โคคา โคลา เปิดพันธสัญญา “ Live Positively” หรือชื่อภาษาไทยว่า ร่วมทำสิ่งดีๆ เพื่อเรา เพื่อโลกเพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในฐานะแบรนด์ที่มีมูลค่าที่สูงที่สุดของโลก กับการนำ CSR มาใช้อย่างจริงจังในทุกมิติเพื่อก่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมที่วัดผลได้ในทุกๆ ด้าน ซึ่งที่สุดแล้วจะเป็นเกราะป้องกันให้ โคคา โคลา สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และสังคมเกิดความรู้สึกดีต่อ Coporate Image ตลอดจน Product Image สุดท้ายแล้วย่อมหมายถึงยอดขายที่จะเพิ่มพูนตามมา
“เราเปลี่ยน Mindset ทั่วโลก เพื่อเข้าถึงสังคมที่เราเกี่ยวข้องซึ่งแบ่งเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ คือ ตลาด (Marketplace) สิ่งแวดล้อม (Environment) ชุมชน (Community) และที่ทำงาน (Workplace)” ฆอเฮ การ์ดูโน ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงที่มา
เขาบอกเพิ่มเติมว่า Live Positively จะช่วยทำให้โคคา โคลา ลดต้นทุนได้ ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
“เราต้องทำอะไรให้เป็นบวก ทำอะไรให้ดีขึ้น เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจและของสังคม”
ทั้งนี้หนึ่งในพันธกิจด้านบรรจุภัณฑ์ ที่น่าสนใจคือ PlantBottle หรือขวดPETที่ทำจากส่วนผสมของพืช 30% ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งตั้งเป้าวางจำหน่าย 2,000 ล้านขวดในบางตลาด ปัจจุบันมีจำหน่ายแล้วที่เดนมาร์ก แคนาดา สหรัฐฯ (ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส) และอนาคตอันใกล้ที่บราซิล เม็กซิโก ญี่ปุ่น และเตรียมเปิดตัวที่จีนในงานเซี่ยงไฮ้ เอ็กซ์โป 2010 ด้วย
ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจโคคา โคลา ในประเทศไทย มีรายได้รวมกันราว 20,000 ล้านบาทเศษ จากตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ที่มีมูลค่าประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนยอดขายจากเครื่องดื่มคาร์บอเนต 70% และนอนคาร์บอเนต 30%
อย่างไรก็ตาม โคคา โคลา (ประเทศไทย) จะต้องแสดงความเป็นผู้นำนวัตกรรมให้เห็นได้อย่างเด่นชัด โดยเฉพาะเมื่อในตลาดไทย แบรนด์ดังอย่างโค้กต้องเพลี่ยงพล้ำให้กับเป๊ปซี่มานาน การเข็นนวัตกรรม 4 ตัวออกมาภายในปี 2555 ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบรสชาติกับผู้บริโภคชาวไทยนั้นยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตาว่าจะแรงพอต้านเป๊ปซี่ โคลาและเสริมสุขหรือไม่
เป็นไปได้สูงว่า Beverage Innovation ที่เตรียมเปิดตัวในไทยภายใน 3 ปีข้าง จะเป็นเครื่องดื่มในกลุ่มนอนคาร์บอเนต ซึ่งปัจจุบันในPortfolio ของโคคา โคลา ทั่วโลกมีสัดส่วนสูงถึง 74%
ผ่าแผน Live Positively
1.ตลาด
เครื่องดื่ม นำเสนอเครื่องดื่มที่ตอบสนองรสนิยมการใช้ชีวิตและความต้องการความสดชื่นให้ทันยุคสมัย และ ภายในปี 2555เตรียมเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ 4 ตัว ในไทย
สุขภาพ สนับสนุนให้คนใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง ด้วยการออกกำลังกาย จัดกิจกรรม Coke Cup ซึ่งทำต่อเนื่องในไทยมา 26 ปี คาดว่าจะเข้าถึงเยาวชน 50,000 คน ภายใน 3 ปี
2.สิ่งแวดล้อม
น้ำ คืนน้ำสู่ธรรมชาติ ท่ากับปริมาณที่ใช้ในการผลิตเครื่องดื่มภายในปี 2563
อากาศ ตู้แช่รุ่นใหม่ลดพลังงาน 35% ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 99% ภายในกลางปีหน้าจะมีตู้แช่รุ่นใหม่นี้ 7,000 ตู้ ซึ่งมีต้นทุนตู้ละ 15,000-20,000 บาท (จากเดิมราคาตู้ละ 12,000 บาท ) หรือคิด เป็นมูลค่าการลงทุนเบื้องต้นนี้ราว 105 – 140 ล้านบาท
บรรจุภัณฑ์ ตั้งเป้ารีไซเคิลไม่หลงเหลือเป็นขยะอีกต่อไป แต่ปัจจุบันในไทยมีบรรจุภัณฑ์ Light Weight แล้วและภายในปี 2555 จะลดปริมาณการใช้พลาสติกลง 15% ประหยัดเงินกว่า 350 ล้านบาท
3.ชุมชน ใช้งบ 150 ล้านบาท เพื่อเข้าถึงโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยกว่า 10 ล้านคนภายในปี 2555
4.ที่ทำงาน ภายในปี 2555 จะจัดสรรเวลามากกว่า 1 ล้านชั่วโมงเพื่อฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของพนักงานของกลุ่มธุรกิจโคคา โคลา ที่มีอยู่กว่า 10,000 คนในไทย
Did you know?
ทั่วโลกมีผู้บริโภคดื่มผลิตภัณฑ์ของโคคา โคลา กว่า 1.6 พันล้านครั้งต่อวัน
ที่มา : www.sustainability.thecoca-colacompany.com