“กรุงเทพประกันภัย” จับมือ “แรบบิทไฟแนนซ์” ทลายโจทย์ราคาแพง และการเข้าหาคนรุ่นใหม่

โจทย์ใหญ่ของกรุงเทพประกันภัยบริษัทประกันอายุ 70 กว่าปีในวันนี้ การที่ผู้บริโภคทั่วไปมองว่า เบี้ยประกันค่อนข้างสูง จึงทำให้ฐานลูกค้าหลักอายุเฉลี่ย 35 ปีขึ้นไป เพราะคนที่จะซื้อได้ต้องมีรายได้พอสมควร แม้ว่าจะมีการต่ออายุสัญญาประกันเฉลี่ย 90% ก็ตาม

แต่เป้าหมายของกรุงเทพประกันภัย ต้องการเข้าถึงกลุ่มฐานลูกค้าอายุต่ำกว่า 35 ปี จึงเป็นที่มาของการจับมือกับแรบบิทไฟแนนซ์โบรกเกอร์ออนไลน์ในเครือ BTS Group ซึ่งมีฐานลูกค้าที่ถือบัตรแรบบิทกว่า 7 ล้านคน ส่วนฐานโบรกเกอร์ 1 ล้านรายอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 27 ปี ตรงความต้องการพอดี

ดีลนี้ทั้งคู่จะร่วมกันทำแคมเปญ Co Branding เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าอายุ 25-35 ปี ใช้ชื่อแคมเปญแคร์ คุ้ม ทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งมาจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความคุ้มค่า จึงนำคำนี้มาใส่ในชื่อแคมเปญ

ก่อนจะร่วมกันออกแพ็กเกจประกัน 4 รูปแบบในราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าปรกติของกรุงเทพประกันภัย เพื่อเจาะฐานลูกค้ากลุ่มนี้ และเติมกิมมิกด้วยสีแทนแต่ละรูปแบบ ได้แก่ สีฟ้ามาลิบู สำหรับประกันภัยรถยนต์, สีเขียวไลท์ซี สำหรับประกันภัยโรคมะเร็ง โดยมี 4 แผนหลักราคาเริ่มต้นที่ 1,920 บาท, สีเหลืองมิลานสำหรับประกันภัยการเดินทาง และสีชมพูแคนดี้สำหรับประกันภัยอุบัติเหตุ มีให้เลือก 3 รูปแบบ

ปิติพงษ์ ชาวชายโขง รองผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจลูกค้ารายย่อย บมจ.กรุงเทพประกันภัย บอกว่าแรบบิทไฟแนนซ์จะทำหน้าที่ในการเคาะประตูบ้าน ผ่านสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ในมือทั้งรถไฟฟ้า BTS และสื่อในอาคารสำนักงานต่างๆ ซึ่งแม้ช่วงแรกๆ คนที่เห็นอาจจะไม่ค่อยรู้จักมากนัก แต่เมื่อเห็นไปเรื่อยๆ ก็จะก่อให้เกิดความสนใจซื้อในที่สุด รวมไปถึงการขายทั้งช่องทางโทรศัพท์และออนไลน์

และเพื่อให้เมสเสจกระจายในวงกว้าง จึงได้เลือกฟิล์มธนภัทร กาวิละที่โด่งดังจากละครเรื่องเมีย 2018 มารับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแคมเปญนี้ เหตุที่เลือกฟิล์มด้วยมองว่า เป็นตัวแทนของการใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล มีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างหลากหลาย อีกทั้งยังมีบุคลิกและภาพลักษณ์ที่ดูอบอุ่น

ตั้งเป้ายอดเบี้ยประกันตลอดแคมเปญ 100 ล้านบาท แต่ปิติพงษ์ บอกว่า ยอดขายไม่ได้เป็นเป้าหมายหลัก แต่ต้องการสร้างพฤติกรรมให้คนรุ่นใหม่ ซื้อประกันเองไม่ใช่รอให้ผู้ใหญ่ซื้อให้ ซึ่งหากจุดพฤติกรรมเหล่านี้ติดแล้วก็จะเป็นผลดี

โดยเฉพาะกับสำหรับประกันภัยการเดินทาง ซึ่งคนยุคนี้ชอบไปเที่ยวอยู่แล้ว จึงคาดว่า ภายใน 3-5 จากนี้จะเติบโตเทียบได้กับประกันภัยรถยนต์

กรุงเทพประกันภัยพยายามเจาะไลฟ์สไตล์อินชัวรันส์ โดยเฉพาะกับไลฟ์ไสตล์คนรุ่นใหม่ ซึ่งหากจุดติดแล้ว ต่อไปจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม แพ็กเกจประกันทั้ง 4 รูปแบบยังถือเป็นเฟสแรกเท่านั้น เพราะในเฟส 2 ที่คาดว่าจะออกในเดือนสินหาคม จะขยายประกันไปยังกลุ่มอัคคีภัยและโจรกรรม เพราะฐานลูกค้าที่ถือแรบบิทมักจะอยู่คอนโดมิเนียมกันอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มนี้ยังไม่เห็นรายอื่นๆ เจาะเท่าไหร่นัก

นอกจากนี้ยังวางแผนออกประกันสำหรับผู้ที่ถือบัตรแรบบิท คุ้มครองเมื่อเดินทางในรถไฟฟ้า BTS ครอบคลุมไปถึงทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋าด้วย

ในขณะที่ฟากแรบบิทไฟแนนซ์ ชยพัทธ์ สกุลร่มโพธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ แรบบิท อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ บอกว่า ประโยชน์ที่ได้จากความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากรายได้จากค่าคอมมิชชั่นขายประกัน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนหลักของรายได้รวม 200 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาแล้ว

ยังจะทำให้ชื่อของแรบบิทไฟแนนซ์ เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค ในการเป็นช่องทางซื้อประกันออนไลน์ ซึ่งนับวันจะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นตลาดที่บริษัทแม่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วม เพราะมีขนาดใหญ่มาก มูลค่านับแสนล้านบาท.