หากยังจำกันได้ หนึ่งในสินค้าที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดในงาน THAIFEX 2018 คือ ไอศกรีมที่มีซอสราดเป็น “ซีอิ้วดำตราเด็กสมบูรณ์” แทนที่จะเป็นซอสช็อกโกแลต หรือคาราเมล แต่กระนั้นการเอาของคาวมาร่วมกับของหวานก็เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ
มองลึกเข้าไปนี่ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างกระแสทั่วๆ ไปเท่านั้น การที่ “บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด” เจ้าของแบรนด์ “เด็กสมบูรณ์” ที่มีอายุกว่า 72 ปี ลุกขึ้นมาทำสินค้าที่แตกต่างจากธุรกิจหลักย่อมต้องมีเป้าหมาย ซึ่งสิ่งที่ว่าคือการ “ปรับแบรนด์ให้ดูเด็กลง”
ถึงจะเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 31% ที่ผ่านมาธุรกิจก็เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ แต่เด็กสมบูรณ์เองก็รู้ดีว่า ตัวเองนั้นมีภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดูเก่า และกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
หากมองในแง่การเติบโตของธุรกิจแล้ว แบรนด์เด็กสมบูรณ์อาจจะเติบโตไม่ได้มากไปกว่านี้ จึงต้องปรับลุคให้ดูเด็กลงเพื่อขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มเด็กและคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์และเติบโตอย่างยั่งยืน
“ธุรกิจจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน ต้องให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตามเทรนด์ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด” นี่เป็นแนวคิด “สมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์” ทายาทรุ่นที่ 2 บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด ซึ่งปัจจุบันรั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่
สเต็ปแรกที่ทำจึงออกมาเป็น “เมนูของหวาน” ซึ่งเป็นคำตอบที่ลงตัวตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เพราะสามารถรับประทานได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้ใหญ่ โดยผลิตภัณฑ์แรกที่นึกถึงคือ “ซีอิ๊วดำสูตร 1” ที่มีส่วนผสมใกล้เคียงกับของหวานมากที่สุด สามารถพัฒนาเป็น “ไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟ” (Soft Serve) ได้อย่างลงตัว โดยเปิดตัวไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
พร้อมกับมีซอส 4 รสชาติ คือ ไซรัปรสบ๊วย ท็อปปิ้งรสพริกศรีราชา ท็อปปิ้งรสซีอิ๊วดำ ไซรัปรสคาราเมลซีอิ๊วขาว สำหรับเป็นท็อปปิ้งในเมนูของหวานนำไปราดบนไอศกรีมหรือทำเบเกอรี่ได้ ส่วนงาน THAIFEX 2019 ก็มีการเปิดตัว “ไอศกรีมเต้าเจี้ยว” สร้างเสียงฮือฮาอีกครั้ง
เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัยและลดอายุลง ทาง ‘หยั่น หว่อ หยุ่น’ จึงเปิดตัว “น้องเด็กสมบูรณ์” (Healthy Boy) มาในธีมน่ารักสดใสสมวัย โลโก้แบรนด์ถูกจัดวางบนลงถ้วยไอศกรีม
ขณะนี้ไอศกรีมจากเครื่องปรุงรสได้วางขายแล้วที่ร้านหยั่น หว่อ หยุ่น สาขาเยาวราชและสำนักงานใหญ่ ซ.วัดไผ่เงิน ย่านสาทร สนนราคาอยู่ที่ถ้วยละ 30 บาท (ประมาณ 60 กรัม) และต่อไปจะหาชิมได้ง่ายขึ้นตามร้านอาหาร ส่วนในต่างประเทศล่าสุดได้ส่งผงไอศกรีมซีอิ๊วดำสูตร 1 ไปยังแดนมังกร เพื่อนำไปทำเป็นไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟกันแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารหยั่น หว่อ หยุ่นออกตัวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ไลน์ธุรกิจหมวดของหวาน ไม่ได้หวังในเรื่องยอดขายมาเป็นอันดับหนึ่ง เพียงต้องการจุดประกายให้ผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการได้ออกจากกรอบและเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องเครื่องปรุงรส ที่ไม่ถูกจำกัดอยู่เฉพาะแค่เมนูอาหารคาว แต่ของหวานก็นำมาปรับใช้ได้อย่างลงตัวแถมยังสร้างความแปลกใหม่และเพิ่มมูลค่าได้
เมื่อสร้างแบรนด์ได้เป็นที่รู้จักแล้วโปรดักต์ไลน์ภายใต้แบรนด์ “เด็กสมบูรณ์” ก็ต้องเติบโตต่อไป โดยได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในหลายหมวดสินค้า โดยมีเรือธงเน้นไปเรื่องสุขภาพตามเทรนด์โลก ใส่ใจผู้บริโภคเป็นสำคัญ ได้แก่ สินค้าเครื่องปรุงรสในกลุ่มสุขภาพ เป็นซอส ซีอิ๊วขาว
ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม ซอสเหยาะจิ้ม และซอสหมัก ไม่มีสารกันเสีย โซเดียมต่ำ ไม่ใส่สี ไร้กลูเตน และปลอดผงชูรส ขณะที่สินค้าเครื่องปรุงรสในกลุ่มออร์แกนิก เลือกใช้ถั่วเหลืองออร์แกนิก 100% มีใบรับรองมาตรฐานสากล
ปัจจุบันนอกจากการทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ยังส่งออกไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก มีการปรับรสชาติบ้างเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคของประเทศนั้นๆ ทำให้ยอดขายเติบโตทุกปีประมาณ 20%
รายได้และกำไร บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด
- ปี 2558 รายได้ 2,129 ล้านบาท กำไร 135 ล้านบาท
- ปี 2559 รายได้ 2,083 ล้านบาท กำไร 115 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 2,033 ล้านบาท กำไร 86 ล้านบาท
รายได้และกำไร บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด
- ปี 2558 รายได้ 2,928 ล้านบาท กำไร 281 ล้านบาท
- ปี 2559 รายได้ 2,958 ล้านบาท กำไร 297 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 2,979 ล้านบาท กำไร 310 ล้านบาท
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
ภาพรวมมีสินค้าอยู่ใน 6 หมวด ได้แก่ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอสปรุงรส เต้าเจี้ยว ซอสหอยนางรม และอื่นๆ อาทิ น้ำจิ้มต่างๆ น้ำปลา น้ำส้มสายชู ซึ่งถือเป็นเครื่องปรุงรสครบวงจรคู่ครัว ขาดก็แต่เพียงน้ำตาลกับเกลือเท่านั้น ที่ยังไม่มีแบรนด์เด็กสมบูรณ์บนฉลากเครื่องหมายการค้า ส่งผลให้สินค้าจำหน่ายในประเทศประมาณ 400 SKU และต่างประเทศประมาณ 1,000 SKU
ก้าวต่อไปของ “หยั่น หว่อ หยุ่น” จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ ทางผู้บริหาร เผยว่า ได้วางกลยุทธ์ไว้อย่างชัดเจนตามห้วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งทุกปีจะมีการออกนวัตกรรมใหม่ๆ ที่หลุดจากกรอบเดิมๆ เพื่อเรียกเสียงฮือฮาจากผู้บริโภคต่อไป