ปกติแล้ว Apple มักจะขยักฟีเจอร์แรงไว้ที่ไอโฟนรุ่นท็อปที่วางราคาจำหน่ายแพงกว่าเพื่อนที่ถูกเปิดตัวมาพร้อมกัน แต่สำหรับปี 2020 นักวิเคราะห์ฟังธงว่า iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่นที่จะแจ้งเกิดปีหน้านั้นจะสนับสนุน 5G ทุกรุ่น ตอกย้ำนโยบายใหม่ของที่ Apple ไม่อาจ “อั้นฟีเจอร์” ไว้ตามใจต้องการได้อีกต่อไป แต่ต้องปรับตัวด้วยการเปลี่ยนมาตอบโจทย์ตลาดแบบเต็มที่
ก่อนหน้านี้ Apple ถูกร่ำลือว่าจะเปิดตัวโทรศัพท์ 5G จำนวน 2 รุ่นสู่ตลาดในปี 2020 โดยที่จะจำกัดให้ iPhone อีก 1 รุ่นสามารถเชื่อมต่อเฉพาะเครือข่าย LTE แต่ข่าวลือนี้ถูกเปลี่ยนแปลงเพราะแนวโน้มของตลาดที่เริ่มตอบรับเครือข่าย 5G ทั่วโลก ทำให้ผู้ผลิตโทรศัพท์อย่าง Apple ไม่อาจรีรอและต้องเปิดตัวโทรศัพท์ที่สามารถรองรับ 5G ได้ทันการณ์
การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นการยกระดับจากเดิมที่ Apple เคยถูกประเมินว่าจะเปิดตัวโทรศัพท์ 5G ในปี 2020 เพียง 1 รุ่นเท่านั้น และล่าสุด สื่ออเมริกันเชื่อว่าโทรศัพท์ใหม่ทั้ง 3 รุ่นของ Apple จะรองรับ 5G ทั้งหมดในปีหน้า
ย้อนไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ธุรกิจ Apple อย่างหมิง ชิ–เกา (Ming-Chi Kuo) รายงานว่า iPhone รุ่นหน้าจอ 5.4 นิ้วและ 6.7 นิ้วในปี 2020 จะรองรับ 5G ในขณะที่อีก 1 รุ่นจะสืบทอดหัวโขน iPhone XR รุ่นหน้าจอ 6.1 นิ้วที่มีราคาถูกกว่า รุ่นนี้เองที่จะรองรับเครือข่าย LTE เท่านั้น ปรากฏว่า Kuo ตัดสินใจออกรายงานฉบับใหม่ แล้วแก้ไขว่า iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่นจะรองรับ 5G
เหตุผลที่ทำให้ Kuo กลับลำคำพยากรณ์ คือ Apple กำลังมีทรัพยากรมากขึ้นสำหรับการพัฒนา iPhone 5G โดยเฉพาะหลังจากการเข้าซื้อกิจการธุรกิจโมเด็ม 5G จากอินเทล (Intel) รวมถึงแนวโน้มราคาต้นทุนการผลิตโทรศัพท์ Android 5G ที่กำลังลดลง
เพื่อให้แข่งขันได้ Apple จึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์
เบื้องต้น Apple ถูกมองว่าจะยังคงต้องซื้อชิป 5G จากพันธมิตรคู่แค้นอย่างควอลคอมม์ (Qualcomm) ต่อไป เพราะแม้ Apple จะประกาศควบรวมหุ้นส่วนใหญ่ของธุรกิจโมเด็มของ Intel ในราคา 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ Apple ก็จะยังไม่พร้อมเปลี่ยนมาใช้ชิปที่ตัวเองผลิตเอง และจะยังไม่มีแนวโน้มจนกว่าจะถึงปี 2021 จึงจะสามารถใช้ชิป 5G เวอร์ชั่นของตัวเองได้
Kuo ยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มว่า โทรศัพท์ Android ส่วนใหญ่จะรองรับ 5G เวอร์ชั่น sub-6GHz ไม่ใช่ 5G แบบ mmWave ซึ่งให้ความเร็วมากกว่า แต่คีย์หลักสำคัญคือผู้บริโภคจะเหมารวมว่า 5G จะเป็นฟังก์ชันที่จำเป็นต้องมีในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 ดังนั้น iPhone รุ่นใหม่ที่จะขายในราคาที่สูงกว่า Android จะต้องรองรับ 5G เพื่อรับเงินอุดหนุนหรือซับซิไดซ์เพิ่มเติมจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และความตั้งใจซื้อของผู้บริโภคด้วย
ในภาพรวม สื่ออเมริกันเชื่อว่า Apple กำลังวางเดิมพันว่าลูกค้าต้องการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 5G และส่วนใหญ่จะยอมจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อให้ได้มือถือ 5G.