กลายเป็นมหากาพย์ที่ยังไม่มีท่าทีจะจบลงง่ายๆ เมื่อมีรายงานข่าวออกมาอีกแล้วว่า Huawei ยักษ์ใหญ่สมาร์ทโฟนของจีน กำลังวางแผน “ลดตำแหน่งงาน” ครั้งใหญ่ในในสหรัฐฯ ตอบโต้กรณีที่ถูกรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กดดันอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
The Wall Street Journal อ้างคำรายงานอ้างคำบอกเล่าของผู้คนที่คุ้นเคยสถานการณ์นี้แต่มิได้ระบุชื่อเสียงเรียงนาม กล่าวว่า คาดหมายว่าการปลดพนักงานของหัวเว่ยนี้จะโฟกัสที่บริษัท Futurewei Technologies กิจการด้านวิจัยและพัฒนาซึ่งตั้งฐานอยู่ในสหรัฐฯ ของ Huawei
บริษัทในเครือ Huawei แห่งนี้ปัจจุบันว่าจ้างลูกจ้างพนักงานราว 850 คนซึ่งกำลังทำงานอยู่ในแล็บปฏิบัติการหลายแห่งในสหรัฐฯ แต่พวกเขาหลายร้อยคนทีเดียวอาจจะถูกยื่นซองขาว “เลิกว่าจ้าง” แต่ทั้งนี้หากพนักงานบางคนที่เป็นคนจีน ได้รับข้อเสนอทางเลือกว่ายังสามารถจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่ต้องเดินทางกลับจีนเพื่อทำงานต่อ
คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ใส่ชื่อ Huawei เอาไว้ในบัญชีดำที่เรียกกันว่า “Entity List” ซึ่งหมายความว่าพวกบริษัทสหรัฐฯ จำเป็นที่จะต้องได้รับใบอนุญาต จึงจะสามารถซัปพลายเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ให้แก่บริษัทจีนแห่งนี้ได้
เวลานี้ Huawei ยังคงเป็นผู้นำในเรื่องเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายเจเนอเรชั่นหน้าที่มีชื่อว่า 5G ถึงแม้ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าร่วมการพัฒนาเครือข่าย 5G ในสหรัฐฯ รวมทั้งคณะบริหารทรัมป์ยังไม่ได้ลดละความพยายามในการเกลี้ยกล่อมชักจูงให้ชาติพันธมิตรต่างๆ ของตนกระทำอย่างเดียวกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โมนาโก กลายเป็นประเทศยุโรปรายแรกที่เปิดตัวเครือข่าย 5G ซึ่งอิงอยู่กับเทคโนโลยีของ Huawei
รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาว่า Huawei กำลังทำงานโดยตรงกับรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นข้ออ้างที่บริษัทปฏิเสธตลอดมา
ภายหลังทรัมป์พบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมการประชุมซัมมิตกลุ่ม G20 ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์บอกว่าเขาจะผ่อนคลายมาตรการที่สหรัฐฯ ใช้ลงโทษหัวเว่ย โดยจะให้บริษัทสหรัฐฯ ขายเทคโนโลยีอเมริกันแก่ยักษ์ใหญ่เทเลคอมจีนรายนี้ได้ หากเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้มีความเสี่ยงจะเป็นภัยคุกคามสหรัฐฯ.