“คุมาโมโตะ” (Kumamoto) เป็นอีก 1 จังหวัดใหญ่บนเกาะคิวชู ซึ่งอยู่ตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของกลุ่มเครื่องดื่ม “ซันโทรี่” (Suntory) ซึ่งก่อตั้งธุรกิจในปี 1899 หรือกว่า 120 ปี
ซันโทรี่ เริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากโรงกลั่นวิสกี้ ต่อยอดเป็นเบียร์และซอฟต์ดริ้งก์ หลากหลายของผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำระดับโลก
กลุ่มเครื่องดื่ม “นอนแอลกอฮอล์” ถือเป็นจุดแข็งและผลักดันการเติบโตของซันโทรี่มาต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม LRB (Liquid Refreshment Beverage) เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและดูแลสุขภาพ
ปัจจุบัน “ซันโทรี่” เป็นผู้ผลิตน้ำดื่มอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ที่มีมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 35% จากนวัตกรรมที่หลากหลายทั้งน้ำแร่ธรรมชาติ, น้ำดื่มอัดลม และกลุ่ม Flavored Water หรือ Water Plus น้ำแต่งกลิ่นรส รูปแบบ “น้ำใส”
จุดแข็ง R&D-แหล่งผลิตน้ำภูเขาไฟ
การก้าวสู่ผู้นำตลาดน้ำดื่มของซันโทรี่ในญี่ปุ่น คือ นวัตกรรม ที่สร้างความแตกต่างในหลายแคทิกอรี่ของกลุ่มเครื่องดื่ม รวมทั้งการเข้าใจผู้บริโภค (Consumer needs) เพื่อพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะเทรนด์สุขภาพ ที่ขยายตัวจากสัดส่วนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นจุดแข็งของซันโทรี่
ปัจจุบัน ซันโทรี่มีฐาน R&D Center 3 แห่ง โอซากา เกียวโต คาวาซากิ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ นวัตกรรม แพ็กเกจกิ้ง เทคโนโลยี และการควบคุมคุณภาพ
กระบวนการพัฒนา “สินค้าใหม่” เริ่มจากการรับฟังความเห็นจากผู้บริโภคและวิจัยความต้องการลูกค้าในตลาด จากนั้นเป็นการวางคอนเซ็ปต์และพัฒนาสินค้าต้นแบบ ซึ่งจะอยู่ ภายใต้ One Team เป็นการทำงานร่วมกันของ 3 ฝ่าย อาร์แอนด์ดี การตลาด และทีมสร้างสรรค์ ในปี 2017 มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 100 โปรดักต์
สำหรับฐานการผลิตเครื่องดื่มซันโทรี่ คือโรงงานที่เมือง คุมาโมโตะ เป็นโรงงานผลิตน้ำแร่ธรรมชาติ เบียร์ พรีเมียม มอลต์ กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, กาแฟกระป๋อง Boss, เครื่องดื่มชา, วอเตอร์ พลัส รวมกว่า 63 ผลิตภัณฑ์
เมืองคุมาโมโตะ ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดน้ำสำคัญของญี่ปุ่น โดยการันตีว่าน้ำในพื้นที่คุมาโมโตะทั้ง 100% มาจาก “น้ำแร่” และโรงงานซันโทรี่ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำแร่จากภูเขาไฟอะโสะ (Aso) ที่นำมาใช้ผลิตเครื่องดื่มประเภทต่างๆ
“น้ำแต่งกลิ่นรส” เทรนด์แรง
ตลาดเครื่องดื่มที่พัฒนาจากนวัตกรรมและอาร์แอนด์ดีของซันโทรี่ และเป็นเทรนด์ที่มาแรงในญี่ปุ่นในช่วง 5 ที่ผ่านมา ต้องยกให้กลุ่ม วอเตอร์ พลัส ซึ่งเป็นเครื่องดื่มให้ความสดชื่นและดูแลสุขภาพด้วยปริมาณน้ำตาลต่ำ เป็นแคทิกอรี่น้ำดื่มที่อยู่ตรงกลางระหว่างน้ำเปล่าและเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวาน
วอเตอร์ พลัส ในญี่ปุ่นที่เริ่มทำตลาดในปี 2007 จากสินค้านำเข้า ในปี 2010 โคคา-โคล่า เริ่มทำตลาดแบรนด์ I-Lohas น้ำดื่มแต่งกลิ่นรส กลุ่มรสชาติผลไม้ จากนั้น ซันโทรี่ ได้เริ่มเปิดตลาดในปี 2014 ภายใต้แบรนด์ Tennensui เริ่มด้วยกลิ่นรสผลไม้
จากนั้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมมาต่อเนื่อง ปี 2015 เปิดตัวน้ำดื่มแต่งกลิ่นรส “โยเกิร์ต” ที่เรียกว่าได้ว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด ด้วยนวัตกรรมนำ โยเกิร์ต มาพัฒนาแต่งกลิ่นรสในรูปแบบเครื่องดื่มน้ำใสเป็นครั้งแรก จากนั้นตามมาด้วย รสชาติโยเกิร์ตผสมอโลเวรา และโยเกิร์ตผสมบลูเบอร์รี่
ปี 2017 เปิดตัวกลิ่นและรสชาติกลุ่ม “ชานม” ด้วยความแตกต่างเรื่องนวัตกรรมของรสชาติโยเกิร์ตและชานมที่ไม่มีในตลาด ทำให้ซันโทรี่ขึ้นมาครองอันดับ 1 ตลาดวอเตอร์ พลัส ในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2015 ถึงปัจจุบัน โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 50%
ด้วยความนิยมเครื่องดื่ม “วอเตอร์ พลัส” ในญี่ปุ่นและเทรนด์ที่เติบโตสูง จึงเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่ชั้นวางขนาดใหญ่ ในช่องทางค้าปลีกต่างๆ ทั้ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติในญี่ปุ่น ก็ต้องมีสินค้าวอเตอร์ พลัสไว้เป็นตัวเลือก
“คุมะมง” หมีดังประจำเมือง
นอกจาก “คุมาโมโตะ” เป็นฐานการผลิตเครื่องดื่มซันโทรี่แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง คือปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ยังเป็นเมืองออนเซนในป่าเขาบรรยากาศธรรมชาติ ภูเขาไฟอะโสะ และเจ้าหมีหน้าตาใจดี ตัวดำ แก้มแดง “คุมะมง” (KUMAMON)
“คุมะมง” ถือกำเนิดเมื่อ 12 มีนาคม 2011 พร้อมการเปิดใช้บริการรถไฟความเร็วสูงชินคันเซนสายคิวชู ในจังหวัดคุมาโมโตะ โดยมี “คุมะมง” เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองและมาสคอตประจำจังหวัด เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดคุมาโมโตะ
ในปี 2016 คุมาโมโตะเผชิญกับสถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ “คุมะมง” มีบทบาทสำคัญออกมาช่วยผู้ประสบภัยและทำหน้าที่กอบกู้เศรษฐกิจของจังหวัดคุมาโมโตะ ผ่านสินค้าเมอร์เชนไดส์หลากหลาย ตั้งแต่ของที่ระลึก เครื่องเขียน ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไปจนถึงผักผลไม้ในตลาดสดที่ติดโลโก้คุมะมง ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ “คุมะมง” ได้ออกมาขยายอาณาจักรในต่างประเทศผ่านธุรกิจลิขสิทธิ์ เมอร์เชนไดส์ หมีดังประจำเมือง “คุมาโมโตะ” ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ที่ “ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล” ในเครือสหกรุ๊ป ให้เป็นผู้ดูแลไลเซ่นส์.