ไอศกรีม “ซีอิ๊วดำซันเดย์” กลยุทธ์ปั้นสินค้าข้ามสายพันธุ์ “หยั่นหว่อหยุ่น”

ภาพจาก : facebook.com/BigTeShop/

ไอติมจิ้มพริกเกลือ ราดน้ำปลาหวาน หรือแม้แต่ผสมพริก ก็มีให้ชิมหมดแล้ว บางคนติดใจถึงขนาดต้องแวะหาเป็นเมนูประจำทุกครั้งที่ไปเที่ยวตามจุดที่มีขาย แล้วถ้าไอติมราดซีอิ๊ว แล้วเป็นซีอิ๊วดำหวาน ที่ไม่ใช่แค่เอามาเหยาะ ๆ แบบในไข่ดาว แต่ราดกันเยิ้ม ๆ เป็นซันเดย์เลย แบบนี้พอจะเรียกต่อมอยากลองกันบ้างไหม

ของหวาน เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของของคาวก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมี แต่สูตรนี้ใครนะช่างคิด นี่มันไอติมนะ ไม่ใช่ข้าวมันไก่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดกระแส แชร์กระหน่ำ เรื่องเอาซีอิ๊วดำหวานมาราดบนไอศกรีม เป็น Soy Sauce Sunday ที่รีวิวส่วนใหญ่บอกว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะให้รสชาติเหมือนราดคาราเมล แต่ที่ไม่เหมือนกันสุดขั้วก็คือกลิ่นและรสชาติเค็มที่ติดมาด้วย เพราะอย่าลืมว่าต่อให้ซีอิ๊วดำหวานจะออกรสหวานนำแต่ก็มีส่วนของความเค็ม เพราะเกิดมาเป็นซีอิ๊วอยู่นั่นเอง

แถมราด ๆ มาก ๆ ก็ต้องระวังเรื่องปริมาณการบริโภคโซเดียมที่จะเกินปริมาณที่ควรรับประทานต่อวันด้วย ส่วนที่ให้รสชาติเหมือนคาราเมลก็เพราะมีส่วนของทั้งน้ำตาลและแป้งสาลีที่ถูกเคี่ยวรวมในน้ำซีอิ๊วมาแล้วอย่างดี

แน่นอน มีบางรีวิวก็บอกกันตรง ๆ เหมือนกันว่า “แ–กไม่ได้” เพราะความไม่คุ้นเคยและรู้สึกประหลาดเกินไป

หยั่นหว่อหยุ่น ฉีกข้อจำกัด “ไม่ได้ขายแค่ซีอิ๊ว”

ต้นกำเนิดที่แท้จริงของซีอิ๊วราดไอติม เริ่มมาจากใคร ไม่ระบุชัดเจน แต่ถึงขนาด “หยั่นหว่อหยุ่น” หรือผู้ผลิตซีอิ๊วตราเด็กสมบูรณ์ ถึงกับทำป้ายห้อยคอขวดแนะนำการบริโภคออกมา ก็แสดงว่าจะต้องมีกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมอยู่มากพอสมควรทีเดียว หรือไม่ก็บริษัทก็พยายามจะแตกสินค้า สร้างความแปลกใหม่ เพิ่มการบริโภคในตลาด

ในฐานะผู้ผลิตสินค้านี่คือโอกาสที่จะเพิ่มยอดขายแม้เพียงน้อยนิดก็ยังดี เพราะโดยหลักแล้วซีอิ๊วดำ จะเป็นที่เรียกหาเวลาปรุงอาหารคาว เช่น ผัดซีอิ๊ว ใส่กินกับข้าวมันไก่ หรือไม่ก็เป็นส่วนผสมหลักในการทำพะโล้เป็นหลัก หรือไม่ก็ใช้จิ้มเป็ดปักกิ่ง

ไม่ใช่แค่ ราดบน “ไอศกรีม” ที่ก็ว่าแปลกแล้วเท่านั้น แต่ ซีอิ๊ว หยั่นหว่อหยุ่น ผู้ผลิตซีอิ๊วและผลิตภัณฑ์ตราเด็กสมบูรณ์ ที่พยายาม “ก้าวข้ามสายพันธุ์” จากการขายเครื่องปรุงรสและซีอิ๊ว ด้วยการเปิดตัวให้บริการ “ไอศกรีมซอฟท์เซิร์ฟรสซีอิ๊ว” ด้วย โดยให้ชื่อว่า “โรแมนติกไนท์ ไอศกรีม” ที่เลือกเอาสีของซีอิ๊วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมมาเป็นจุดขายสร้างความว้าว ให้บริการอยู่ที่ ร้านเด็กสมบูรณ์ช้อป สำนักงานใหญ่ ถนนจันทร์ซอย 43 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์หยั่นหว่อหยุ่น ในฐานะแหล่งผลิตซีอิ๊วจากอุตสาหกรรมครัวเรือนก่อนเติบโตมาเป็นอุตสาหกรรมใหญ่โต

จนมีเพจที่ชื่อ Marfood นำมารีวิว ซึ่งก็ได้รับความสนใจมีคนคอมเมนต์กันจำนวนมาก สร้างให้เกิดกระแสการแชร์ต่อ #พีคกว่าการเอาซีอิ๊วดำราดบนไอติมคือไอติมรสซีอิ๊วดำเนี่ยแหละ555  #ไอติมซีอิ๊วดำ #ฟังไม่ผิดค่ะทุกคน #มันคือไอติมที่ผลิตโดยหยั่นหว่อหยุ่นตราเด็กสมบูรณ์  #รสชาติเป็นไงไปดูกันเล้ยยย ???

การเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งหยั่นหว่อหยุ่นอาจจะมีรายได้จากการขายไอศกรีมที่กระจายไปตามจุดต่าง ๆ หากรสชาติของโรแมนติกไนท์ไอศกรีมเป็นที่ถูกใจ และมีปริมาณการบริโภคมากกว่าที่จะเป็นแค่กิมมิก เพราะต้องไม่ลืมว่าสมัยนี้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทำให้ธุรกิจทรานสฟอร์มไปเป็นอะไรก็ได้ ไม่ได้จำเป็นต้องจำกัดตัวเองอยู่แค่ในธุรกิจเดิมเท่านั้น

ก่อนหน้าที่หยั่นหว่อหยุ่นจะเริ่มโปรโมตไอติมซีอิ๊ว ก็มีเมนูที่ถือว่าแปลกอยู่บ้าง สำหรับการนำซอสปรุงรสหรือซีอิ๊วมารับประทานกับสิ่งที่ไม่ใช่อาหารคาว ก็คือการนำซอสภูเขาทองฝาเขียว มาผสมกับสไบรท์ ให้รสชาติเหมือนวิสกี้ แต่ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายในไทย เพราะสุดท้ายก็ไม่เกิดภาพขวดซอสบนโต๊ะชงเครื่องดื่ม แต่เมนูนี้ยังมีเลี้ยงรับรองที่บริษัท ไทยเทพรสผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงอาหารภายใต้เครื่องหมายการค้าชื่อภูเขาทองนั่นเอง

แต่ถ้าเป็นเรื่องไอติมเพียว ๆ นอกจากไอติมพริกเกลือ ที่ยังมีขายต่อเนื่อง การผสมข้ามระหว่างอาหารคาวและหวานก็ยังมีเค้กปลาช่อน ของจังหวัดสิงห์บุรี ที่มีชื่อเสียงเรื่องปลาช่อนแดดเดียวที่รู้จักในชื่อปลาช่อนแม่ลา ก็มีการผลิตไอติมปลาช่อนออกจำหน่ายเป็นเรื่องเป็นราวเช่นกัน รวมถึงไอติมเห็ดของเด็กมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ผลิตขายกันในงานเกษตรแฟร์

แต่ถ้าโฟกัสเฉพาะเรื่องไอติมอย่างเดียวชาติที่มีรสชาติแปลกประหลาดมากที่สุดต้องยกให้ญี่ปุ่นที่ช่างคิดช่างทดลองและผลิตของแปลก ๆ ออกมาให้ลองตลอดเวลา เฉพาะไอติมที่เป็นรสชาติที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารคาวก็มีมากเสียจนเลือกกินกันไม่ถูกเลยทีเดียว

ตัวอย่างรสชาติประหลาดที่มีผลิตออกขายแล้ว ก็มีตั้งแต่ ไอติมซีอิ๊วที่ใช้เรียกแบบญี่ปุ่นว่า โซยุ หรือ Soy Sauce ไอติมมิโสะ ไอติมรสน้ำหมึกปลาหมึก ไอติมวาซาบิ ไอติมมะระ ไอติมฟองเต้าหูรสตะบองเพชร รสเนื้อม้าดิบ รสปู รสปีกไก่ รสปลาไหลย่าง รสลิ้นวัว รสแพะ รสแมงกะพรุนรสปลาวาฬ รสหูฉลาม รสก๋วยเตี๋ยว จากที่ต่าง ๆ ผักโขม กระเทียม เบียร์มีแม้กระทั่งรสผ้าไหม ไข่มุก รสถ่าน ไปจนถึงรสไส้รสพุงปลาหมึก ฯลฯ

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ มีให้เลือกทั้งแบบซอฟท์เซิร์ฟ และแบบไอศกรีมแช่แข็งทั่วไป ใครชอบรสชาติแปลกใหม่แบบนี้ แนะนำให้ไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อน เพราะส่วนมากรสชาติใหม่จะออกมาให้ลองกันในช่วงฤดูนี้ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลองซีอิ๊วดำซันเดย์แบบไทย ๆ ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมชิมให้รู้รสชาติด้วยตัวเอง.