ถอดรหัส #ผู้ช่วยเบอร์หนึ่งนึกถึง LINE MAN ส่วนผสมที่ลงตัวของอินไซต์ กับการใช้ Big Data


จากการที่ Digital เข้ามา Disruption การใช้ชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน นอกจากจะส่งผลในเรื่องของการใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลมากขึ้นแล้ว ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตมากขึ้นอีกด้วย โดยที่มีบริการเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคงจะเป็นบริการ LINE MAN ที่วันนี้เดินทางเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ต้องบอกว่าความสำเร็จของ LINE MAN สามารถวัดได้จากการที่ผู้บริโภคใช้เรียกเป็นคำทับศัพท์ในการใช้บริการสั่งอาหาร หรือแมสเซ็นเจอร์ไปแล้ว

LINE MAN เริ่มต้นจากบริการ Messenger ก่อน รับส่งของไปให้กับอีกฝ่าย เพื่อความสะดวกสบาย และได้ขยายบริการอื่นๆ ตามความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่บริการ Food Delivery เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

จุดเด่นสำคัญของ LINE MAN ก็คือ เป็นบริการที่นำเอา Insights ของผู้บริโภค รวมถึง Pain Point หรือปัญหาของผู้บริโภคมาวิเคราะห์ แล้วออกเป็นบริการที่ช่วยแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้อย่างตรงจุด เป็นการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างดี ซึ่งเมื่อมาดูแล้ว คนกรุงฯ ในยุคนี้ประสบปัญหามากมาย

ตั้งแต่เรื่องการเดินทางแท็กซี่ มักจะเจอแท็กซี่ปฏิเสธไม่ไปบ้าง ไม่กดมิเตอร์บ้าง มีแบงค์ใหญ่แล้วแท็กซี่ไม่ทอน ไม่อยากไปยืนรอรถ หรือเรื่องอาหารการกินที่บางคนไม่อยากออกจากบ้าน ไม่อยากหาที่จอดรถ ไม่อยากรอคิวร้านอาหารที่ห้างฯ หรือร้านสตรีทฟู้ดดังๆ ไปจนถึงแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่มีเวลาจัดส่งสินค้า

เสียงของผู้บริโภคต่างๆ เหล่านี้ ได้กระเทาะออกมาเป็นบริการของ LINE MAN ทั้งสิ้น ทำให้ตอนนี้ LINE MAN มีบริการที่เรียกว่าครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของคนกรุง ขึ้นแท่นเป็นผู้ช่วยคนพิเศษของคนกรุงไปแล้ว

LINE MAN เป็นเหมือนฮีโร่อาสามาแก้ปัญหาคนไทยด้วย 5 บริการที่เข้าใจคนกรุงเทพจริงๆ ได้แก่ สั่งอาหาร, แท็กซี่, ซื้อของสะดวกซื้อ, แมสเซนเจอร์ และส่งพัสดุทั่วไทย

ความพิเศษของ LINE MAN ที่แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่นๆ

– ในระบบมีร้านอาหารกว่า 47,000 ร้าน และมีแผนเพิ่มให้มากขึ้น

– บริการ Food & Taxi สั่งอาหารโดยใช้ Rabbit LINE PAY ช่วยให้การสั่งซื้ออาหารง่ายขึ้น

– เป็นรถแท็กซี่ถูกกฎหมาย 100% คนขับรถไม่ต้องไปแข่งแย่งลูกค้ากับป้ายขาว

– มีคนขับ LINE MAN กว่า 35,000 คนในกรุงเทพฯ

– รวมถึงมีโปรโมชั่นมาเอาใจคนกรุงเทพฯ มากมายทุกเดือน เป็นข้อสำคัญที่คนกรุงฯ ปลื้มเป็นอย่างมาก

เอา Big Data มาขยายผลเป็นโฆษณา

เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 3 ปี LINE MAN และเป็นการตอกย้ำภาพผู้ช่วยเบอร์หนึ่งของคนกรุง ในปีนี้ LINE MAN ได้ออกแคมเปญใหญ่ “ทุก(ข์) พื้นที่ #ผู้ช่วยเบอร์หนึ่งนึกถึงLINEMAN” เพื่อสื่อสารถึงบริการ และความเข้าใจคนกรุงอย่างแท้จริง โดยได้ทำคลิปวิดีโอบนโลกออนไลน์ได้ “จั๊ด ธีมะ กาญจนไพริน” เป็นผู้ดำเนินรายการ สื่อถึงปัญหาที่คนกรุงพบในแต่ละวันทั้งเรื่องการเดินทาง ร้านอาหาร แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถตอบโจทย์ได้ด้วย LINE MAN เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระได้อย่างมาก

ความน่าสนใจของแคมเปญนี้อยู่ที่ LINE MAN ได้มีการนำ Big Data ที่มีมากมายมหาศาลมาทำการวิเคราะห์ แล้วมาสื่อสารกับคนในทุก Location ได้อย่างชัดเจนและครอบคลุมทุกพื้นที่ ทำให้เราสามารถเข้าใจความต้องการ ความรู้สึกและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราได้เป็นอย่างดี

นอกจากจะมีแคมเปญบนโลกออนไลน์แล้ว ยังมีทำสื่อโฆษณานอกบ้านด้วยการดีไซน์ป้ายโฆษณา BillBoard โดยในแต่ละพื้นที่จะมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะสมและเข้าถึงอินไซต์ของคนในพื้นที่นั้นๆ เช่น อโศก สุขุมวิท อนุสาวรีย์ สยาม และพระราม 4

เหตุผลที่เน้นที่ 5 ย่านนี้ก็เพราะว่าเป็นย่านที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด และป้ายโฆษณาในแต่ละพื้นที่ก็จะมีการสื่อสารที่แตกต่างกันไป เช่น ย่านอโศก เพลินจิต จะมีกลุ่มคนทำงานใช้งานเยอะ เน้นการส่งแมสเซ็นเจอร์เป็นส่วนใหญ่ หรือย่านสยามเป็นย่านที่วัยรุ่นใช้งานบริการเรียกรถเยอะ และย่านอ่อนนุชที่ส่วนใหญ่ใช้สั่งซื้ออาหาร ก็จะมีโฆษณาที่เจาะกลุ่ม และมีข้อความสื่อสารแตกต่างกันไป

นั่นหมายความว่า LINE MAN ได้มีการวางแผนมาอย่างดี มีการนำเอาอินไซต์ของผู้บริโภค มาผสมกับ Big Data ที่ได้รับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของทั้งคอนเทนต์ออนไลน์ และออฟไลน์ด้วย

หลายคนอาจจะมองว่าการใช้ชีวิตในกรุงเทพตอนนี้ยากขึ้นเหลือเกิน แต่เชื่อว่าถ้าได้ LINE MAN เป็นผู้ช่วยแล้วล่ะก็ ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไปหลายระดับเลยทีเดียว