งานเปิดตัว “Nokia X3” กลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นับเป็นอีกงานในช่วงท้ายของปี 2552 ที่โนเกียได้ส่งสัญญาณสำคัญสำหรับธุรกิจมือถือปีหน้า เพราะทั้งงานเต็มไปด้วยป้าย “Ovi” และพูดถึงชื่อ “โอวี่” มากกว่าชื่อรุ่นสินค้า X3 เสียอีก
Ovi เป็นชื่อร้านค้าออนไลน์ขายโปรแกรมเสริมมือถือ (Application Store) ที่โนเกียเพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่ถึงปีและกำลังผลักดันสุดตัว เพราะเป็นทิศทางของตลาดยุคนี้ที่มือถือจะคล้ายคอมพิวเตอร์ สามารถลงโปรแกรมต่างๆ ภายหลังได้
โนเกียต้องเผชิญกับคู่แข่งสำคัญ อย่าง iPhone เป็นผู้จุดกระแสนี้ ผ่าน AppStore ซึ่งมีถึงกว่า 8 หมื่นแอพฯ แล้วที่ทั้งขายและแจกฟรี ฝ่ายกูเกิลก็มีแอนดรอย์เป็นอาวุธโดยมีถึงกว่า 2 หมื่นแอพฯ อยู่ใน “Android Market” ส่วน “Ovi Store” ของโนเกียยังอยู่ที่ราวๆ 1 หมื่นแอพฯ ตามมาด้วยตัวล่าสุดคือ “Windows Mobile Marketplace” ของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อตุลาคมปีนี้ บ่งบอกว่ามือถือเข้าสู่ยุคแข่งกันด้วย “แอพฯ” แล้ว
นนทวัน สินธวานนท์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดของโนเกียประเทศไทย ชี้ชัดถึงการวางตำแหน่งของ Nokia X3 ว่าเป็นมือถือระดับราคา 5 – 6 พันบาทตัวแรกของโนเกียที่สามารถลงแอพฯ จาก Ovi ได้ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ โดยมีแอพฯ เบื้องต้น 5 ตัวที่เป็นไฮไลต์จากโนเกียคือ Game, Chat, Mail, Map และ Share (แบ่งปันรูป+Location) ถ้าอยากได้เพิ่มซื้อได้จาก “Ovi Store” ซึ่งก่อนนี้ต้องเป็น Nokia รุ่น 5800 ที่ราคาหมื่นกว่าบาท หรือ NSeries ที่ราคาหมื่นห้าขึ้นไปเท่านั้นถึงจะทำได้
การขยับลงในรุ่นราคาต่ำมาถึง 5 พัน โนเกียต้องการให้ Ovi ถูกใช้งานแพร่หลายมากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะสมาร์ทโฟน แม้แต่ X3 ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็น Music Phone ที่เล่นเน็ต แชต ส่งรูป เล่น Social Network ได้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟน
หากว่า iPhone และ Android คือ 2 คู่แข่งที่แข่งขันกันบุกเบิกโลกแห่งแอพฯ บนสมาร์ทโฟนราคาหมื่นกว่าขึ้นไป ฝ่าย Nokia ก็กำลังปักธงสร้างอาณาจักร App Store สำหรับมือถือระดับแมสนั่นเอง
ทุกวันนี้ “App Store” เป็นเสมือนหน้าร้านออนไลน์ ศูนย์รวมแอพพลิเคชั่นให้เลือกดาวน์โหลดได้นับพันหมื่นแอพฯ หรือมากกว่านั้น ส่วนใหญ่มาจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระหรือบริษัทซอฟต์แวร์ทั่วไป แต่ก็มีบ้างที่เจ้าของตลาดเองจะส่งโปรแกรมของตัวเองลงไปเพื่อสร้างสีสันให้ตลาดด้วย เช่นที่ Nokia ทำ Ovi Chat, Ovi Map เอง หรือ Google เองก็สร้างแอพฯ เองหลายตัวด้วยเช่นกัน
ราวๆ 40% ของแอพฯ บน App Store แต่ละเจ้านั้นขายผ่านระบบบัตรเครดิต หรือ Paypal ส่วนอีก 60% ที่เหลือแจกฟรี ทั้งโดยเจ้าของตลาดเองเช่น Nokia แจก Ovi Chat, Ovi Map, ฯลฯ และโดยเจ้าของบริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้หากชอบใจค่อยซื้อเวอร์ชั่นเต็ม
ปีที่ผ่านมา ตลาดแอพฯ ใหญ่ๆ ทั้ง 4 รายคือ “Apple AppStore”, “Android Market”, “Ovi Store” และ “Windows Mobile Marketplace” มีสินค้ารวมกันกว่าแสนแอพฯ เกิดระบบเศรษฐกิจใหม่ “App Economy” ที่มีเงินหมุนเวียนปีละหลายร้อยล้านดอลลาร์ และพร้อมจะก้าวกระโดดอีกหลายเท่าในปีนี้
Nokia X3
Launch : 15 ธันวาคม 2552
Positioning : Music Phone ตลาดกลาง-ล่าง ราคา 5พันบาท ที่สามารถใช้แอพฯและลงแอพฯได้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนราคาหมื่น
Target :
กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยรุ่นและหนุ่มสาวที่นิยมฟังเพลงผ่านมือถือ และเล่นอินเทอ ร์เน็ต เล่นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ บวกกับสนใจใช้งานสมาร์ทโฟนบ้างเช่นแผนที่ แชร์รูป อีเมล ฯลฯ
Product Detail :
มือถือ Slide Phone กับปุ่มตัวเลข เน้นการฟังเพลงโดยมีรูเสียบสายหูฟังมาตรฐานทั่วไป และฟังวิทยุได้โดยไม่ต้องเสียบหูฟัง ต่างจากมือถืออื่นๆ ในท้องตลาด
Market Analysis :
ขนาดตลาด : คนไทยผู้ใช้โทรศัพท์ระดับกลางถึงล่าง ที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน ราว 30 ล้านเครื่องจากโทรศัพท์มือถือในไทยทั้งหมด ประมาณ 40 ล้านเครื่อง
ส่วนแบ่งตลาดรวมมือถือในไทย : อันดับ 1 Nokia ประมาณ 40% รองลงไปเป็น i-mobile ประมาณ 30%, Samsung ประมาณ 20% ที่เหลือเป็น LG และอื่นๆ (รวบรวมโดย POSITIONING)