L’Oréal จับมือ Facebook ใช้ AR เปลี่ยนการแต่งหน้าให้เหมือนจริง แบบนี้สาวๆ จะออกจากหน้าเฟซบุ๊กหรือหยุดช้อปเครื่องสำอางได้ยังไง

มีเทคโนโลยีต้องรู้จักใช้ น่าจะเป็นบทสรุปที่ชัดเจนสำหรับความร่วมมือระหว่างโมดิเฟส (ModiFace) บริษัทลูกของลอรีอัล ได้ประกาศความร่วมมือระยะยาวกับเฟซบุ๊ก (Facebook) ลอรีอัล (L’Oréal) และเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่จับมือกันพัฒนาและนำเทคโนโลยีเออาร์ (AR-Augmented Reality) ที่ผสมผสานโลกจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน มาใช้สร้างประสบการณ์และตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก งานนี้ทั้งสนุกและคาดว่าน่าจะทำให้ลอรีอัลขายของได้ดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะทางออนไลน์และโซเชียลคอมเมิร์ซ (Social Commerce)

ทั้งนี้ ลอรีอัล ได้ซื้อกิจการของบริษัทเทคโนโลยี ModiFace ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเอไอ (AI-Artificial Intelligence) และเออาร์ เมื่อต้นปี 2561 เพื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมความงาม และได้ร่วมมือกับบริษัทดังๆ ทั่วโลกอย่าง Samsung และ Pinterest เกี่ยวกับบริการเออาร์มาแล้ว แต่นั่นก็ไม่มากเท่าการจับมือกับเฟซบุ๊ก ที่มีฐานผู้ใช้อยู่ถึง 2 พันล้านคนทั่วโลกในปัจจุบัน

Lubomira Rochet หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลของลอรีอัล กล่าวว่า การร่วมมือกันนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงแบรนด์ได้อย่างแท้จริง และมีโอกาสลองผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนซื้อ ผ่านการใช้เครือข่ายทางสังคมอย่างเฟซบุ๊กนั่นเอง

โครงการด้านเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบดิจิทัลของลอรีอัล ในการปรับปรุงและสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่เชื่อว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท สามารถเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น เพราะว่าเทคโนโลยีเออาร์จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถมองเห็นเทรนด์ความงามในแบบฉบับของพวกเขา และเลือกสีที่เหมาะสมสำหรับการแต่งหน้าได้จากภาพจำลองที่เห็นจริง จากนั้นจะสามารถคลิกผ่านเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของลอรีอัลได้อย่างไร้รอยต่อ

เทคโนโลยีเออาร์ที่พัฒนาขึ้นนี้ จะทำงานร่วมกับเฟซบุ๊ก คาเมร่า (Facebook Camera) เพื่อช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคสามารถลองแต่งแต้มสีสันเสมือนจริงได้ นำร่องโดยผลิตภัณฑ์ภายใต้ นิกซ์ โปรเฟสชั่นแนล เมกอัพ (NYX Professional Makeup) แบรนด์ในสังกัดของลอรีอัล แบรนด์ที่มาแรงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ รักการแต่งหน้าที่สะท้อนความเปลี่ยนตัวเองและเปลี่ยนไปไม่ซ้ำแนว โดยจะในปลายเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้

การรุกตลาดด้วยเทคโนโลยีร่วมกับพันธมิตรที่มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่สุดในโลกอย่างเฟซบุ๊ก  สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของลอรีอัลต่ออีคอมเมิร์ซอย่างมาก โดยเชื่อว่าจะเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง ซึ่งยืนยันได้จากรายงานประจำปี 2017 ของลอรีอัล ก็พบว่า บริษัทสามารถสร้างรายได้มากกว่า 2 พันล้านยูโรต่อปีจากยอดขายออนไลน์ หรือคิดเป็นประมาณ 8% ของรายได้รวม และทำให้อีคอมเมิร์ซกลายเป็นช่องทางตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของแบรนด์ ถ้าคิดสัดส่วนจากอีคอมเมิร์ซเฉพาะในตลาดจีน ตัวเลขรายได้จากอีคอมเมิร์ซของบริษัทเครื่องสำอางจากฝรั่งเศสรายนี้ ทำสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 4 หรือ 26.4% ของยอดขายเลยทีเดียว

เรื่องเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องสงสัยแล้วว่า ทำไมลอรีอัลจึงพยายามค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการเพิ่มยอดขายจากอีคอมเมิร์ซมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น การทำแอปพลิเคชั่นต่างๆ กระตุ้นยอดขายออนไลน์ นอกเหนือไปจากช่องทางของตน อีกทั้งตอนนี้ยังเล็งเห็นความสำคัญและบุก โซเชียลคอมเมิร์ซเต็มตัว และเชื่อว่าจะกลายเป็นอีกแหล่งรายได้สำคัญของแบรนด์ แม้ว่าเป้าหมายหลักของกลยุทธ์การใช้เออาร์ในตอนแรก จะเน้นที่การเข้าถึงผู้บริโภครายใหม่ด้วยวิธีที่อาศัยความบันเทิงและทำให้สนุกสนานเท่านั้นก็ตาม แต่ดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จด้านตัวเลขก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ และทำให้บริษัทต้องคิดไปไกลกว่าเดิมเมื่อมองเห็นโอกาส

อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลอรีอัล นำเออาร์มาใช้ เพราะเคยทำงานร่วมกับ Founders Factory ในการหาสตาร์ทอัพเพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจมาแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จับมือกับเฟซบุ๊ก แล้วนำมาปรับให้เข้ากับองค์กร ทั้งในส่วนของวิธีการทำการตลาดและการสื่อสารกับผู้บริโภคให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

เหตุผลง่าย ๆ ที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ก็เพราะยุคนี้การสร้างประสบการณ์และทำให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ นั่นเอง ส่วนการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ครั้งนี้จะให้ประโยชน์และผลลัพธ์ที่ดีมากน้อยแค่ไหน รอไม่นานก็รู้ผล.

ที่มา : https://www.marketingweek.com/2018/08/09/loreal-looks-to-drive-up-ecommerce-sales-in-ar-partnership-with-facebook/?cmpid=em~newsletter~weekly_news~n~n&utm_medium=em&utm_source=newsletter&utm_campaign=weekly_news&eid=5903569&sid=MW0001&adg=05A1F053-04FF-43C5-AFF0-1347831A82CE