สร้างแฟนคลับแบบกิ๊บซี่

“สำหรับนักร้องนักแสดง การเล่น Twitter เป็นเรื่องที่ดี คุยกับแฟนๆง่าย ไม่ยุ่งยาก สิ่งที่เราอยากจะบอกก็จะใส่ลงไป ไม่ต้องมาทำเว็บ” วนิดา เติมธนาภรณ์ หรือ กิ๊บซี่ สมาชิกวง Girly Berry ศิลปินในสังกัดอาร์เอสโปรโมชั่น ชี้ให้โพสิชันนิ่งฟังถึงคุณค่าของ Twitter กับการพูดคุยโดยตรงกับแฟนๆ ด้วยตัวเอง ส่งผลดีต่ออาชีพนักร้องนักแสดงอย่างเธอและคนอื่นๆ

“เล่นกันเอง ทำเอง ทั้ง hi5 Facebook Twitter ทางบริษัทไม่เคยมาบอกให้เล่นเลย” เป็นคำยืนยันของกิ๊บซี่ทั้งในนามตัวเองและเพื่อนๆ ในวงทุกคน

กิ๊บซี่ก็ได้รู้จักทวิตเตอร์จาก กิ๊บซ่า เพื่อนร่วมวงที่มาแนะนำให้สมาชิกคนอื่นๆ รู้จักทวิตเตอร์และช่วยสมัครสมาชิกให้ แต่ผ่านไปแค่ 1 เดือน กิ๊บซี่สนุกกับการทวิตเตอร์มากกว่ากิ๊บซ่าและเพื่อนๆ ทุกคน โดยใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @GybzyGB โดยมักจะใช้ Twitter สื่อสารกับแฟนเพลง และจำกัด Facebook ไว้สื่อสารกับเพื่อนๆ เท่านั้น

แม้จะไม่เคยโปรโมตการมีทวิตเตอร์ผ่านสื่อหลักๆ นอกจากออนไลน์ แต่ว่าสังคมออนไลน์เช่น hi5 ก็ทยอยรับรู้และบอกต่อชื่อทวิตเตอร์ของกิ๊บซี่ เพียงเดือนเดียวเธอก็มีผู้ติดตามอ่านหรือ Follower ทะลุพันไปแล้ว เป็นอันดับต้นๆ ของนักร้องนักแสดงไทย ในขณะที่เพื่อนร่วมวงอย่าง @GiftzaGB, NannieGB และ BelleGB นั้นยังมีกันคนละราว 600 Follower อยู่

กิ๊บซี่ไล่เรียงกิจกรรมทั้งหมดบนทวิตเตอร์ของเธอในฐานะนักร้องนักแสดงคนหนึ่ง ตั้งแต่การตอบคำทักทายหรือคำถามจากแฟนๆ, การบอกเล่า Event กิจกรรมต่างๆ และกิจวัตรประจำวันส่วนตัวว่ากำลังจะไปที่ไหน กินอะไรอยู่ ให้บรรดาแฟนๆได้ติดตามโดยตรงและทันทีไม่ต้องผ่านสื่อบันเทิงที่ไหน

“บางทีเราเหงา รู้สึกดี รู้สึกไม่ดี ก็เขียนลงไป บางทีก็ร้องเพลงในนี้เลย” กิ๊บซี่บอกเล่าสไตล์การเล่นทวิตเตอร์ที่มีการระบายตัวตนลงไปมากกว่าใช้เป็นแค่เครื่องมือติดต่อแฟนคลับ ซึ่งข้อความบ่นๆ ระบายอารมณ์ความรู้สึกและเรื่องราวส่วนตัวเช่น

“Sao jai ingggggg :'(”

“Oh my goddd … My white shirt see tok ! my myyy have’t wear this one loeyyyy :'(”

หรือ “I had a really sweet deam lastnight … Wish a dream come true …”

ทั้งหมดนี้กลับเติมเสน่ห์ทำให้หน้า Twitter ของดาราอย่างกิ๊บซี่น่าสนใจขึ้นกว่าการที่จะมีแต่ข้อความพูดคุยกับแฟนๆ เท่านั้น และแม้มือถือ BlackBerry Curve ของเธอจะไม่มีคีย์บอร์ดภาษาไทยแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการ Tweet ทั้งข้อความภาษาอังกฤษแท้ๆ และข้อความภาษาอังกฤษทับศัพท์ไทยในแบบที่เรียกกันว่าคาราโอเกะ

“มีคนมาทักมาคุย ถ้าตอบได้ก็ตอบตลอด บางคนก็มาบอกว่าไปเห็นเราที่ไหนมา” กิ๊บซี่ถ่ายทอดตัวอย่างความใกล้ชิดที่เธอกับแฟนๆ จำนวนมากได้คุยกันโดยตรงอย่างง่ายดายตลอดเวลา

ในสายตาของกิ๊บซี่แล้ว Twitter รวดเร็วและใช้ง่ายที่สุดในบรรดา Social Network ทั้งหมด เข้ามาตอบโจทย์การเป็นเครื่องมือบริหารแฟนคลับส่วนตัวให้เธอได้เป็นอย่างดี ก่อนนี้เธอเคยเป็นนักเล่น hi5และ Facebook มาก่อน โดยเฉพาะ hi5 นั้นเธอเล่นมาหลายปีจนมี Friend หมื่นกว่าคน มากเป็นอันดับต้นๆ ในหมู่ดาราไทย ทำให้ต้องจัดเวลามาเปิดคอมพิวเตอร์มาจัดการ hi5 ของตัวเองเป็นระยะๆ ส่วน Facebook นั้นเธอจำกัดไว้เฉพาะกลุ่มเพื่อนและคนรู้จักจริงๆ โดยจะไม่รับเป็นเพื่อนกับคนแปลกหน้าเลย ทำให้มี Facebook Friend อยู่ราว 200 คนเท่านั้น

ไม่กี่เดือนก่อนนี้ กิ๊บซี่ถูกขโมยพาสเวิร์ดใน hi5 ไป ทำให้กิจกรรมบนแฟนคลับออนไลน์ต้องสะดุดลง แม้ต่อมาจะตกลงกับแฮคเกอร์รายนั้นเพื่อแก้ปัญหาได้ แต่กิ๊บซี่ก็รู้สึกเบื่อหน่าย hi5 เพราะใช้งานค่อนข้างยาก ปัญหาทั้งหมดนี้ทำให้เธอห่างจาก hi5 ออกมาเรื่อยๆ จนแทบไม่ได้เล่นแล้ว

เมื่อถูกถามถึงแผนการที่จะขยายแฟนคลับออนไลน์บน Twitter ในอนาคตต่อไป กิ๊บซี่ตอบกลับโพสิชันนิ่งอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาตามสไตล์ว่า “ไม่ปั่น ทำไม่เป็น ไม่ว่างมากพอ”

นอกจากตอบโจทย์การสร้างแฟนคลับบนโลกออนไลน์แล้ว Twitter ยังเป็นเป็นเครื่องมือสื่อสารผ่านมือถือที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนที่งานยุ่งและต้องไปไหนมาไหนตลอดเวลาอย่างนักร้องนักแสดง

ทั้งงานร้องเพลง ซ้อมเต้น ถ่ายมิวสิกวิดีโอ และถ่ายหนัง ทำให้กิ๊บซี่ไม่มีเวลาเปิดคอมพิวเตอร์ใช้ไม่ว่าจะที่บ้านหรืออาร์เอส จนเมื่อเธอได้รู้จักกับ BlackBerry ที่เข้ามาตอบโจทย์ชีวิตติดเน็ตแต่ไม่มีเวลาเล่นคอมพิวเตอร์ กิจกรรมออนไลน์ทั้งหมดก็ย้ายมาบนมือถือ BB Curve นี้ทั้งหมด โดยหากเป็น Twitter ก็จะใช้งานผ่านโปรแกรมช่วยชื่อ Twitberry

“มันทำให้โลกเราแคบลง ให้คน Keep in touch ตลอดเวลาถึงจะอยู่ที่ไหน อยู่ต่างประเทศก็ไม่ต้องเสียค่าโทรทางไกล ถึงอยู่ไกลอยู่ใกล้ก็ติดต่อได้ไม่ต่างกัน” กิ๊บซี่พูดถึงทั้งมือถือ BB กับ Twitter และ Facebook ที่มาเป็นกิจกรรมติดมือที่เธอเล่นแทบจะตลอดเวลาแม้ยามที่กำลังถ่ายแบบลงนิตยสาร

“เชื่อไหมว่ามือถือเครื่องเก่าเป็นแบบพันกว่าบาทเอง แต่พอเจอเครื่องนี้แล้วซื้อเลย ทั้งๆ ที่ราคาตอนซื้อหกเดือนก่อนก็ 2 หมื่น มันเก๋มาก”

การที่ Twitter ที่เน้นการอ่านและพิมพ์ข้อความเท่านั้นก็เข้าได้ดีกับไลฟ์สไตล์การใช้มือถือเล่นเน็ตของดารานักแสดง อย่างเช่นทุกคนในวงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ที่ต้องเดินทางและทำงานอยู่เสมอ เป็นจุดเปลี่ยนพฤติกรรมใช้มือถือเล่นเน็ตมากกว่าใช้คุย และแทบจะเลิกเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กไปเลย

“เล่นเยอะจนถูกพี่ PR เตือนว่าระวังจะดูเหมือนเราไม่ใส่ใจคนอื่น ดูเสียมารยาท เคยขับรถอยู่แล้วรถเกือบชนเพราะอ่าน Twitter” กิ๊บซี่ยอมรับถึงนิสัยติดทวิตเตอร์ของเธอที่ต้องคอยระวังตัวและมีขอบเขต

แม้เธอจะมี Follower หรือแฟนๆ มาตามอ่านถึงกว่าพันคน แต่เธอกลับไป Following อ่านคนอื่นเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น ด้วยเหตุผลว่าไม่มีเวลาว่างนัก และบนมือถือการเสิร์ชหาชื่อคนหรือสิ่งต่างๆ ทำยากกว่าบนคอมพิวเตอร์ แต่กิ๊บซี่ก็เผยว่าหากมีเวลาว่าง เธออยากจะตามอ่านทวิตเตอร์ของ “คนเท่ๆไอเดียเจ๋งๆ อย่าง Obama” ที่สุด

เมื่อถูกถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่กิ๊บซี่หรือวงเกิร์ลลี่เบอร์รี่จะได้แฟนๆ หน้าใหม่ๆ จากทวิตเตอร์ กิ๊บซี่ถามสวนกลับมาทันควันว่า“พี่ว่าเป็นไปได้ไหมล่ะ ก็เป็นได้นะ อาจจะมีเพื่อนเค้าบอกต่อมาให้เข้าไปดูสิ ดาราคนนี้เล่นทวิตเตอร์ด้วย” กิ๊บซี่ใช้ความคิดก่อนที่จะให้ข้อสรุปสำคัญว่า

“พอเค้าเข้ามาอ่านแล้ว อย่างน้อยเค้าก็จะรู้จักตัวตนเรามากขึ้น ทีนี้เค้าอาจจะชอบ หรือเฉยๆ ก็ได้ ก็เป็นไปได้”

จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์ ก็คือ “คนดัง” คนหนึ่งที่เข้าใจและใช้ Twitter ในอาชีพนักร้องนักแสดงได้อย่างเป็นตัวของตัวเองและเป็น “ดารา” ไปพร้อมๆ กันอย่างกลมกลืนน่าศึกษา

อันดับแรกนักร้องสาวไทยในกระดานโหวต TweeterWall
แรงกระหน่ำโหวตให้กันของชาวเสื้อแดงในtweeterwall.mallplace.com/tw/thailand/ms-twitter แม้จะทำให้กิ๊บซี่และดาราหรือนักร้องสาวอย่างพอลล่า หลุดอันดับ Top10 ไปไกล

แต่หากดูเฉพาะประเภทดารานักร้องหญิงในไทยแล้วถือว่ากิ๊บซี่เป็นที่หนึ่ง แม้จะเล่นมาเพียงเดือนเดียวแต่ทำได้กว่า 1,300 Followers เทียบกับอันดับหนึ่งดาราสาวในไทยอย่าง พอลล่า เทเลอร์ ที่เล่นมากว่าสามเดือนซึ่งทำได้แล้วราว 3 พัน Followers ก็นับว่าอาจจะใกล้เคียงกันได้ในอนาคตอันใกล้ เพราะกิ๊บซี่นั้นเพิ่งจะมีผลงานหนังไทยสองเรื่อง และกำลังอยู่ในช่วงโปรโมตอัลบั้มชุดใหม่กับวงเกิร์ลลี่เบอร์รี่พอดี