สุกี้หมื่นล้าน

เอ็มเค เปิดเผยผลประกอบการอันน่าตื่นตาตื่นใจจากการทำธุรกิจมาตลอดระยะเวลา 20 กว่าปี ด้วยยอดขายปีที่ผ่านมา 8,800 ล้านบาท และในปีนี้จะปิดยอดขายที่ 9,000 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่ใหญ่พอๆ กับตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคบางเซ็กเมนต์เลยทีเดียว และเป็นการตอกย้ำว่า เอ็มเคเป็นเชนร้านอาหาร แบรนด์ไทยที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย และอีกภายใน 2 ปี ยอดขายของเอ็มเคจะทะยานขึ้นสู่หลักหมื่นล้านบาท หากยอดขายเป็นไปตามเป้าที่ต้องการโตต่อเนื่องปีละ 8-10%

สมชาย หาญจิตต์เกษม รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจสาขา บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ จำกัด บอกว่า ปัจจุบันเอ็มเคมีทั้งสิ้น300 สาขา ในไทย และอีก 16 สาขา ในญี่ปุ่น ปี 2553 จะเปิดอีก 20 สาขา ขณะที่ในปี 2551 ถือเป็น Honeymoon Year เพราะเปิดไปถึง 40 สาขา

เขาบอกว่ากลยุทธ์ของเอ็มเคในด้านการขยายสาขา คือ สาขาเปิดใหม่ในช่วงหลังจะเป็นสาขาขนาดกลาง ซึ่งมีที่นั่ง 25-30 โต๊ะ ซึ่งลงทุน 7-8 ล้านบาทต่อสาขา ดังนั้นในปีหน้าเอ็มเคจะใช้เงินลงทุนในการขยายสาขาใหม่ราวๆ 140-160 ล้านบาท จากกลยุทธ์เดิมจะเน้นเปิดสาขาใหญ่ขนาด 60-150 โต๊ะ แต่ด้วยการขยายตัวของสาขาที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้บางโลเกชั่นอาจมีถึง 3 สาขาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า จึงลดขนาดของร้านเพื่อให้คล่องตัวและสามารถเปิดในพื้นที่ขนาดเล็กลงได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการลดขนาดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งการดูแลด้าน Food Cost และ Labor Cost

ผลงานภาพยนตร์โฆษณาล่าสุดจากฝีมือของ JWT จะออกอากาศเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยในช่วงเดือนแรกใช้งบมีเดียเฉพาะ TVC 20 ล้านบาท ทั้งนี้เอ็มเคใช้งบการตลาดราว 200 ล้านบาทต่อปี

ด้านพฤติกรรมต่างๆ ของลูกค้า พบว่ามีค่าใช้จ่ายต่อคนราว 220-240 บาท และมีความถี่ในการใช้บริการที่เอ็มเค 1 ครั้งต่อเดือน โดยมีสมาชิกทั้งหมด 600,000 ราย

ปัจจุบันมีเอ็มเค โกลด์ 6 สาขา นอกเหนือจากจะเป็น Positioning ที่หรูขึ้นของเอ็มเคที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2549 แล้วยังใช้เป็นศูนย์ทดลองของ Service Buffet อีกด้วย ซึ่งจะใช้ระยะเวลาราว 3 เดือน ก่อนจะพิจารณาขยายผลต่อไป และเอ็มเค เทรนดี้ 1 สาขา ที่สยามสแควร์ โดยปิดสาขาที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตไป ซึ่งเอ็มเค เทรนดี้ ใช้เป็นศูนย์ทดลองพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อนำมาปรับใช้ในเอ็มเครูปแบบหลัก เช่น เพิ่มเมนูอาหารที่มีสีสันมากขึ้น เป็นต้น

ที่ผ่านมาเอ็มเคจัดชิงโชคอยู่บ่อยครั้ง ในช่วงต้นปีก็มีแคมเปญลุ้นเที่ยว 3 ทริปสุดฮิป กับดาราสุดฮอต ครั้งนี้กับแคมเปญ “อิ่มท้องลุ้นอิ่มทองกับเอ็มเค 300 สาขา” รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 8 ล้านบาท คาดว่าจะกระตุ้นยอดขายให้เติบโตราว 10-15% ทั้งนี้ในแต่ละแคมเปญของเอ็มเคจะมีมูลค่าของของรางวัลไม่มาก แต่กลับกระตุ้นยอดขายได้ดี

หลังจากเอ็มเคนำปาล์มมาใช้ในการสั่งอาหารเป็นรายแรกๆ ของร้านอาหารเมืองไทย หรือการให้พนักงานเต้นประกอบเสียงเพลงเรียกรอยยิ้มจากลูกค้าในทุกๆ ชั่วโมง ล่าสุดเอ็มเคได้สรรหากิมมิกใหม่ๆ มาใช้ นั่นคือ หุ่นยนต์เอ็มเค ภายใต้ชื่อ Waitor One สำหรับรับออเดอร์ลูกค้า กับ Serve One สำหรับเสิร์ฟ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดลองที่สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต

“ลงทุนตัวละ 500,000 -800,000บาท กำลังทดลองระหว่างผลงานของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และ ม.กรุงเทพฯ แต่ตอนนี้ยังเดินไม่ตรงโต๊ะ เพราะยังไม่ได้ติดเซ็นเซอร์ก็ค่อยๆ พัฒนากันไป เราหวังให้เป็นกิมมิกในการเสริมเสน่ห์ให้กับเอ็มเคมากกว่าที่จะนำไปใช้แทนพนักงาน”

ต้องติดตามว่าหุ่นยนต์ มนต์เสน่ห์ใหม่จากเอ็มเคจะได้ฤกษ์สร้างสีสันเมื่อใด หลังจากทดลองมานาน 8 เดือน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ภาพลักษณ์ของเอ็มเคคือเชนร้านอาหารไทยยุคใหม่ที่ทันสมัยและพรั่งพร้อมไปด้วยเทคโนโลยี

Time line
2529 เปิดสาขาแรกที่ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว เดิมชื่อร้านกรีน เอ็มเค
2539 เปลี่ยนหม้อต้ม เป็นหม้อไฟฟ้าซึ่งปลอดภัยกว่าการใช้เตาแก๊ส นำการบริหารร้านอาหารแบบมืออาชีพเข้ามาจัดการในงานบริการ การตลาด การออกแบบร้าน
2543 ทำรายได้ 3500.49 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ารายได้ของกลุ่ม ไมเนอร์กรุ๊ป ไทรคอน หรือแมคไทย โดยรายได้ทั้งหมดได้เปลี่ยนเป็นกำไรถึง 206.09 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.88%
2549 ออกแบรนด์ใหม่ เอ็มเค โกลด์ เปิดให้บริการเป็นแห่งแรกที่สยามพารากอน จับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง มีรสนิยม และยังเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีกที่ The Esplanade (รัชดา) Central World ศาลาแดง เอกมัย และจังซีลอน (ป่าตอง ภูเก็ต)
2552 ฉลองครบ 300 สาขา