อะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับ “ทีวีดิจิทัล” เมื่อเรตติ้งเฉลี่ยเวิร์คพอยท์ร่วงลงหนัก ในเดือนพฤศจิกายน 2561 หลังจากที่ยังไม่มีรายการใหม่ๆ จุดติด สร้างกระแสให้กับช่องได้ ในขณะเดียวกันเรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 7 ก็ลดลงจากละครหลังข่าวเรตติ้งลดลง
จากข้อมูล เรตติ้งประจำเดือนพฤศจิกายน ของนีลเส็น พบว่า ช่อง 7 ยังคงเป็นแชมป์เรตติ้ง จาก 25 ช่องทีวีดิจิทัลที่ออกอากาศอยู่ในปัจจุบัน แต่เรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 7 ลดลง 0.126 จาก เดือนตุลาคม 1.846 มาอยู่ที่ 1.720
รายการที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง 7 ในเดือนนี้ ยังคงเป็นละคร “สังข์ทอง” ออกอากาศเช้าวันหยุด ทำเรตติ้งสูงสุดของเดือนอยู่ที่ 7.073 และถ่ายทอดสดแข่งขันฟุตบอล AFF ซูซูกิ คัพ นัดทีมชาติไทย พบกับทีมสิงคโปร์ ได้เรตติ้ง 6.807 และละครเย็น “ไฮโซสะออน” เรตติ้งได้สูงสุดของเดือนนี้อยู่ที่ 6.751
ส่วนละครหลังข่าว 2 ทุ่ม เรตติ้งลดลงทั้งหมด “พ่อมดเจ้าเสน่ห์” เรตติ้งต่ำกว่า 3 หลายวัน โดยมีเรตติ้งต่ำสุด 2.76 นับเป็นละครใหม่ ออนแอร์หลังข่าวเรื่องแรกของช่อง 7 ที่มีเรตติ้งต่ำกว่า 3 แม้ในตอนจบ ก็ยังได้เรตติ้งอยู่ที่ 3.98 เท่านั้น
ส่วนช่องเวิร์คพอยท์ เป็นเดือนที่เรตติ้งลดลงแรง เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมที่มีเรตติ้งเฉลี่ย 0.930 ตกลงมาอยู่ที่ 0.770 เนื่องจากเดือนตุลาคมมีรายการถ่ายทอดสดวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่ผลงานนักกีฬาไทยทำได้ดี เรตติ้งจึงมาแรง แต่มาในเดือนพฤศจิกายน เวิร์คพอยท์ต้องกลับมาพึ่งพารายการหลักของช่องทั้งหมด เรตติ้งจึงลดลงมาก
รายการที่ทำเรตติ้งสูงสุดให้ช่อง ยังเป็นรายการตระกูลไมค์ “ไมค์ทองคำ” ได้สูงสุดอยู่ที่ 4.073 ตามด้วย “ไมค์หมดหนี้” 3.650 และ “ไมค์ทองคำเด็ก” 3.559
ส่วนรายการช่วงหลัง 2 ทุ่ม ที่ทำเรตติ้งสูงสุดคือ “นักร้องซ่อนแอบ หรือ I can see your voice” เรตติ้ง 3.142 , และ เดอะ แมส์ก ลายไทย 2.774 โดยรวมเวิร์คพอยท์ยังไม่มีรายการใหม่ๆ สร้างกระแสความนิยมของช่องได้แทนที่รายการเดิม
สถานการณ์ของช่องเวิร์คพอยท์ เป็นที่น่าจับตามาก จากช่องที่เคยโดดเด่น เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงมากที่สุดเมื่อปีที่แล้ว กลับหล่นลงแรงมากในปีนี้ จะหาทางฟื้นกลับขึ้นมาได้อย่างไร
ช่อง 3 SD ได้ละครรีรันช่วย พีพีทีวี เริ่มเข้าใกล้ท็อปเท็น
สำหรับช่องที่มีเรตติ้งเพิ่มขึ้นมากสุดของเดือนคือ ช่อง 3 SD เรตติ้งเฉลี่ย 0.361 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.312 โดยจัดละครรีรันลงยาวทั้งวัน
ส่วนพีพีทีวี ได้คอนแทนต์กีฬาราคาแพง ที่ทุ่มทุนซื้อ ทั้งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และลีกอื่นๆ ในยุโรป อย่างไรก็ตาม เริ่มมองเห็นว่า “The Voice” รายการใหม่ที่ดึงมาจากช่อง 3 เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์มาแรง สร้างเรตติ้งสูงให้กับช่อง จากการออกอากาศ 2 ตอนในเดือนพฤศจิกายน ได้เรตติ้งอยู่ที่ 0.575 และ 0.776 ส่วนตอนล่าสุดวันที่ 3 ธันวาคม ได้เรตติ้ง 0.781
เรตติ้งเฉลี่ยช่องพีพีทีวีจึงเลื่อนอันดับอย่างรวดเร็ว จากอันดับ 13 มาเป็นอันดับที่ 11 แล้วด้วยกลยุทธ์การดูดรายการดังของช่องต่างๆ มาไว้ในช่องพีพีทีวี ที่จะเริ่มเห็นผลปีหน้า มาดูกันว่า พีพีทีวีจะทำได้ดีที่สุดแค่ไหน.