อยากเจาะ “ภูธร” ใช้มุกเดียวกันคนกรุงไม่ได้! YDM ลงขันค่ายเพลง RMS ปั้นเอเยนซี่ “แจ่มจรัส” โกภูธรใช้ “นักร้องลูกทุ่ง” เป็น Influencer

ยังไม่ถึง 1 เดือนเลยที่ “YDM Thailand” แถลงซื้อ “FCB BANGKOK” เข้ามาเติมจิ๊กซอว์การสร้าง Branding วันนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2562) ได้แถลงอีกแล้ว แต่ไม่ได้ซื้อ เป็นการเปิดขึ้นมาใหม่ ใช้ชื่อแจ่มจรัสเพื่อเจาะตลาดภูธรโดยเฉพาะ

การเปิดในครั้งนี้ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ถึงกับบอกว่า เร็วๆ นี้อาจจะยังไม่เห็นการเปิดเอเยนซี่ขึ้นมาใหม่อีก เพราะเท่าที่มีตอนนี้ก็ 9 เอเยนซี่เข้าไปแล้ว ทางผู้ใหญ่ขอเบรกไว้ก่อน เพราะกำลังวางแผนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอีก 3 ปี ซึ่งในอนาคตไม่แน่บางเอเยนซี่อาจจะต้องควบรวมกัน เพื่อความเป็นสัดส่วนทางบัญชี

ทำไมต้องมีเอเยนซี่เพื่อเจาะโดยเฉพาะ? ด้วย YDM Thailand  มองว่า พฤติกรรมการใช้งานสื่อดิจิทัลของคนในต่างจังหวัด ไม่ได้แตกต่างจากคนในกรุงเทพฯ แล้ว แบรนด์ใหญ่ๆ จึงต้องการใช้สื่อดิจิทัลเข้าเจาะกลุ่มคนภูธร ด้วยมีขนาดที่ใหญ่ประชากร 84% จาก 65 ล้านคนกระจายอยู่ตามภาคต่างๆ

ที่สำคัญปัจจุบันตลาดภูธรครอบครองเม็ดเงินด้านการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคของประเทศไว้มากกว่า 60% หรือประมาณ 307,000 ล้านบาท โดยมีข้อมูลบอกว่า มีการใช้เงิน 1,299 บาทไปไฮเปอร์มาร์เก็ตเฉลี่ย 3 ครั้งต่อเดือน หรือไปร้านสะดวกซื้อ 169 บาท ทุกวันหรือทุกสัปดาห์

ความน่าสนใจยังอยู่ที่คนต่างจังหวัดมีอำนาจการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากสินค้าราคาถูกสู่สินค้าที่แพงมากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายเพราะคนที่มีผลต่อการตัดสินใจเริ่มเปลี่ยน เมื่อก่อนที่เคยเชื่อเจ้าของร้านค้าปัจจุบันนี้ก็เริ่มน้อยลง เพราะรู้ว่าเจ้าของร้านมักดันแบรนด์ที่ตัวเองได้ผลประโยชน์ กลายเป็นว่าโฆษณามีผลน้อยกว่าคำพูดจากปากต่อปาก

จะเห็นได้ว่าการทำโฆษณามีความยากมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาการทำโฆษณาจะใช้ insight ของคนกรุงเทพฯ เป็นจุดตั้งต้น การใช้เงินซื้อสื่ออย่างโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ กระจายโฆษณาตัวเดียวกันนี้ไปทั่วประเทศ ในอดีตอาจได้ผล แต่วันนี้ไม่ได้ผลอีกแล้ว เพราะผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่นนั้นมีเอกลักษณ์ และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน

ขณะเดียวกันคนภูธรใช้เวลาอยู่บนออนไลน์ไม่ต่างจากคนในเมืองมากนัก แต่เนื้อหาที่คนภูธรชอบจะแตกต่างออกไปกับคนเมือง อาทิ ฟังเพลงในสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน มีนักร้อง หรือศิลปินคนโปรดที่ไม่เหมือนกัน รวมทั้งละคร หรือรายการที่เลือกดูก็มีความแตกต่างกัน

ดังนั้น นี่จึงกลายเป็นโอกาสที่ YDM Thailand มองเห็น เพราะสำรวจแล้วว่ายังไม่มีเอเยนซี่รายไหนที่เจาะเฉพาะต่างจังหวัดมาก่อน จึงเป็นที่มาของการปั้นแจ่มจรัสซึ่งเป็นชื่อที่สื่อถือกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ขึ้นมา

เพียงแต่แม้จะมีเข้าใจ insight ของคนภูธรก็ตาม แต่ YDM Thailand ก็รู้ดีว่า การจะเดินเข้าไปผู้บริโภคกลุ่มนี้โดยมีแค่ insight คงไม่รอดแน่ เพราะพฤติกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ คนต่างจังหวัดชอบ เอนเตอร์เทนเมนต์ ความสนุกสนานโดยเฉพาะเพลง

สุดท้าย YDM Thailand จึงได้ชวน “RMS” ค่ายเพลงที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงลูกทุ่งรายใหญ่ของไทย มีเพลงในมือกว่า 30,000 เพลง และศิลปินลูกทุ่งในเครือข่ายอีกกว่า 300 คน เช่น ฝน ธนสุนธรหลิว อาจารียาฟิล์ม นรินท์ทิพย์ยิ่งยง ยอดบัวงามอาภาพร นครสวรรค์ปอยฝ้าย มาลัยพรกิ๊ก รุ่งนภามอคค่า การ์เดนท์วงพัทลุง ฯลฯ มาลงขันทำแจ่มจรัสทั้งคู่ถือหุ้นฝ่ายละ 45% อีก 10% เป็นของบริหาร มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท

งานนี้ไม่มีใครเสียเปรียบใครเพราะ YDM Thailand ก็จะได้เม็ดเงินที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการไปเจาะยังแบรนด์ SME ในต่างจังหวัด ที่แม้แต่ละรายจะมีเงินไม่เยอะ แต่จำนวนนั้นไม่ได้น้อยเลย ส่วน RMS ก็ได้ผู้ช่วยมาดูแลศิลปินในแง่ของโซเชียลมีเดีย เพราะถึงศิลปินบางคนจะดังแต่การสื่อสารเหล่านี้ยังไม่ได้ชำนาญนัก นอกจากนี้ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

การดึงนักร้องลูกทุ่งเข้ามาจะใช้เป็น Influencer เพราะกลุ่มเป้าหมายเชื่อและมีพาวเวอร์เหมือนบล็อกเกอร์ในช่วง 4-5 ปีก่อน ซึ่งนักร้องลูกทุ่งจะต่างกับการใช้ดาราดังตรงนี้เอง

ธนพล บอกว่าหลักๆ แล้วจะใช่สื่ออนไลน์เป็นหลัก 80% โดยเฉพาะใน Facebook และ Youtube จะมีทั้งการโพสต์ขึ้นเฉยๆ หรือทำเป็นคลิปออกมา ซึ่งบางครั้งการทำคลิปอาจจะเจาะเฉพาะภาคด้วยซ้ำ เนื่องจากพฤติกรรมไม่เหมือนกัน และต้นทุนการทำไม่ได้แพงเหมือนโฆษณาในทีวี และที่เหลืออีก 20% จะทำในสื่อออฟไลน์ เป็นไปกับคอนเสิร์ต

ในปีแรกนี้คาดว่าจะมีมีรายได้ของการดำเนินงานที่ 70 ล้านบาท หลักๆ 80% เป็นลูกค้าเจ้าใหญ่ประมาณ 30 กว่าแบรนด์ เช่น กาแฟ รถยนต์ รถไถ ปุ๋ย เป็นต้น ที่เหลืออีก 20% จะมาจากแบรนด์ SEM อีกประมาณ 5-6 ราย.