ฟังจากปาก เจเอสแอล ผู้จัด “กิ๊ก ดู๋” สาเหตุย้ายช่อง หลังโดนช่อง 7 ปลดฟ้าผ่า

การปลดรายการกิ๊ก ดู๋” ออกจากผังรายการของช่อง 7 อย่างกะทันหัน เป็นการสิ้นสุดการออกอากาศรายการกิ๊ก ดู๋ ที่อยู่คู่ช่อง 7 มาเกือบ 8 ปี เป็นการตอบโต้ของช่อง 7 หลังจากที่มีข่าวว่า รายการกิ๊ก ดู๋ จะย้ายออกจากช่อง 7 ไปซบช่องพีพีทีวีในต้นปีหน้านี้ โดยที่ช่อง 7 ไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนนั้น  

มาฟังการชี้แจงจาก แพรรติวัลคุ์ ธนาธรรมโรจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เจเอสแอล โกลบอลมีเดีย ถึงเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปทั้งหมด ที่กลุ่มเจเอสแอลต้องลาจากช่อง 7 บ้านเก่าที่ทำงานมากว่า 30 ปี  

จุดเริ่มต้น ปัญหารายได้ลด ค่าเช่าแพง  

แพร หรือ รติวัลคุ์ กล่าวว่า เจเอสแอล ทำงานกับช่อง 7 มาเป็นเวลานาน ตั้งแต่รุ่นคุณแม่จำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี และ คุณต้น ลาวัลย์ กันชาติ ปีนี้มีรายการกับช่อง 7 อยู่ 2 รายการคือ กิ๊ก ดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ และ กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง ออกอากาศตอนดึกของวันอังคาร หลังจากที่เคยเลิกรายการจันทร์พันดาวไปเมื่อต้นปี เนื่องจากรายการหลักคือ กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง ออกอากาศในช่วงดึก ทำให้เริ่มมีปัญหาในการหารายได้ จากค่าโฆษณาที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ต้นทุนรายการสูง โดยเฉพาะจากค่าเช่าเวลา และการพัฒนาคุณภาพบริการให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เรตติ้งและความนิยมมากกว่าเดิม  

ปัญหาหลักคือ model ทางธุรกิจแบบเดิมมันเป็นไปไม่ได้แล้ว รูปแบบการให้เช่าเวลาอย่างเดียว โดยที่ราคาค่าเช่าแพง แม้ว่าช่องได้กรุณาลดให้เรามาตั้งแต่ 1-2 ปีที่แล้ว แต่ก็ยังสูงเมื่อเทียบกับการขายโฆษณาที่ยากขึ้นเรื่อยๆ ราคาโฆษณาลดต่ำลง จากการ disrupt ทางเรื่องเทคโนโลยี ที่มีช่องทางใหม่ๆ มากขึ้น อีกทั้งการที่เราขายโฆษณาเราเป็น 2 รายการเดี่ยวๆ ก็ยากเมื่อเทียบกับช่องขายเอง ที่สามารถขายโฆษณาของทั้งช่อง และมีแถมเวลา หรือเพิ่มให้ได้ แต่เราไม่มี ทำให้เราเข้าไปคุยกับช่องอย่างต่อเนื่องว่า ความยากลำบากมันมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงจุดที่เราก็ไม่ไหวแล้ว  

เมื่อเริ่มอยู่ไม่ได้ เจเอสแอล เริ่มทำจดหมายชี้แจงช่องเป็นระยะถึงสถานการณ์ยาก ลำบาก และบอกช่องถึง model เช่าเวลา โดยอยากให้เปลี่ยนเป็นรูปแบบให้ช่องจ้างผลิตรายการแทน หรือหากช่องมีนโยบายให้ทำรายการเพิ่มมากกว่านี้ ก็จะยังมาแชร์ cost กันได้ จะทำให้พออยู่ได้ เพราะการมีแค่ 2 รายการ แต่ช่องไม่ได้มีนโยบายเรื่องนี้  

ในขณะเดียวกัน เจเอสแอลได้ไปเสนอรายการใหม่ๆ ในหลากหลายช่อง รวมถึงพีพีทีวี ที่พอดีเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ จึงได้มีการพูดคุยกันเรื่องปัญหาในการทำรายการ 

พีพีทีวี เขาต้องการรายการมีชื่อเสียงไปลงช่องเขา และเราก็กำลังประสบปัญหา จึงมีการเจรจากัน แล้วก็สรุปกันอย่างรวดเร็ว เป็นรูปแบบที่ win win deal กันทั้งคู่ ช่องได้รายการดัง เรามีรายได้ ไม่ขาดทุน ซึ่งทันทีที่เจรจาเสร็จ เราก็คิดว่าจะต้องแจ้งช่อง 7 คู่สัญญาเราอยู่แล้ว แต่จะเป็นในรูปแบบที่เข้าไปพบด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าเราทำธุรกิจกันมานาน การจะส่งจดหมายไปแจ้งคงไม่ดี แต่ยังไม่ทันได้ไปพบ ก็มีข่าวหลุดออกมาก่อน ว่าเราไปพีพีทีวี”  

รติวัลคุ์ บอกด้วยว่า เมื่อรู้ว่ามีข่าวออกมาแล้วในตอนเช้า จึงรีบไปพบผู้บริหารช่อง 7 ด้วยตัวเอง เพื่อไปชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งยอมรับว่าทางช่อง 7 ก็มีขอให้ลองคิดใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อเจเอสแอลได้ตกลงไปกับพีพีทีวีไปแล้ว จึงไม่สามารถกลับไปกลับมาได้  

ยืนยันทำถูกต้องตามสัญญาช่อง 7 ทุกอย่าง บอกเลิกสัญญาก่อน 1 เดือนล่วงหน้า  

ตามสัญญาที่เจเอสแอลทำไว้กับช่อง 7 คือ ช่องจะมีการต่อสัญญาในทุกๆ 3 เดือน หากมีการบอกเลิกสัญญา ก็จะแจ้งกันล่วงหน้า 1 เดือน ซึ่งสัญญางวดนี้จะจบลงในเดือนธันวาคมนี้  

เราแจ้งไปในวันที่ 19 .. ก็เป็นไปตามสัญญา เพียงแต่แจ้งหลังจากเป็นข่าวรั่วออกมาเท่านั้น ซึ่งในวันนั้นช่องก็ไม่ได้แจ้งว่าจะให้ยกเลิกสัญญาที่ยังอยู่ถึงสิ้นเดือนธันวาคมแต่อย่างใด เราก็ยังบอกผู้บริหารช่องว่า พร้อมจะทำงานให้ช่องเสมอ ถ้าช่องให้โอกาสเรา ถือว่าเป็นการจากกันด้วยดีนะ “ 

หลังจากวันนั้น เจเอสแอลได้เดินหน้าถ่ายทำรายการตามสัญญาเพื่อออกอากาศทางช่อง 7 ต่อไป โดยได้มีการผลิตรายการไปแล้ว 2 เทป สำหรับกิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียงและ 4 เทป สำหรับกิ๊ก ดู๋ ซุปตาร์เงินล้านโดยไม่ทราบล่วงหน้าว่าช่อง 7 จะยกเลิกผังการออกอากาศรายการทั้งหมด เพราะหลังจากมีข่าวไปแล้ว ก็ยังได้ออกอากาศทั้งสองรายการอีกรายการละ 1 เทป ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ฟ้าผ่า ช่อง 7 สั่งถอนทุกรายการของ เจเอสแอล 

จนกระทั่งเช้าวันที่ 29 .เจเอสแอลก็ได้รับจดหมายจากทางช่อง 7 ว่า ยกเลิกสัญญา ไม่มีเวลาให้ทั้งสองรายการออกอากาศอีกแล้ว  

เราตกใจมากกับจดหมายที่แจ้งมาอย่างกะทันหัน หัวฟูกันเลย ต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะเราลงทุนไปแล้ว และรายการ กิ๊ก ดู๋ ซุปตาร์เงินล้านก็เตรียมออกในวันเสาร์ที่ 1 ..นี้แล้ว ยังโชคดีที่มีช่องทางออนไลน์ ทางเฟซบุ๊ก และไลน์ทีวี ที่เราทำสัญญาไว้ตั้งแต่ต้นปีนี้ จึงประกาศไปในเฟซว่า ให้มาติดตามรายการของเราได้ในช่องทางเหล่านี้แทน เพื่อให้คนสามารถดูรายการเราอย่างต่อเนื่อง ไปจนกว่าจะย้ายไปที่พีพีทีวี”  

สาเหตุที่ต้องลงช่องทางออนไลน์ ไม่สามารถนำเทปที่ถ่ายทำไว้ไปออกช่องพีพีทีวี เพราะติดขัดปัญหาเรื่องนักแสดงที่ร่วมรายการ ที่เป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 ทั้งหมด โดยเฉพาะรายการ ซุปตาร์เงินล้าน ทำให้ไม่สามารถยกทั้งรายการไปหมดได้  

สำหรับสัญญาที่เจเอสแอลทำไว้กับไลน์ทีวีนั้น มีสัญญา 2 ปี เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2561 เมื่อไปออกอากาศที่พีพีทีวีแล้ว จะมีการแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งให้กับพีพีทีวีด้วยจนกว่าจะหมดสัญญา โดยช่องทางไลน์นั้น จะเป็นการออกอากาศหลังจากออนแอร์ไปแล้ว 1 วัน โดยรับชมทางไลน์ได้ 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะกลับมาชมได้ทางช่องทางยูทูปของเจเอสแอลเอง  

ขาดรายได้กว่า 10 ล้านจากการยกเลิกสัญญากะทันหัน

รติวัลคุ์ บอกด้วยว่า การโดนยกเลิกสัญญาอย่างกะทันหันนี้ ทำให้บริษัทขาดรายได้ไปกว่า 10 ล้านบาท จากรายได้โฆษณาที่ได้ดีลกันไว้กับเอเจนซี่ต่างๆ ต้องถอนออกไป และยังมีค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิตทั้ง 6 เทป 2 รายการที่ทำเสร็จไปแล้วด้วยเป็นมูลค่าหลายล้านบาท 

เมื่อถามว่าการถูกช่อง 7 บอกยกเลิกอย่างกะทันหันถือว่าเป็นการผิดสัญญา และเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่ รติวัลคุ์บอกว่ากำลังให้ฝ่านกฎหมายของบริษัทดูเรื่องพวกนี้อยู่ เพื่อศึกษาเอาไว้ แต่ก็คิดว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหาย ไม่อยากเป็นคดีความฟ้องร้องกัน  

ช่อง 7 ก็มีบุญคุณกับเรา เราอยู่กับเขามากว่า 30 ปี คุณแม่ (จำนรรค์) บอกไว้ว่า เราอยู่ที่ไหน ก็จะอยู่ตรงนั้น จนกว่าเราจะไม่ไหว แต่ครั้งนี้เราไม่ไหวจริงๆ นะ เราไม่ได้หวังทำธุรกิจรวย แต่หวังแค่มีที่ให้ต่อลมหายใจของเรา เราไม่อยากจบไม่ดี บริษัทเราไม่เคยเป็นแบบนั้น ไม่อยากสร้างศัตรูกับใคร แต่ก็เข้าใจได้ว่า ต่างคนต่างคิด เราจะหวังให้เขาคิดแบบเราก็ไม่ได้ “  

นอกจากการถอนตัวไปของ 2 รายการนี้แล้ว ปัจจุบัน เจเอสแอล ผลิตละครเล่ห์รักบุษบาที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ทางช่อง 7 แต่ละครจะจบลงในวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคมนี้แล้ว ซึ่งรติวัลคุ์ยอมรับว่ายังไม่มีละครใหม่จากช่อง 7 อีก ซึ่งทางบริษัทก็พร้อมรับทุกนโยบายของช่อง  

เจรจาพีพีทีวี อาจจะเลื่อนเวลาออกอากาศเร็วขึ้น  

เจเอสแอลอยู่ระหว่างการเจรจากับพีพีทีวี ขอเลื่อนการออกอากาศเร็วขึ้น จากเดิมที่กำหนดไว้ออนแอร์เทปแรก ช่วงไพรม์ไทม์วันอังคารที่ 8 มกราคม 2562 อาจจะเลื่อนขึ้นมาเป็น 1 มกราคม แต่ก็ต้องคิดอีกทีว่า การไปออกอากาศในช่วงเทศกาลวันหยุด จะได้รับผลกระทบหรือไม่ เพราะไม่อยากให้รายการหายหน้าหายตาไปจากทีวีนาน  

สำหรับรายการในช่องพีพีทีวีนั้น จะมี Minor Change รายการเล็กน้อย เป็นการผสมของ 2 รายการ ทั้ง ซุปตาร์เงินล้าน และ สงครามเพลงเงาเสียง มาเป็น 1 รายการ ที่ชื่อว่ากิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงินล้านแทน  

รติวัลคุ์ อธิบายว่า สัญญาที่เจเอสแอลทำไว้กับพีพีทีวีนั้น เป็นสัญญาการจ้างผลิตรายการนี้ เป็นเวลา 2 ปี โดยที่เจเอสแอลเป็นฝ่ายช่วยขายโฆษณาในรายการด้วย และรายได้ส่วนหนึ่งก็ต้องจ่ายให้กับหุ้นส่วนคือ ซู่โม่กิ๊ก ที่ร่วมหุ้นในรายการนี้ด้วย โดยเป็นตัวเลขรายได้ที่ทำให้รายการผู้ได้ ผู้ผลิตไม่ขาดทุน  

นอกเหนือจากรายการกิ๊ก ดู๋แล้ว เจเอสแอลยังมีการเจรจาเรื่องการรับผลิตรายการวาไรตี้ใหม่ๆ และการผลิตละครให้กับช่องพีพีทีวีด้วย  

ขออธิบายตรงนี้ว่า หากเราไม่ย้ายรายการไปพีพีทีวี เราอาจจะต้องเป็นฝ่ายเลิกผลิตรายการเอง เพราะเราไปต่อไม่ไหวจริงๆ ด้วยเหตุผลคือ การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ที่เราต้องปรับตัวเราเอง ไม่ได้ความผิดช่องใด เป็นการแมตช์กัน หาคู่แต่งงานใหม่ โดยที่จริงๆ แล้ว เราไม่ได้อยากหย่าขาดจากช่องที่เราจากมาเลย “  

สำหรับอนาคตใหม่ของเจเอสแอลในช่องพีพีทีวีนั้น รติวัลคุ์กล่าวว่า แม้ว่าตอนนี้เรตติ้งช่องพีพีทีวียังไม่สูงมาก แต่การกลยุทธ์ใหม่ที่ The Voice นำร่องไปแล้ว เชื่อว่าเป้าหมายที่ช่องวางไว้ เป็นไปได้ด้วยดี ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เรตติ้งของทุกช่องไม่ต่างกันมากแล้ว ทุกช่องมีโอกาสขึ้นลงใน top 5 ได้หมด ถ้ามีคอนเทนต์ Magnet ที่ดี และเชื่อว่าผู้ชมจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันในครั้งนี้.