เจาะเบื้องหลังทำไม ‘สิงห์’ ถึงคว้าสิทธิ์ Official Beer Partner รายการกอล์ฟระดับตำนานที่เก่าแก่สุดของโลก The Open ได้

ก่อนหน้านี้เราได้ยินข่าวบิ๊กดีลการเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์ของ ‘สิงห์’ ในฐานะ Official Beer Partner กับรายการกอล์ฟเมเจอร์เก่าแก่สุดในโลกอย่าง ‘ดิ โอเพ่น (The Open) ที่มีประวัติจัดต่อเนื่องยาวนานถึง 153 ปี ซึ่งดีลนี้ถือเป็นดีลประวัติศาสตร์ที่ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ สำหรับแบรนด์ไทย

 

เพราะอย่างที่ทราบกัน การเป็นพาร์ทเนอร์กับรายการกีฬาระดับโลกแถมเป็นตำนานขนาดนี้ ไม่ใช่แค่มี ‘เงิน’ แล้วจะเป็นได้ แต่ต้องผ่านหลักเกณฑ์การคัดเลือกอย่างดุเดือดและต้องแข่งขันกับ Inter Brand อีกมากมาย

 

แล้วทำไม ดิ โอเพ่น ถึงเลือกสิงห์ และการเป็นพาร์ทเนอร์ครั้งนี้จะส่งผลดีกับสิงห์อย่างไร?

 

‘วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี’ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เล่าว่า ที่ผ่านมาสิงห์ได้มีการสนับสนุนกีฬาไม่ว่าจะเป็นรายการในประเทศและรายการดังระดับโลกมากมาย เพราะสิงห์มีแพชชั่นในเรื่องกีฬา โดยต้องการพัฒนาและผลักดันศักยภาพของนักกีฬาไทยให้ไปแสดงฝีมือบนเวทีระดับโลก

 

นอกจากนี้ ด้วยเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจ เนื่องจากสิงห์เองมีการวางจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในอังกฤษ และสหราชอาณาจักร จึงต้องการสร้างการรับรู้ และตอกย้ำภาพลักษณ์ในฐานะ Global Brand ที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก

โดยนอกจาก ‘ภาพลักษณ์และคุณภาพสินค้า’ ที่มีมาตรฐานได้รับความเชื่อมั่นในเวทีสากลแล้ว ‘Sport Marketing’ ถือเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ซึ่งกอล์ฟเองเป็นอีกหนึ่งประเภทกีฬาที่คนทั่วโลกชื่นชอบและติดตามชมเป็นจำนวนมาก

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลของความร่วมมือในฐานะ Official Beer Partner กับ ดิ โอเพ่น รายการกอล์ฟเมเจอร์เก่าแก่ที่สุดในโลก เพื่อสร้างการรับรู้และย้ำการเป็น Global Brand ในตลาดอังกฤษให้ชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดธุรกิจหลังจากการที่สิงห์ได้ Shepherd Neame โรงเบียร์เก่าแก่ในอังกฤษที่มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี มาเป็นผู้ผลิตเบียร์สิงห์ในอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม  การสร้างความร่วมมือกับรายการกีฬาระดับโลกนั้น ทางเจ้าของลิขสิทธิ์จะมีการคัดสรรอย่างเข้มข้นแบบ ‘ลงลึก’ ทุกดีเทล ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์และจุดยืนของแบรนด์ต้องสอดคล้องกันกับรายการแข่งขัน ไปจนถึงกลุ่มเป้าหมายและความสำเร็จของแบรนด์ที่จะเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์ ฯลฯ  

 

ดังนั้น การได้รับเลือกจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ด้วยประวัติศาสตร์และความสำเร็จที่มายาวนานกว่า 92 ปี ของสิงห์ ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งในไทยและเวทีสากลระดับโลก บวกกับการสั่งสมชื่อเสียงในวงการกีฬาที่สิงห์มีแพชชั่น จากการเข้าไปสนับสนุนกีฬาระดับโลกมากมายในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา อาทิ



สิงห์เป็นเครื่องดื่มแบรนด์แรกๆ ของประเทศไทยที่เข้าไปสนับสนุน F1 ในฐานะออฟฟิเชียลพาร์ตเนอร์กับทีม Infiniti Red Bull Racing, Scuderia Ferrari จนถึงทีมระดับตำนานอย่าง Alfa Romeo และ Stake F1 Team KICK Saubar ในปัจจุบัน

 

นอกจากนี้ ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับรายการกีฬาใหญ่ระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างเชลซี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ MotoGP และการเป็น Official Partner กับรายการ ‘ONE Championship’ ศึกศิลปะการต่อสู้ระดับแนวหน้าของโลกที่มีผู้ชมกว่า 195 ประเทศทั่วโลก

 

ภาพเหล่านี้ ล้วนสะท้อนให้เห็นว่า ‘สิงห์’ คือแบรนด์ไทยที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จในบ้านของตัวเองเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำการได้รับการยอมรับบนเวทีระดับโลกในฐานะ Global Brand ได้อย่างชัดเจน

 

และเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมรายการกีฬาดังระดับโลกหลายรายการถึงเลือกสิงห์เป็นพาร์ทเนอร์ รวมถึงดิ โอเพ่น รายการกอล์ฟระดับเมเจอร์ที่เก่าแก่สุดของโลกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม การเดินทางสู่ Global Brand ของสิงห์ยังเดินหน้าต่อไป และมีเป้าหมายใหญ่มากกว่าการสร้างความแข็งแรงให้กับธุรกิจของตัวเอง นั่นคือ ‘การเปิดประตูแห่งโอกาส’ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก และรู้ถึงศักยภาพทั้งของ ‘ประเทศไทย’ รวมไปถึง ‘สินค้าไทย’ ให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า จะเป็นอย่างไร