เชื่อว่าคนไทยหลายคนต้องคุ้นเคย หรือเติบโตมากับแบรนด์ Nokia โทรศัพท์มือถือที่เคยเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ในประเทศไทย เมื่อตลาดโทรศัพท์มือถือมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ถูกเข้ามาแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟน ทำให้แบรนด์มือถือ Nokia ต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปตามกลไกตลาดและปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้้
จนถึงในตอนนี้แบรนด์มือถือ Nokia ได้กลับมาพร้อมกับบ้านหลังใหม่ HMD Global Oy เป็นสตาร์ทอัพสัญชาติฟินแลนด์ที่ได้ไลเซนต์ใช้แบรนด์ Nokia ดูแลเรื่องการผลิต และจัดจำหน่ายมือถือแบรนด์ Nokia ทัั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมแอนดรอยเวอร์ชั่นล่าสุด จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 3 ปีแล้ว เรียกว่ามือถือแบรนด์ Nokia เริ่มร่ายมนต์สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้ระดับหนึ่ง
ธนเดช ช่วงแก้ววิเศษ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล ได้เริ่มฉายภาพแบรนด์มือถือ Nokia ในปัจจุบันว่า “HMD Global Oy ก่อตั้งปี 2016 ช่วงเดือนธันวาคม ตอนนี้เกือบ 3 ปี มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในการเปิดตัวมือถือ มีการเปิดตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยที่แบรนด์มือถือ Nokia มีการเปิดตัวสินค้าใหม่เฉลี่ยปีละ 12 รุ่น จุดเด่นคือมีไลน์อัพสินค้ากว้างตั้งแต่ระดับล่าง กลาง และบน ส่วนใหญ่เน้นตลาดยุโรป เพราะจุดเริ่มต้นของแบรนด์เป็นแบรนด์ยุโรปที่ีมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 150 ปี อีกทั้งตอนนี้ยังถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนจากยุโรปรายเดียวอีกด้วย”
ส่วนในเอเชียแปซิฟิค หรือ APAC ได้มีการโฟกัสที่ 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย, เวียดนาม และไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญมากของ Nokia ตั้งแต่อดีตที่มีฟีเจอร์โฟนมาจนถึงสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นภาพชัดที่สุดคือการเปิดตัวสินค้าพร้อมกับระดับโกลบอล อย่างรุ่น 3310 ที่นำมารีเฟรชแบรนด์ใหม่ให้เป็นเครื่อง 3G หรือบางรุ่นก็เปิดตัวหลังจากโกลบอลเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น
การกลับมาครั้งนี้ แบรนด์มือถือ Nokia ชูดจุดเด่นด้วยความเป็น “สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์” ใช้ระบบปฏิบัติการ Pure Android หรือที่รู้จักในชื่อ Android One ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ที่ดีที่สุดและเป็นตัวเดียวกันกับ Google Pixel สมาร์ทโฟนเรือธงของ Google แต่สมาร์ทโฟน Nokia ใช้ระบบปฏิบัติการ Pure Android กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นรุ่นเรือธงเท่านั้น
รับประกันความปลอดภัย พร้อมอัปเกรดซอฟท์แวร์นาน 3 ปี!
ด้วยความที่แบรนด์มือถือ Nokia ได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง Google ภายใต้โครงการ Android One ซึ่ง Google ได้รับรองฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ของสมาร์ทโฟน Nokia ว่าสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ได้ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Nokia บนระบบปฏิบัติการเพียวแอนดรอยด์ที่ทันสมัยอยู่เสมอ
จุดเด่นที่ทำให้แบรนด์มือถือ Nokia แตกต่างจากคู่แข่งแบรนด์อื่นในตลาดก็คือ สมาร์ทโฟนทุกรุ่นจะรองรับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการถึง 2 ปี รวมถึงการอัปเดตระบบความปลอดภัยรายเดือนได้ยาวนานถึง 3 ปี หรืออัปเกรดทุก 30 วัน โดยในประเทศไทยสมาร์ทโฟนโนเกียรุ่นที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2017 ถึงปัจจุบันมีจำนวน 16 รุ่นที่รองรับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie แล้ว อาทิ Nokia 8.1, Nokia 8, Nokia 7 Plus, Nokia 6.1, Nokia 6.1 Plus, Nokia 6 และ Nokia 5, Nokia 5.1 Plus และ Nokia 3.1, Nokia 3, Nokia 2.1, Nokia 1 และรุ่นใหม่อย่าง Nokia 3.2, Nokia 4.2, Nokia 2.2, Nokia 9 PureView ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android Pie
“พูดเลยว่า เราการันตีคุณภาพ รับประกันเรื่องความปลอดภัย และอัปเกรดระบบปฏิบัติการ 2 เวอร์ชั่น เช่น Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 ที่เปิดตัวเมื่อกลางปี 2017 ปัจจุบัน 3 รุ่นนี้ได้อัปเกรดเป็น Android 9 Pie แล้วเรียบร้อย ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นจะไม่มีการอัปเกรดซอฟต์แวร์ ลูกค้าไม่ต้องกลัวไวรัส ถึงแม้ซื้อมานานก็ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะเก่า และที่สำคัญอัปเกรดแล้วทำให้การทำงานดีขึ้น อาทิ แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น”
ย้ำภาพสมาร์ทโฟน “ยิ่งใช้ยิ่งดีขึ้นทุกวัน” ที่แบรนด์อื่นให้ไม่ได้
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจะซื้อสินค้าใดๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่สมาร์ทโฟน เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ นานวันก็มีแต่ตกรุ่น หรือบางทีตัวสมาร์ทโฟนเองก็มีปัญหา เครื่องช้า เครื่องรวนด้วยก็ได้
แต่สิ่งที่ Nokia สมาร์ทโฟน ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคก็คือ เมื่อซื้อ Nokia สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมแอนดรอยด์ทุกรุ่น ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะเก่า หรือคุณภาพจะลดลงตามกาลเวลา ตรงกันข้าม การที่ Nokia สมาร์ทโฟนได้รับรองการอัปเกรดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2 เวอร์ชั่น ทำให้เครื่องมีการพัฒนาอยู่ตลอด โดยที่มีการสื่อสารผ่านคอนเซ็ปต์ “ยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวัน”
“ปีนี้ Nokia สมาร์ทโฟน เน้นหนักที่การสร้างแบรนด์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า “ยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวัน” เกิดจากการที่ว่ามีงานวิจัยระดับโกลบอลบอกว่า คนเราจะเริ่มครอบครองโทรศัพท์มือถือนานขึ้น แต่ประสบการณ์การใช้งานจากวันแรกที่ใช้จะค่อยๆ น้อยลงเรื่อยๆ อาจจะด้วยใช้แล้วแฮงค์ ซอฟต์แวร์ไม่อัปเดต ด้วยความที่ Nokia สมาร์ทโฟน การันตีเรื่องการอัปเกรดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อย่างน้อยถึง 2 เวอร์ชั่น และอัปเดตระบบความปลอดภัยรุ่นล่าสุดทุกๆ เดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่ให้ลูกค้าที่มี Nokia สมาร์ทโฟนแค่เครื่องเดียว สามารถใช้งานได้นานอย่างน้อย 3 ปี เพิ่มมูลค่าการใช้งานได้ทุกวัน ใช้ดีขึ้นทุกวัน”
ในส่วนนี้เอง เป็นจุดที่ Nokia สมาร์ทโฟนต้องการทำการตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่ง เพราะในตลาดสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะพูดถึงสเปกและราคาเป็นหลัก แต่โนเกียสมาร์ทโฟนขอฉีกกรอบด้วยการพูดถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับในระยะยาว ได้สมาร์ทโฟนที่สเปกดี ควบคู่กับคุณภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
แบรนด์มือถือ Nokia ยังเป็นแบรนด์ในดวงใจ ที่คนไทยยังหลงรัก
จากแบรนด์มือถืออันดับ 1 ในเมืองไทย ที่มีประวัติศาสตร์แบรนด์อย่างยาวนาน จนถึงตอนนี้เชื่อว่าแบรนด์ Nokia สมาร์ทโฟนก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนอยู่ จากการที่แบรนด์ได้ทำการวิจัยกับผู้บริโภคนั้นพบว่า ผู้บริโภคยังคงชื่นชอบมือถือแบรนด์ Nokia อยู่ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาเพื่อที่จะกลับไปอยู่จุดเดิมให้ได้!
ธนเดชกล่าวว่า แบรนด์มือถือ Nokia มีการทำแบรนด์ Health Check อยู่ตลอดเวลาก่อนที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน จากการทำวิจัยพบว่า มากกว่า 90% คนยังชอบแบรนด์มือถือ Nokia อยู่ และยังเป็น Top of Mind แต่ในแง่ของแบรนด์ แม้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากฟีเจอร์โฟนไปเป็นวินโดว์โฟน และพัฒนามาเป็น
แอนดรอยด์เป็นการทรานส์ฟอร์มของแต่ละระบบปฏิบัติการ ในส่วนของทีมงานได้มีการปรับตัวกับยุคสมัยมากขึ้น
“แบรนด์มือถือ Nokia ยังมีแฟนพันธุ์แท้ที่มีลอยัลตี้อยู่ ทุกคนรู้จักมือถือ Nokia อยู่แล้ว และเคยใช้มือถือ Nokia มาก่อน แต่อาจมีการเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการให้เขาเปลี่ยนมาใช้ Nokia สมาร์ทโฟน
แอนดรอยด์ที่มีจุดเด่นเรื่องการอัปเกรดทั้งระบบปฏิบัติการและความปลอดภัยรายเดือน จะเป็นปากต่อปากบอกเพื่อนให้เปิดใจอีกรอบหนึ่ง”
ขนไลน์อัพสินค้า 5 ซีรีส์ เปิดตัวเดือนกรกฎาคม
สำหรับในเรื่องไลน์อัพสินค้า เมื่อต้นปีแบรนด์มือถือ Nokia ได้เปิดตัวเพียงแค่ 1 รุ่นเท่านั้น โดยที่ช่วงเดือนกรกฎาคมจะจัดหนักจัดเต็มกับการขนไลน์อัพสินค้ามาเปิดตัวพร้อมกันถึง 5 ซีรีส์
ภายใน 5 ซีรีส์ จะมีรุ่นย่อยๆ ตั้งแต่ Nokia 2.2 เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ Nokia 2 เน้นการถ่ายภาพด้วย AI ในที่แสงน้อย โดยมีการนำเข้ามา 2 รุ่น คือรุ่น 2/16 และ 3/32 ส่วน Nokia 3.2, Nokia 4.2 จะเอารุ่น 3/32 เข้ามาทำตลาดในรุ่นกลาง ที่มาพร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมปุ่มกดสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant และกล้องอันทรงประสิทธิภาพในราคาที่จับต้องได้ และมีรุ่น Nokia 8.1 (6/128) ที่มีนวัตกรรมการถ่ายภาพเหนือระดับด้วยเลนส์ ZEISS Optics หน้าจอเทคโนโลยี PureDisplay เป็นการอัปเกรดรุ่นก่อน หลังจากที่กระแสของ Nokia 8.1 (4/64) ขายหมดภายในวันเดียว
รวมถึงไฮไลท์สำคัญคือ Nokia 9 PureView สมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีกล้องหลัง 5 ตัว มาพร้อมเลนส์ Zeiss Optics และเทคโนโลยี Computational Imaging รุ่นใหม่ล่าสุด ให้ได้ภาพที่คมชัดทุกสภาพแสง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอระดับมือโปร เป็นรุ่นที่มีกระแสเรียกร้องอยากให้เปิดตัวในไทย ความสำคัญของรุ่นนี้คือได้เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Mobile World Congress เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ใน APAC ที่จำหน่ายรุ่นนี้ต่อจากออสเตรเลีย และฮ่องกง เป็นการตอกย้ำว่าไทยเป็นประเทศสำคัญ
สำหรับสมาร์ทโฟน 5 ซีรีส์ที่เปิดตัวนั้น จะวางจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์แบบเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Shopee เท่านั้น เพราะได้เรียนรู้จากรุ่น Nokia 8.1 (4/64) ว่าสามารถขายบนช่องทางออนไลน์ได้ คนให้ความสนใจแม้ไม่ได้ทดลองจับเครื่องก็ตาม
ตอนนี้ Nokia มีสมาร์ทโฟนครอบคลุมทุกกลุ่ม มีตั้งแต่ฟีเจอร์โฟนที่มีปุ่มกด และสมาร์ทโฟนตั้งแต่ระดับ Low Entry รุ่น Nokia 1, Nokia 2, Nokia 3 เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มคนที่เริ่มใช้สมาร์ทโฟน ระดับกลาง รุ่น Nokia 4, Nokia 5, Nokia 6 เน้นฟังก์ชั่นเล่นเกม ดูหนัง ความบันเทิง มาจนถึงรุ่น Mid-Range Flagship รุ่น Nokia 7+ และ Nokia 8.1 ระดับหมื่นต้นๆ ถึงหมื่นกลางๆ มีการเอาฟีเจอร์ AI ในถ่ายภาพ เป็นไฟท์ติ้งแบรนด์กับคู่แข่ง รวมถึงเลนส์ ZEISS optics ที่ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพสวยคมชัดยิ่งกว่าเดิม
แม้จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับวงการสมาร์ทโฟนทั่วโลก แต่ในปี 2018 มือถือสมาร์ทโฟน โนเกียสามารถเพิ่มฐานผู้ใช้งานขึ้นเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือฟีเจอร์โฟนอันดับ 1 ของโลก ทั้งด้านยอดขายและมูลค่ารวม
ที่ผ่านมา มือถือแบรนด์ Nokia ยังเป็นผู้นำพื้นฐานโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนด้วยการพัฒนาศักยภาพของโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนในตำนานอย่าง Nokia 3310 และ Nokia 8110 4G ให้มีคุณภาพเป็นที่น่าพึงพอใจแก่ผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก ปัจจุบันโนเกีย มีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 200,000 สาขาทั่วโลก ดำเนินการใน 80 ประเทศ และมีผู้ใช้งานบนแอปพลิเคชัน My Phone ของโนเกียกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน
ระบบความปลอดภัยที่อัปเดตเป็นประจำทุกเดือน ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดได้อย่างปลอดภัยอยู่เสมอ ทำให้โนเกียก้าวขึ้นสู่แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับท็อป 5 ในตลาดหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงภูมิภาคที่สำคัญ เช่น ยุโรปตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และรัสเซีย
ส่วนในประเทศไทยแม้จะยังมีส่วนแบ่งการตลาด แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ต้องใช้เวลาในการทำตลาดที่จะทำให้แฟนๆ กลับมาใช้ มือถือแบรนด์ Nokia ได้อีก
และจากความสำเร็จในหลายปีที่ผ่านมา จึงการันตีได้ว่า Nokia เป็นสมาร์ทโฟนเพียว แอนดรอยด์ ที่ “ยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวัน”