ดูเหมือนว่า นโยบาย “ท่องเที่ยวช่วยชาติ” ของรัฐบาลญี่ปุ่นสัมฤทธิ์ผล นักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลมาญี่ปุ่นสร้างรายได้มากกว่าการส่งออกเซมิคอนดักเซอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานด้านการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นระบุว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวมีมูลค่าสูงกว่า 4.5 ล้านล้านเยน หรือราว 1.3 ล้านล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกว่า 31 ล้านคนมาเยือนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จำนวนนักท่องเที่ยวสูงกว่า 30 ล้านคน
หลังจากญี่ปุ่นผ่อนคลายมาตรการวีซ่าให้กับหลายประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเติบโตอย่างมาก รายรับจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้ สูงกว่ามูลค่าการส่งออกสารกึ่งตัวนำ หรือเซมิคอนดักเซอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นยังมีการลงทุนเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นโรงแรมในญี่ปุ่นได้ลงทุนมากกว่า 9,300ล้านดอลลาร์ หรือราว 287,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยถือว่ามีการลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 9 เท่าจาก 6 ปีก่อน
นอกจากนี้บรรดาผู้ผลิตเครื่องสำอาง ของที่ระลึก จนถึงขนมต่างๆ ก็สร้างโรงงานขึ้นใหม่ เพื่อรองรับความต้องการซื้อที่เพิ่มมากขึ้น
รายงานจากองค์การการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทำสถิติเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤษภาคมมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาญี่ปุ่นมากกว่า 2.77 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.7% จากปีก่อนหน้า
โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมีจำนวนมากที่สุดถึง 756,400 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 แต่นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้และนักท่องเที่ยวไต้หวันลดลงเล็กน้อย ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คนไทยเดินทางมาญี่ปุ่นมากกว่า 1,130,000 คนต่อปี และอยู่ในอันดับที่ 6 รองจาก จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา
การลดลงของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มในเดือนพฤษภาคม อาจเป็นเพราะราคาตั๋วเครื่องบินและที่พักที่แพงขึ้น เพราะชาวญี่ปุ่นจำนวนมากออกท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ถึง 6 พฤษภาคม โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงหลังจากนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการให้มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติมากยิ่งขึ้นโดยตั้งเป้าหมายสำหรับปี 2563 ที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่อปีให้สูงถึง 40 ล้านคน และเพิ่มรายรับจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวให้สูงถึงเกือบ 2 เท่าจากระดับปัจจุบัน.