แกร็บ ประเทศไทย นำโดย นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นำโดย ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ อธิการบดี ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยและวิชาการเพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีและอนาคตของประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมประเด็นในด้านต่างๆ อาทิ สังคม เศรษฐกิจ คมนาคม และการท่องเที่ยว เพื่อนำไปสู่การแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างองค์ความรู้และการศึกษาทางวิชาการที่สอดรับกับนโยบายการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย รวมทั้งสร้างกระบวนการเรียนรู้เชิงบูรณาการตอบรับโลกแห่งเทคโนโลยี โดยพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจัดขึ้นในการประชุมวิชาการระดับชาติในหัวข้อ “เปลี่ยนโฉมประเทศไทย ให้ก้าวไกลอย่างมั่นคง” ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 53 ปี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ประจำปี 2562
ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า “การผนึกความร่วมมือกับ แกร็บ ประเทศไทย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของนิด้าในการร่วมมือเพื่อพัฒนาองค์ความรู้กับบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีที่มีความพร้อมทั้งในด้านข้อมูล นวัตกรรมดิจิทัล และการบริหารจัดการที่ทันสมัย ซึ่งจะเข้ามาเสริมศักยภาพการประยุกต์องค์ความรู้ (Knowledge Sharing) เพื่อต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเรียนการสอน การวิจัย รวมถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยถือเป็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล อันถือเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และประเทศ ให้เจริญก้าวหน้าและสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างยั่งยืน”
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “นอกจากที่ แกร็บ ประเทศไทย จะได้มาร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 53 ปี วันคล้ายวันสถาปนาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในโอกาสนี้ เรายังมีความยินดีที่ได้รับเกียรติในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางวิชาการกับนิด้า เพื่อร่วมกันผลักดันการบูรณาการข้อมูลและองค์ความรู้และงานวิจัยที่จะช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเพื่ออนาคตของประเทศไทย โดย แกร็บ ถือเป็นบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีและผู้ให้บริการซูเปอร์แอพชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความพร้อมในการให้การสนับสนุนแก่นิด้า ทั้งในด้านการดำเนินงานและกิจกรรมการศึกษาวิจัยและด้านวิชาการ ผ่านการแลกเปลี่ยน ถ่ายโอนองค์ความรู้ นวัตกรรม และประสบการณ์ตรงจากผู้บริหาร รวมทั้งเทคโนโลยีด้านการวิจัยและพัฒนาที่จะช่วยให้สามารถนำข้อมูลที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเราถือว่าเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันการนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ คมนาคม และการท่องเที่ยว อีกทางหนึ่ง”
ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง แกร็บ ประเทศไทย และสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ที่ตอบรับยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยที่ผ่านมา แกร็บ ประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการร่วมกับภาครัฐมาแล้วอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการสนับสนุนการพัฒนาและจัดทำระบบบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวของประเทศ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และความร่วมมือกับจังหวัดบุรีรัมย์ในการเป็นจังหวัดนำร่องใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสารพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) ในการแข่งขัน โมโตจีพี เป็นต้น
เกี่ยวกับ แกร็บ
แกร็บ (Grab) คือแพลตฟอร์ม O2O (Online to Offline) ที่ให้บริการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของลูกค้าในการเดินทาง รับประทานอาหาร ส่งของ รวมไปถึงชำระเงินผ่านมือถือและโมบายวอลเล็ต ซึ่งได้รับการเรียกใช้งานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แกร็บ เชื่อว่าชาวเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ทุกคนควรได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่เศรษฐกิจแบบดิจิทัล จึงได้ให้บริการที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมการเดินทาง การรับส่งอาหาร การจัดส่งพัสดุสินค้า รวมไปถึงการชำระเงินผ่านมือถือและบริการทางการเงินต่างๆ ในปัจจุบัน แกร็บให้บริการใน 8 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม พม่าและกัมพูชา สามารถอ่านและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.grab.com
เกี่ยวกับ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ ที่นิยมเรียกกันว่า นิด้า (NIDA) เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของรัฐ ก่อตั้งจากพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 เปิดสอนเฉพาะระดับปริญญาโท และปริญญาเอก นิด้าเปิดการสอนหลักสูตร MBA เป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยการประกันคุณภาพหลักสูตรของบริหารธุรกิจได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจาก AACSB และหลักสูตรทางการจัดการการท่องเที่ยวได้รับการรับรองจาก TedQual สำหรับหลักสูตรอื่นๆ ของสถาบันได้นำระบบการประกันคุณภาพการศึกษาในอาเซียน (ASEAN University Network Quality Assurance: AUN-QA) ซึ่งเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียนได้จัดระบบขึ้น เพื่อรองรับการเปิดเสรีด้านการศึกษา นอกจากนี้ นิด้ายังได้รับมาตรฐานการปฏิบัติงาน ISO อีกด้วย สถาบันมีอัตราส่วนอาจารย์ระดับปริญญาเอกต่อจำนวนนักศึกษาที่สูงที่สุดในประเทศไทย และสัดส่วนอาจารย์ที่มีตำแหน่งทางวิชาการสูงที่สุดในประเทศเช่นกัน นอกจากนั้น ยังได้รับคะแนนการประเมินการดำเนินงานจากหลากหลายองค์กรระดับสูงในประเทศอีกด้วย