กุญแจความสำเร็จอย่างหนึ่งของ เนเจอร์กิฟ คือ การทุ่มโฆษณาเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และในฐานะของมีเดียเอเยนซี่ “Mind Share” ซึ่งเป็นที่ปรึกษาในการใช้สื่อให้กับ “เนเจอร์กิฟ” มาตั้งแต่ปี 2550 เปิดเผยถึงการวางแผนการใช้สื่อ ที่จะมุ่งเน้นเรื่องของการเลือกใช้เครื่องมือในการสื่อสารอย่างเหมาะสม มากกว่าการพยายามทำทุกอย่างพร้อมๆ กัน
“โจทย์แรกคือทำอย่างไรให้รับรู้ในวงกว้าง TVC จึงต้องเป็นหลัก ก่อนจะตามมาด้วยการสื่อสารในช่องทาง Traditional แบบครบทั้งหมด วิทยุ สื่อนอกบ้าน ในปีนี้ เริ่มใช้ New Media ในช่องทางออนไลน์ด้วย เนื่องจากเนเจอร์กิฟต้องการสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และด้วยการแข่งขันที่กว้างขึ้น ซึ่งแต่ละปีแตกต่างกัน อย่างปีนี้และต่อไป จำเป็นต้อง Positioning ตัวเองให้ชัดเจนมากขึ้น” มาลี กิตติพงศ์ไพศาล Parter, Client Leadership บอก
ในปีแรกโจทย์ของเนเจอร์กิฟ มีเพียงข้อเดียวคือทำอย่างไรให้เป็นที่รู้จัก ปี 51 เป้าหมายของเนเจอร์กิฟเริ่มสูงขึ้นเมื่อหวังให้เป็น “Top of Mind Awareness” การเลือกใช้สื่อจึงสะท้อนความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ใช้สื่อบ่อยขึ้นและต้องมีแนวคิดในแง่บวก
ล่าสุด ปี 52 นับว่าเป็นปีที่ท้าทายมากขึ้น เนื่องจากมีคู่แข่งเข้ามาในตลาดอย่างคับคั่ง โดยมีเป้าหมายการสร้างแบรนด์ ให้มีความเชื่อมั่นในแบรนด์มากขึ้น และส่งผลในระยะยาว และสร้างให้ตลาดเติบโต ซึ่งมีเดียเอเยนซี่รายนี้เชื่อมั่นว่าสไตล์การสร้างความแตกต่างของเนเจอร์กิฟยังคงเป็นอาวุธเด็ดที่ใช้ได้อยู่เสมอ
Key success ที่ mind share ประเมินเนเจอร์กิฟ
1. มีเป้าหมายสื่อสารไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน
2. ผู้บริหารกล้าในการตัดสินใจ และมีความท้าทายในการทำตลาด
ข้อเสนอแนะจาก Mind Share
ตลาดมีการแข่งขันรุนแรงขึ้น จึงต้องจัดสรรกลุ่มเป้าหมายใหม่หรือแตกเซ็กเมนต์ใหม่รองรับให้มากขึ้น หากไม่ปรับตัว เป็นไปได้มากที่ความสำเร็จในปัจจุบันจะมีแนวโน้มต่ำลง พยายามเกาะกระแสแนวโน้มใหม่ๆ ของโปรดักต์อยู่เสมอ เมื่อผู้บริโภคเกิด Awareness ในโปรดักต์แล้ว ก้าวต่อไปจึงค่อย Engage (เข้าถึง) ผู้บริโภคในเชิงลึกให้ได้จุดยากของกาแฟลดน้ำหนักอยู่ที่คนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมทดลองบริโภคค่อนข้างยาก หากมีทัศนคติที่ไม่เชื่อมั่นในตัวโปรดักต์ บ่อยครั้งที่ผู้บริโภครับรู้ว่าหากแพงแล้วจึงจะดี นี่จึงถือเป็นการบ้านที่สำคัญของเนเจอร์กิฟ