เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน นอกจากการอยู่ในสถานที่เย็นๆ จะเป็นตัวเลือกแรกที่คนทั่วไป มักจะเลือกใช้ในการดับร้อน การ “ดื่มน้ำ” จึงเป็นตัวเลือกลำดับรองลงมา ที่ช่วยคลายร้อนได้ดีไม่แพ้กัน อันเนื่องมาจากในร่างกายประกอบไปด้วยน้ำถึง 70%
แต่เทรนด์การรักษาสุขภาพที่กำลังมาแรง ส่งผลให้ผู้บริโภคเลือก “น้ำเปล่า” มาเป็นอย่างแรก แทนที่จะเป็นเครื่องดื่มหวานๆ พฤติกรรมนี้สะท้อนไปยังมูลค่าของ “ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด” ที่เป็นเพียงไม่กี่กลุ่มในตลาดเครื่องดื่มมูลค่า 200,000 ล้านบาท ที่ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเป็นตัวเลข 2 หลักในช่วง 5 ปีมานี้ โดยข้อมูลจากนีลเส็นระบุมูลค่าตลาด ณ เดือนกุมภาพันธ์ ย้อนหลังไป 1 ปี อยู่ที่ 36,000 ล้านบาท
ด้วยมูลค่าเช่นนี้จึงไม่ต้องแปลกใจ หากจะมีการแข่งขันที่รุนแรง เพราะเมื่อกวาดตาเข้าไปในตู้แช่ของร้านสะดวกซื้อ จะพบกับบรรดาน้ำเปล่าวางเรียงรายกินพื้นที่ไปถึง 30% สิ่งที่พบตามมาคือ “เกมราคา” ที่จัดต่อเนื่องไม่มีหยุด ทำให้น้ำดื่มมักจะเป็นกลุ่มที่ผู้บริโภคไม่ค่อยมี Brand Loyalty อยู่แล้ว
ดังนั้นผู้ที่ก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ได้ จึงสะท้อนไปถึงความไว้ใจที่ผู้บริโภคมีต่อสินค้าได้เป็นอย่างดี
ณ วันนี้ผู้ที่ครอบครองเบอร์ 1 ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “สิงห์” ที่มีส่วนแบ่งตลาดถึง 21% สิ่งที่ทำให้สิงห์แตกต่างไม่ใช่ “สงครามราคา” อย่างที่หลายๆ ค่ายเลือกใช้ แต่คือ “คุณภาพ” ของน้ำที่สิงห์ให้ความสำคัญมากที่สุด
ทำไม “น้ำสิงห์” ถึงแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ก็เพราะสิงห์ใช้กระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี “Smart Micro Filter” ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของน้ำดื่มสิงห์ โดยเป็นเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ ที่มีประสิทธิภาพและความละเอียดสูง สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรีย สิ่งสกปรก ที่ปะปนมากับน้ำออกไป
กลายเป็น “น้ำสะอาด” ที่ไว้ซึ่งแร่ธาตุตามธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเทคโนโลยีนี้ได้ถูกติดตั้งอยู่ในทุกโรงงาน 7 แห่งทั่วประเทศ และสิงห์เองก็มีทีมวิศวกรภายในที่คอยพัฒนาอยู่เสมอ
ไม่เพียงเท่านั้นแหล่งน้ำอันเป็นที่ตั้งของโรงงานทั้ง 7 แห่ง ยังถูกสิงห์คัดเลือกมาเป็นอย่างดี ว่าอยู่ในแหล่งที่ดี มีคุณภาพ เมื่อน้ำตั้งแต่ต้นทางมีคุณภาพ ผ่านกระบวนการกรองที่มั่นใจได้กับเทคโนโลยี “Smart Micro Filter” จึงกลายมาเป็นน้ำดื่มสะอาดบรรจุอยู่ในขวดที่เราได้เห็นกัน
หลายคนอาจสงสัยทำไมต้องเป็นน้ำดื่มสะอาด และแตกต่างจากน้ำดื่มบริสุทธิ์อย่างไร ? สำหรับน้ำบริสุทธิ์นั้นเกิดจากกระบวนการกรองเอาแร่ธาตุต่างๆ ออกไปจนหมด จนเหลือแต่น้ำเพียวๆ เมื่อกินเข้าไปแทนที่จะเสริมร่างกาย กลับจะดึงแร่ธาตุต่างๆ ออกไปด้วย ต่างกับน้ำสะอาดที่มีแร่ธาตุต่างๆ ครบถ้วนและไม่มีส่งเสียต่อร่างกาย
ไม่เพียงเท่านั้นน้ำดื่มสิงห์ยังมีมาตรฐานระดับโลกด้านอื่นๆที่การันตีคุณภาพความสะอาดได้แก่ จีเอ็มพี (GMP), เอชเอซีซีพี (HACCP), ไอเอสโอ 22000 (ISO22000), ไอเอสโอ 9001 (ISO9001), ไอเอสโอ14001 (ISO14001), เอ็นเอสเอฟ (NSF International จากสหรัฐอเมริกา), อย. และฮาลาล (HALAL) ซึ่งได้รับมานานแล้ว
เพียงแต่ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะไม่ค่อยได้รับรู้ว่า สิงห์มีเทคโนโลยีการผลิตน้ำดื่มระดับโลกอยู่กับตัว จึงเป็นที่มาของการทำแคมเปญ “ดื่ม..สิ่งที่ใช้ให้ตัวเอง” เพื่อย้ำถึงคุณภาพที่ดีของน้ำดื่มสิงห์ที่สะอาด เหมาะกับร่างกาย
“ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล” ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด อธิบายว่า สิ่งที่สิงห์ต้องสื่อสาร Massage ไปหาผู้บริโภคคือ น้ำดื่มสิงห์เป็นน้ำดื่มที่ใช่ สะอาด เหมาะสมกับร่างกาย หาซื้อง่าย ในราคาที่จับต้องได้
ดังนั้นผู้ที่จะมาสื่อสาร Massage จึงไม่ใช่ใครก็ได้ แต่จะต้องผู้ที่มีกลุ่มผู้บริโภคให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ในที่สุดสิงห์จึงเลือกให้ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” พระเอกเบอร์ 1 ของช่อง 3 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เนื่องจากมีการออกกำลังกาย ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งถือเป็นคาแร็กเตอร์ที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ และยังเป็นนักแสดงในดวงใจของผู้บริโภค
และการเลือกใช้พระเอกเบอร์หนึ่งในครั้งนี้ ก็เพื่อย้ำว่า “สิงห์” คือเบอร์ 1 ในตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดไม่ว่าจะในวันนี้ หรือ อนาคตก็ตาม!