เทนนิสเวิลด์ทัวร์ แม่เหล็กระดับตำนาน

ใช่แต่กอล์ฟระดับ LPGA เท่านั้นที่เลือก “พัทยา” เป็นสถานที่จัดแข่งขัน “เทนนิส” ก็เป็นอีกหนึ่งใน รายการกีฬาระดับโลกที่เลือกเมืองชายหาดตะวันออกของไทย มาเป็นสถานที่จัดแข่งขันระดับโลกต่อเนื่องมาแล้วถึง 9 ปีเต็ม

รายการเทนนิสของ Sony Ericsson WTA Tour ที่ยิ่งใหญ่และยาวนานที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับ 18 ปีของการใช้กีฬาเทนนิสเพื่อเกื้อหนุนการท่องเที่ยวเมืองพัทยา และเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพัทยาให้ดูพรีเมียมและมีเสน่ห์ในอีกรูปแบบหนึ่ง

โดยมี 5 นักเทนนิสหญิงระดับ TOP 20 ของโลก คือเป้าหมายที่จะถูกเจรจามาร่วมแข่งขันในรายการนี้ เพื่อสร้างแรงดึงดูดจากแฟนๆ เทนนิสรวมถึงสปอนเซอร์ต่างๆ แม้จะต้องมีราคาค่าตัวที่สูงมาก ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักของการจัดการแข่งขันพีทีที พัทยา โอเพ่น

เทนนิสสาวระดับมือโปร “นาเดีย เปรโตว่า” และ “ เวร่า ซโวนาเรว่า” คือส่วนหนึ่งของผู้แข่งขัน ซึ่งเวร่าก็คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวไปครอง และแชมป์หญิงคู่คือความสำเร็จของนักเทนนิสสาวมือ 1 ของไทย แทมมารีน ธนสุกาญจน์ และ ยาโรสราวา เชฟโดวา สาวคาซัคสถาน

ถ้าวัดผลสำเร็จของรายการนี้เมื่อวันที่ 7-15 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา มีผู้ชมเพิ่มขึ้นกว่า 45% อันเป็นผลมาจากเพิ่มสแตนด์และการโปรโมตที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมตลอดทั้งรายกว่ากว่า 20,000 คน ขณะเดียวกันก็มีการรายงานผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เพิ่มขึ้น 50% โดยเฉพาะจากสื่อต่างประเทศ เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดในกว่า 50 ประเทศ ในเอเชีย รัสเซีย ยูเครน ตะวันออกกลางและยุโรป

เริ่มแรกนั้นรายการนี้จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ แม้จะเป็นรายการแข่งขันระดับนานาชาติ แต่ก็ยังเป็นรายการเล็กๆ จนเมื่อปี 2534 ได้ยกระดับการแข่งขันจากระดับ Challenger มาเป็น WTA Tour จึงมองหาสถานที่ใหม่ที่มีความพร้อมและมีบรรยากาศที่แตกต่าง ขณะเดียวกันจากรายการแรกที่มีเงินรางวัล 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก็พุ่งขึ้นเป็น 220,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.7 ล้านบาท) ในปัจจุบัน

“ในกรุงเทพฯไม่มีสถานที่ที่ถูกใจ พอมาดูที่พัทยาเจอโรงแรมดุสิตธานี มีสนามเพียงพอ มี Facilities โอเค จึงเสนอไป และเมื่อกรรมการมาตรวจเขาพอใจ เป็นรูปแบบที่ไม่ค่อยมีใครจัดเพราะส่วนใหญ่จะแข่งในเมืองใหญ่ แต่นี่คือเมืองท่องเที่ยวริมทะเล ซึ่งจากการแข่งขันระดับ World Tour กว่า 60 รายการ มีประมาณ 3 รายการเท่านั้นที่แข่งริทะเล” เจฟฟรีย์ โรล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนแทงเกิล โปรโมชั่น จำกัด ผู้อำนวยการแข่งขันพีทีที พัทยา โอเพ่น ให้รายละเอียด

ด้วยจุดเด่นด้าน Location ดังกล่าว ทำให้พีทีที พัทยา โอเพ่น กลายเป็นรายการที่นักเทนนิสหญิงทั่วโลกต้องการมาแข่ง นอกเหนือจากล่าเงินรางวัลแล้วยังหมายถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างอีกด้วย

“เขาอยากมาอาบแดด เล่นน้ำทะเล และทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เราจัดให้ ซึ่งถือว่าครบรส แต่ในการแข่งขันแต่ละครั้งจะมีนักเทนนิสเข้าร่วมแข่งประมาณ 60 คน จากผู้สมัครทั้งหมด 200-300 คนต่อปี และกลุ่มนักเทนนิสเหล่านี้จะกลายเป็นกระบอกเสียงโปรโมตเมืองพัทยาให้กับเพื่อนๆ รวมถึงคนในประเทศของเขาต่อไป”

คอนชิตาร์ มาติเนช ยายุก บาซูกิ และ แพตตี้ ชไนเดอร์ ล้วนแล้วแต่เคยมาคว้าแชมป์ที่รายการนี้ทั้งสิ้น ขณะที่ดาวเด่นของวงการคนอื่นๆ ก็ต่างเคยมาแข่งขันรายการนี้ อาทิ มาเรีย ชาราโปว่า ซาเนีย เมียร์ซา

ขณะที่การแข่งขันครั้งที่ 19 ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-14 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งถึงเวลานั้น หวังว่าพัทยาจะเต็มไปด้วยแขกบ้านแขกเมืองซึ่งนอกเหนือจากเป็นนักเทนนิส ผู้ติดตาม แล้วยังรวมถึงนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลกที่จะหลั่งไหลมาร่วมกินลม (ทะเล) ชมเทนนิสที่นี่อย่างครึกครื้นกว่าทุกปี

“ครั้งที่ 19 จะมีกิจกรรมนอกสนามมากขึ้น เช่น ห้องแสดงสินค้า มีดนตรี แฟชั่นโชว์ ทำให้ดึงดูดคนมากขึ้น”