบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านของสตาร์บัคส์
ขณะที่พาร์ตเนอร์หรือพนักงานก็จะสามารถยกระดับประสบการณ์หน้าร้านในแบบของ “Third Place” จุดกึ่งกลางที่ลงตัวระหว่างบ้านและที่ทำงาน
เบลินดา หว่อง (Belinda Wong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ ประเทศจีน กล่าว ลูกค้าชาวจีนมีความคาดหวังสูงไม่น้อยในด้านของประสบการณ์ที่จะได้รับจากสตาร์บัคส์ การผนึกกำลังกับอาลีบาบาในครั้งนี้ทำให้ก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างบ้าน ที่ทำงาน หน้าร้าน และช่องทางดิจิทัลได้อย่างเต็มตัว ประเทศจีนเป็นตลาดแห่งแรกที่ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ ในทุกๆ มิติของชีวิตประจำวัน
เปิดร้านสตาร์บัคส์เสมือนจริง
อีกหนึ่งในความร่วมมือของทั้งคู่ คือพัฒนา “ร้านสตาร์บัคส์แบบเสมือนจริง” แห่งแรกในประเทศจีน โดยอาลีบาบาจะพัฒนาระบบบริหารจัดการหน้าร้านออนไลน์แบบรวมศูนย์ ที่ออกแบบมาให้กับสตาร์บัคส์โดยเฉพาะ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ ทั้งแอปสตาร์บัคส์ และแอปสำหรับลูกค้าของอาลีบาบาอย่างเถาเป่า อาลีเพย์ ทีมอลล์ และโกวเป่ย (Koubei)
ช่วยให้โมเดลธุรกิจของการผสานกันระหว่างช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ได้ลงตัวยิ่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนใช้บริการจากสตาร์บัคส์ได้ตลอดทั้งวัน โดยไม่มีเวลาและสถานที่มาเป็นอุปสรรค ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่บ้านหรือออฟฟิศ อยู่ร้านสตาร์บัคส์หรือในโลกออนไลน์ ใช้บริการสตาร์บัคส์ได้เหมือนกัน สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ สั่งเครื่องดื่มจากสตาร์บัคส์
ขณะเดียวกัน มีแพลตฟอร์ม “Say it with Starbucks” สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก โดยที่สตาร์บัคส์ รีวอร์ดส์ (Starbucks Rewards; SR) จะถูกนำมาผนึกรวมเข้ากับระบบแบบรวมศูนย์นี้ เพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าแต่ละราย และเข้าใจข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เพื่อพัฒนาบริการดิจิทัลสำหรับประเทศจีนต่อไปในอนาคต.