นิสสัน ในประเทศไทย ปรับสไตล์อัลเมร่า ใหม่ รุ่นปี 2019 และเพิ่มรุ่นพิเศษ อี สปอร์ตเทค เพิ่มความโดดเด่นด้วยการตกแต่งภายในและภายนอกใหม่อย่างมีสไตล์
สำหรับ รุ่นพิเศษ อี สปอร์ตเทค ใหม่ ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยสไตล์ และความปลอดภัย โดยเพิ่มอุปกรณ์ชุดแต่งแบบสปอร์ตใหม่มากมาย ได้แก่ พวงมาลัยหุ้มหนัง แบบ D-Shape ใหม่ ขุดครอบกันชนหน้าสีดำ กระจังหน้าโครเมี่ยมสีดำ ชุดสเกิร์ตข้างสีดำ และชุดสเกิร์ตหลังสีดำ ภายนอกมีสามสีให้เลือก ได้แก่ สีขาว ไวท์ เพิร์ล สีดำ แบล็ค สตาร์ และสีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์
นอกจากนี้ยังตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ ด้วยวัสดุพรีเมี่ยมสีดำ เปียโน แบล็ค ตัดขอบด้วยสีเงิน ทำให้สไตล์ภายในสวยงามลงตัวมากขึ้น พวงมาลัยหุ้มหนัง แบบ D-Shape ใหม่ ติดตั้งปุ่มควบคุมระบบเสียงที่ใช้งานง่ายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และปลอดภัยมากขึ้น
“นิสสัน อัลเมร่า เป็นรถอีโคคาร์แบบซีดานคันแรกของประเทศไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยสำหรับ รุ่นปี 2019 ใหม่นี้ ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมความคุ้มค่าให้ลูกค้าทุกคน” สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธาน สายงานการตลาด นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าว “รถยนต์คันนี้มาพร้อมกับฟังก์ชั่นหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า”
โดย อัลเมร่า รุ่นปี 2019 ใหม่ ยังมาพร้อม Display Audio แบบอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ บลูทูธ การเชื่อมต่อกับแอปเปิล คาร์เพลย์ และจอแสดงภาพด้านหลังหรือ Rear View Monitor เพื่อความสะดวกในการจอดรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังพวกเขาโดยแสดงภาพขณะถอยไว้ที่หน้าจอโดยไม่จำเป็นต้องหันหลังไปมอง
อัลเมร่า รุ่นปี 2019 ใหม่ (ตั้งแต่รุ่น 1.2 S MT ขึ้นไปจนถึงรุ่น 1.2 VL Sportech) ยังนำเสนอรูปลักษณ์ภายนอกที่ทันสมัยและมีสไตล์ด้วยไฟหน้าฮาโลเจนพร้อมฟังก์ชั่นระบบไฟหน้า “Follow-me-home” ใหม่ พร้อมกระจกมองข้างใหม่ ที่มีสัญญาณไฟเลี้ยวอยู่ที่ตัวกระจก
“อัลเมร่า รุ่นปี 2019 ใหม่ ช่วยปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยแนวคิดความปลอดภัยของนิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ ซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนาและวิศวกรรมของรถยนต์ทุกคันที่นิสสันทำ” สุรีทิพย์ กล่าวเสริม “เทคโนโลยีเหล่านี้ ประกอบด้วยระบบเบรคป้องกันล้อล็อคแบบ ABS ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution: EBD) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกและระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assit: BA)”
เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ยังคงจุดเด่นในด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประหยัดน้ำมัน ระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT เมื่อเทียบกับระบบเกียร์อัตโนมัติทั่วไปโดยให้อัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ทำให้การขับขี่มีความราบรื่น แต่ปล่อยมลพิษต่ำกว่า 120 กรัมต่อกิโลเมตรซึ่งเท่ากับมาตรฐานไอเสียของยุโรป
นิสสัน อัลเมร่า รุ่นปี 2019 ใหม่ มีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีขาว ไวท์ เพิร์ล (White Pearl) สีเทา ดีพ ไอริส เกรย์ (Deep Iris Grey) สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver) สีดำ แบล็ค สตาร์(Black Star) สีแดง เรเดียนท์ เรด (Radiant Red) สีน้ำตาล เกรย์ยิช บรอนซ์ (Grayish Bronze) และสีม่วง พลัม (Plum) ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 445,000 บาทสำหรับรุ่น 1.2 S MT
สำหรับการทดสอบขับอัลเมร่า ใหม่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมหนึ่งในโชว์รูมนิสสันเกือบ 180 แห่งใน 77 จังหวัดทั่วประเทศหรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้านิสสันโทร 02 401 9600 หรือเยี่ยมชม www.nissan.co.th
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.O.V.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.76 ล้านคันในปี 2561
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube