ปฏิเสธไม่ได้ว่า “Netflix” กำลังได้รับความนิยมเพื่มขึ้นเป็นอย่างมากในเมืองไทย ซึ่งมาจากหลายๆ ปัจจัยไม่ว่าจะเป็นออริจินอล คอนเทนต์ ที่คุณภาพคับจอไม่แพ้หนังฮอลลีวูด, การทุ่มโฆษณาอย่างหนังในทุกช่องทาง โดยเฉพาะการเข้าไปโฆษณาในแพลตฟอร์มที่ถ้าจะนับจริงๆ ก็เป็นคู่แข่งกัน เพราะเข้ามาแย่ง “เวลาว่าง” ที่มีเพียงไม่กี่ชั่วโมงไปทั้ง Youtube หรือ LINE TV
เสน่ห์อีกอย่างที่ “ราคา” ที่เทียบแล้วไม่ได้แพงมากนัก ซึ่งจะเรียกว่าเสน่ห์ก็ไม่อาจเรียกได้เต็มปากมากนัก ด้วยราคาของแพ็กเกจ (ถ้าเกิดดูได้เครื่องเดียว) จะมีราคาอยู่ที่ 280 บาท/เดือน แต่ Netflix ก็มีแพ็กเกจพรีเมียม 420 บาท/เดือน สามารถรับชมได้พร้อมกัน 4 หน้าจอ ในรูปแบบ HD และ Ultra HD และดาวน์โหลดวิดีโอไว้ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต 4 เครื่อง
เฉลี่ยต่อเครื่องแล้วต่อเครื่องอยู่ที่ราว 105 บาทต่อเดือน ถูกกว่าดูคนเดียวมากกว่าครึ่ง นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เกิดการหาคนมา “แชร์พาสเวิร์ด” หรือที่คนไทยมักเรียกกัน “ลูกบ้าน Netflix” อย่างมากมายในกลุ่มของคนที่ดู Netflix
จับได้คือ “โอกาส”
แต่ช่วงเวลาแห่งการ “แบ่งปัน” อาจจะหมดลงแล้ว เพราะล่าสุด สำนักข่าววาไรตี (Variety) รายงานผลสำรวจจากบริษัทพาร์กส์ แอสโซซิแอทส์ (Parks Associates) ว่า password sharing อาจทำให้อุตสาหกรรมสตรีมมิงสูญรายได้รวมกว่า 9,900 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2021 จุดนี้ทำให้บริษัทภาพยนตร์สัญชาติอังกฤษชื่อ “ซินามีเดีย” (Synamedia) เปิดตัวระบบตรวจจับ Password Sharing ในงาน Consumer Electronics Show 2019 ที่เพิ่งจบไป
สิ่งที่ระบบของ Synamedia ทำ คือ การวิเคราะห์ข้อมูลการชม streaming ของผู้ใช้ว่า ใครเข้าข่าย password sharing ระบบจะตรวจจับได้ว่า บัญชีใดที่ถูกใช้งานจากต่างสถานที่กันในเวลาเดียวกัน รวมถึงรูปแบบพฤติกรรมอื่นที่มีความเป็นไปได้ว่าบัญชีนั้น จะมีการแบ่งปันรหัสผ่านร่วมกัน ทั้งหมดนี้จะถูกนับเป็นคะแนน 1 ถึง 10 เพื่อรวมโอกาสที่บัญชีนั้นจะเป็น password sharing
ทั้งหมดนี้ผู้บริหาร Synamedia ย้ำว่า ข้อมูลจากระบบ A.I. นี้จะสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจสตรีมมิงได้ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ค่ายสตรีมมิ่งสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย หรือ target ลูกค้าสำหรับจำหน่ายโปรโมชั่นพรีเมียมแพ็กเกจ ซึ่งจะจูงใจให้ลูกค้ากลุ่มนี้มีโอกาสชมรายการได้ลื่นไหลมากขึ้น
สนหรือไม่ยังไม่รู้ แต่ Netflix ราคาขึ้นแล้วที่ “สหรัฐฯ”
ไม่ว่า Netflix จะสนใจระบบตรวจจับ password sharing นี้หรือไม่ ล่าสุดเจ้าพ่อบริการชมรายการทีวีออนไลน์ประกาศว่ากำลังปรับเพิ่มราคาสมาชิกชมรายการทีวีบน Netflix รายเดือน (ปรับราคาสูงสุด 18%) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องหลังจากการเริ่มขึ้นราคาครั้งแรกในปี 2014
การขึ้นราคาครั้งนี้ได้รับเสียงเชิงบวกโดยเฉพาะนักลงทุนที่เชื่อว่า Netflix จะมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นในการลงทุนผลิตเนื้อหา ส่งให้หุ้นของ Netflix เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อประกาศ ท่ามกลางนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่า สมาชิก Netflix จะไม่หนีหายไปไหน
ราคาค่าบริการ Netflix ในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2 เหรียญสหรัฐ ตัวอย่างเช่น premium service ที่เปิดให้ชมวิดีโอความละเอียดสูงผ่านอุปกรณ์ 4 ตัวจะมีราคา 15.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 506 บาท) ขณะที่ราคาสมาชิกเริ่มต้น basic subscription สำหรับผู้ชมครั้งแรกราคาขึ้นเป็น 8.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 284 บาท)
ส่วนในเมืองไทยยังไม่มีข่าวว่าจะปรับขึ้น ก็ให้สบายใจในราคาเดิมต่อไป.