Coca-Cola จัดชาเขียวขวดรีไซเคิล กางแผนใช้ 100% ทั่วญี่ปุ่น

หลังจากปล่อยให้แบรนด์อื่นออกหน้าไปก่อนเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อม ในที่สุด Coca-Cola ก็วางแผนที่จะใช้ขวดรีไซเคิล 100% ในญี่ปุ่น เบื้องต้นจัดทัพเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ที่จะถูกบรรจุในลงในขวดที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล หวังสร้างประโยชน์ทั้งแง่การผลิตและการสร้างแบรนด์คู่กับพันธมิตร

การประกาศคร้้งนี้ทำในนาม Coca-Cola ประเทศญี่ปุ่น เนื้อหาที่ประกาศส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับแผนเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ซึ่งจะบรรจุในขวดที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล สำหรับโครงการนี้ Coca-Cola ประเทศญี่ปุ่นจะร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรรายอื่นเพื่อร่วมกันปั้นให้โครงการนี้มีความยั่งยืนในระยะยาว

By Mayukh Saha / Truth Theory

ความเคลื่อนไหวของ Coca-Cola ประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นในวันที่ยักษ์ใหญ่ทั่วโลกหลายค่ายพยายามเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อม (หรืออย่างน้อยก็ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมมากนัก) ซึ่งแม้ว่าความร่วมมือเหล่านี้จะเกิดขึ้นค่อนข้างช้า แต่ก็เป็นก้าวที่น่ายินดีสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

ชาเขียว Hajime ลุยกับ Seven & I

สำหรับการวางแผนใช้ขวดเทคโนโลยีใหม่เพื่อเปิดตัวแบรนด์ Hajime Ryokucha รายงานระบุว่า Coca-Cola จะเป็นผู้ลงทุนตั้งทีมงานกับบริษัทค้าปลีก Seven & I Holdings Co. ซึ่งจะมีการทำแคมเปญร่วมกันอย่างใกล้ชิด

รานงานย้ำว่า Coca-Cola จะวางจำหน่ายชาเขียวแบรนด์ Hajime Ryokucha ซึ่งใช้ขวดพลาสติกจากการรีไซเคิลทั้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ ผ่านร้านค้าที่ดำเนินการโดย Seven & I. ทั้งหมด ขณะเดียวกันก็จะติดตั้งถังรวบรวมขวดสำหรับรีไซเคิลเพิ่มประมาณ 1,000 ถัง สำหรับการรีไซเคิลแบบต่อเนื่องได้ทุกปี

อาจขยายไปสินค้าอื่น

ที่ผ่านมา Coca-Cola กำลังพิจารณาใช้ประโยชน์จากพลาสติกรีไซเคิลแบบ 100% สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นในพอร์ตโฟลิโอ โดย CEO ของ Coke ประจำญี่ปุ่นอย่าง Jorge Garduno ระบุว่าบริษัทยังต้องการเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางซึ่งมีวิสัยทัศน์เดียวกัน 

ชาเขียว Hajime Ryokucha ไม่ได้เป็นส่วนชัดเจนเพียงส่วนเดียวที่ Coca-Cola จะเน้นต่อยอดในพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม เพราะรายงานระบุว่ารัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายที่จะลดปริมาณพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้งให้เหลือน้อยที่สุดประมาณ 25% ภายในปี 2030 ซึ่งผลสุดท้ายแล้ว Coca-Cola จะทำได้ตามกำหนดเป้าหมายในการนำกลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลของเสียจากอุตสาหกรรมอาหารได้ทั้งหมดภายในปี 2035.

ที่มา :