ขนาดทำสัญญากับกลุ่มบีอีซี เทโร และกลุ่มช่อง 3 ไปแล้ว ว่าจะนำลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการประกวด Miss Universe 2018 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ในเดือนธันวาคมนี้ออกอากาศที่ช่อง 28 แต่ “ตี๋ แม็ทชิ่ง” ก็ล้มสัญญากะทันหัน ไปออกอากาศช่องพีพีทีวี ด้วยเหตุผลเรื่องรายได้
การจัดประกวด Miss Universe 2018 ในปีนี้ ลิขสิทธิ์ในการจัดการประกวดตกเป็นของบริษัท TPN 2018 ที่นำโดย “ตี๋” สมชาย ชีวสุทธานนท์, ณรงค์ เลิศกิตศิริ ผู้บริหารธุรกิจสิ่งทอชั้นนำของไทย ภายใต้แบรนด์ Pasaya และ ปิยาภรณ์ แสนโกศิก นักธุรกิจหญิงจากวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่มาแทนที่กลุ่ม TW Investment ของธนวัฒน์ วันสม จนมีเรื่องราวการเตรียมการฟ้องร้องเรื่องสิทธิกันให้วุ่นวาย
เจรจา ช่อง 3 – พีพีทีวี พร้อมกัน
ในส่วนของการถ่ายทอดสด “ตี๋” มุ่งเข้าหากลุ่มช่อง 3 เป็นรายแรก เพราะเป็นช่องใหญ่ โอกาสจะสร้างรายได้จากสปอนเซอร์จะง่ายขึ้น และฐานคนดูเป็นกลุ่มคนเมือง มีฐานะกำลังซื้อ ตรงกับสปอนเซอร์มากที่สุด อีกทั้งช่อง 3 จัดการถ่ายทอดสดการประกวด Miss Universe Thailand มาแล้ว
“ตี๋ เจรจากับบีอีซี เทโร โดยได้เสนอว่าจะมีการถ่ายทอดสดหลายรายการ นอกเหนือจากการประกวดรอบสุดท้ายในเช้าวันที่ 17 พ.ย. แต่ในขณะเดียวกันตี๋ก็ไปเจรจากับพีพีทีวีด้วยเช่นกัน โดยเสนอว่า จะให้พีพีทีวีถ่ายทอดสดรอบการประกวดที่จัดในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของแต่ละวัน”
สิ่งที่ตี๋ต้องการ คือ ถ่ายทอดสดที่ช่อง 33 HD แต่ช่อง 3 ให้ช่อง 28 SD แทน ส่วนถ่ายทอดสดช่วงเย็นและไพรม์ไทม์ ไปออกทางช่อง 13 Family โดยอยู่ในรูปแบบ Time Sharing แบ่งรายได้จากค่าโฆษณาที่หามา
ระหว่างนั้น ตี๋ก็ไปเจรจากับพีพีทีวี ซึ่งเป็นช่อง HD ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า ตี๋ได้เซ็นสัญญาถ่ายทอดสดกับกลุ่มช่อง 3 ไปแล้ว แต่จากนั้นไม่นาน ตี๋ก็หอบข้อเสนอกลับมาที่พีพีทีวีอีกครั้ง
โดยกลุ่มปสาททองโอสถ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของพีพีทีวี นอกจากตกลงเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ถ่ายทอดสดการประกวดในครั้งนี้ ยังจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการประกวดด้วย เพราะมองว่าจะสร้างการรับรู้กับช่องได้มากขึ้น ทำให้ตี๋ตัดสินใจทิ้งช่อง 3 หันมาเลือกพีพีทีวี เพราะมีรายได้ชัดเจน ซึ่งตี๋เองกำลังประสบปัญหาเรื่องการหาสปอนเซอร์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ตี๋ ได้บอกเลิกกลุ่มช่อง 3 อย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้กับช่อง 3 เป็นอย่างมาก
วิ่งวุ่นหาสปอนเซอร์ หลังพลาดเป้า รายใหญ่หายหมด
มีรายงานข่าวว่า “ตี๋” ได้วิ่งเข้าหากลุ่มคิงเพาเวอร์ ที่จะให้การสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ระดับแพลทตินัม มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท แต่หลังจากการเสียชีวิตของเจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา ข้อตกลงจึงล้มไป จึงต้องวิ่งวุ่นหาสปอนเซอร์รายใหม่เสริม โดยตั้งเป้าไปที่กลุ่มราชการ หรือองค์กรของรัฐแทน
แต่เนื่องจากเป็นช่วงปิดงบประมาณช่วงปลายปี การหาสปอนเซอร์ในเวลากระชั้นชิด จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะได้รับอนุมัติงบประมาณ ปัญหาเรื่องเงินสนับสนุนจึงเป็นเรื่องใหญ่กับงานที่กำลังเกิดขึ้น อีกทั้งประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเตรียมการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
หากเลือกอยู่กับช่อง 3 ต้องไปหวังจากการขายโฆษณาที่คาดเดายาก สู้ไปเอาเงินก้อนจากกลุ่มพีพีทีวีเลยดีกว่า
แหล่งข่าวกล่าว
บรรดานางงามจากประเทศต่างๆ จะเริ่มเดินทางมาไทยในสัปดาห์นี้ ในขณะที่กลุ่ม TPN 2018 ก็จำเป็นต้องใช้เงินในการจัดการงานทั้งหมด ที่คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเบื้องต้นหลักเกินกว่า 100 ล้านบาท
คงต้องรอดูผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นว่า งานนี้จะสร้าง “กำไร” หรือสร้าง “หนี้” เพราะนอกจากเรื่องหาทุนจัดงานแล้ว “ตี๋” ยังกำลังจะมีคดีติดตัวตามมา จากการประกาศฟ้องร้องของ TW Investment หลังการจัดการประกวดเสร็จสิ้นอีกด้วย.