The Voice ไป The Car มา ช่อง 3 จัด “The Car อัจฉริยะทั้งคัน” รายการวาไรตี้รูปแบบใหม่ ลงแทน The Voice เคยออกอากาศในทุกเย็นวันอาทิตย์ช่วงปลายปี
การถอนตัวออกไปของรายการ The Voice Thailand จากผังช่อง 3 ไปซบช่องเศรษฐี “พีพีทีวี” ด้วยเหตุผลที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอย่างกะทันหัน ทำให้ช่อง 3 ต้องเร่งหารายการวาไรตี้เข้าเสริมผังโดยด่วน ซึ่งมาลงตัวด้วย The Car รายการวาไรตี้สายพันธ์ุไทยแท้ เป็นผลงานจากบริษัท มีมิติ ของ รุ่งธรรม พุ่มสีนิล ซึ่งคร่ำหวอดกับการผลิตวาไรตี้เกมโชว์ เคยผลิตรายการ “แฟนพันธุ์แท้“ และอีกหลายรายการให้กับเวิร์คพอยท์
รุ่งธรรม พุ่มสีนิล กรรมการผู้จัดการบริษัท มีมิติ ผู้ผลิตรายการ The Car ยอมรับว่า รายการ The Car มาในช่วงที่ The Voice ถอนตัวไป ช่อง 3 จึงต้องคัดเลือกรายการใหม่เข้ามาลงผังแทนที่ ด้วยรูปแบบรายการที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนรายการวาไรตี้ทั่วๆ ไป ทำให้บริษัทได้รับเลือกจากช่อง 3 ให้ออกอากาศในช่วงวันอาทิตย์เวลา 18.20น. เริ่ม 7 ต.ค. นี้ เป็นตอนแรก
รายการวาไรตี้ในช่องทีวีดิจิทัลส่วนใหญ่จะเป็นรายการประเภทร้องเพลง, ประกวดทำอาหาร, ดราม่า เขาจึงเลือกรูปแบบการแข่งขันของผู้เข้าแข่งที่ต้องสู้กับอัจฉริยะ ที่เอาชนะกันด้วยความรู้ สู้กันด้วยรถ
อัจฉริยะที่ว่า คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่จะเข้ามาเป็นโจทย์ที่ท้าทายให้ผู้เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งประกอบไปด้วย ดารา 3 คน และผู้เข้าร่วมแข่งขันจากทางบ้าน 1 คน โดยที่ศิลปินดาราที่เข้ามาแข่งขันนั้น จะช่วยผู้แข่งขันเพื่อเอาชนะผู้เชี่ยวชาญให้ได้ และแน่นอนว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวกับรถ เพราะต้องมีกิจกรรมภารกิจที่ต้องอยู่ในรถ
เมื่อเป็นรายการใหม่แกะกล่อง ที่ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง และต้องคิดรูปแบบรายการเพื่อให้ “โดน” ใจผู้ชมให้มากที่สุด แน่นอนว่ารายการจะต้องโดนเปรียบเทียบกับความสำเร็จของ The Voice ในแต่ละซีซันที่ผ่านมา ซึ่งซีซัน 6 ที่เป็นซีซันสุดท้ายที่อยู่กับช่อง 3 ทำเรตติ้งเฉลี่ยได้ถึง 3.283 แต่รุ่งธรรมบอกว่าเขาเชื่อด้วยคุณภาพรายการ ความตั้งใจ ความคิดสร้างสรรค์ จึงมั่นใจว่าจะได้เรตติ้งแน่นอน
The CAR จะเป็นรายการใช้ทั้งทักษะ, ร่างกาย, ความรู้ ความอัจฉริยะ ที่วิ่งบนความตลก สนุกสนาน และกวนโอ๊ย
รุ่งธรรม ยืนยัน
ส่วนที่มาชื่อรายการ The Car รุ่งธรรมบอกว่า รายการมีส่วนผสมของการครีเอทีฟ และการตลาดเข้าด้วยกัน ในทุกปีช่วงปลายปี จะเป็นช่วงของมหกรรมมอเตอร์โชว์ ประจำปี จะสามารถหาลูกค้าที่แบรนด์รถยนต์ได้แน่นอน และเมื่อมารวมกับรูปแบบรายการ เชื่อว่าจะเป็นจุดขายที่มีความแข็งแรงมากที่สุดรายการหนึ่ง
รุ่งธรรมนั้นคลุกคลีรายการวาไรตี้ในไทยมานาน ผลิตรายการมาไม่ต่ำกว่า 30 รายการ เคยเป็นอดีตผู้บริหารดูเรื่องผลิตรายการให้เวิร์คพอยท์ เช่น แฟนพันธุ์แท้, เกมทศกัณฐ์, ล้วงลับตับแตก, หลานปู่กู้อีจู้, SME ตีแตก โดยมีรายการ “อัจฉริยะข้ามคืน” ในปี 2549 ที่เวิร์คพอยท์ทำให้กับช่อง 3 และเป็นหนึ่งในรายการ talk of the town ของช่วงนั้น
หลังจากสั่งสมประสบการณ์มานาน เขาตัดสินใจลาออก ตั้งบริษัทมีมิติ ที่มีบริษัท วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือช่องวัน ถือหุ้นด้วย โดยรับผลิตรายการให้กับช่องวัน ช่องจีเอ็มเอ็ม25 อีกหลายรายการ เช่น ศึกวันดวลเพลง, Stage Fighter – ไมค์หมู่สู้ฟัด, The Wall – กำแพงพลิกชีวิต และ TOP Chef Thailand ซีซัน 1 จากนั้นมาเริ่มต้นผลิตรายการวาไรตี้ให้กับช่อง 3 ตั้งแต่ปีที่แล้ว เช่น รายการฮอลลีวูด เกมไนท์ ซีซันที่ 1 และ ซีซันที่ 2, สงครามปลายจวัก และ สมรภูมิชิงเพลง.