สุดอึ้ง! IBM ไล่ “พนักงานสูงวัย” นับแสนคนออกไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ “ดูเด็กและทันสมัย” เหมือน Google – Amazon

แค่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัทคอมพิวเตอร์ IBM ไล่พนักงานออกไปแล้วถึง 100,000 คนในความพยายามที่จะปรับภาพลักษณ์ดึงดูดคนรุ่นใหม่ชาวมิลเลนเนียลส์ทั้งหลาย และต้องการให้บริษัทที่มีอายุร่วม 108 ปีมีภาพลักษณ์ดูทันสมัยและสุดเจ๋งเหมือน Amazon หรือไม่ก็ Google อ้างอิงจากอดีตรองประธานบริษัทด้านทรัพยากรมนุษย์ในคดีการกีดกันทางอายุที่กำลังดำเนินอยู่ในชั้นศาล 

Bloomberg ได้ออกรายงานว่า บริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังของสหรัฐฯ IBM ในเวลานี้กำลังประสบปัญหาคดีทางกฎหมายจำนวนหนึ่งที่ทาง IBM ถูกกล่าวหาว่าได้ไล่พนักงานออกอย่างไม่เป็นธรรมเนื่องจากปัญหาสูงวัยเป็นเหตุ ซึ่งรวมไปถึงคดีที่มีโจทก์เป็นคณะ (class-action lawsuit) เกิดขึ้นในแมนแฮตตันและคดีฟ้องร้องทางแพ่งส่วนบุคคลที่รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐเทกซัสในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้พบว่ายักษ์ใหญ่สีน้ำเงินนั้นประสบปัญหาอย่างหนักในการหดตัวของรายได้เกือบ 7 ปีติดต่อกัน ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า บริษัท IBM ได้ไล่พนักงานออกจำนวนมากทั้งในสหรัฐฯ และแคนาดา และในระดับตำแหน่งเงินเดือนสูงอื่นๆ ในความพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงองค์กร หลังจากที่ทางบริษัทมาช้าทั้งในระบบคอมพิวเตอร์คลาวด์และการปฎิวัติของเทคโนโลยีเคลื่อนที่ 

ตัวเลขของจำนวนพนักงาน IBM พบต่ำสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งมีจำนวนพนักงานทั่วโลกอยู่ที่ 350,600 คนในสิ้นปี 2018 ลดลงไป 19% นับตั้งแต่ปี 2013 

ในการเป็นพยานในคดีการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในคดีฟ้องร้องทางแพ่ง อลัน ไวลด์ ( Alan Wild) อดีตรองประธานด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัท IBM เขากล่าวว่า “IBM ได้เลิกจ้างพนักงานระหว่าง 50,000 – 100,000 คนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อ้างอิงจากคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลรัฐเทกซัสในวันพฤหัสบดี

บริษัทที่มีอายุร่วม 108 ปีประสบปัญหาในการจ้างงาน และมีความมุ่งมั่นว่า ต้องการแสดงให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่าชาวมิลเลนเนียลส์ทั้งหลายไม่มองว่าบริษัท IBM นั้นเก่าแก่ตกยุคที่ยังอยู่ในรุ่นพ่อ ต้องการให้บริษัทดูมีความทันสมัย และสุดเจ๋งเหมือนเช่น กูเกิลของบริษัทแอลฟาเบธ อิงก์ หรือไม่ก็ แอมะซอน อ้างอิงจากคำฟ้อง

และในการที่จะให้ไปสู่จุดนั้น ทาง IBM ตัดสินใจหั่นตัวเลขพนักงานจำนวนมากที่มีอยู่ในกลุ่มที่มีอายุในช่วงเวลาไม่กี่ปี่ และยุทธศาสตร์นี้มีเป้าหมายรวมไปถึงโจทก์ผู้ฟ้อง “โจนาธาน แลงลีย์” ( Jonathan Langley) วัย 61 ปีอาศัยในรัฐเทกซัส ซึ่งแลงลีย์ได้กล่าวหา IBM ว่าได้ไล่เขาออกเนื่องมาจากอายุเป็นปัจจัยหลังจากที่ทำงานมาอย่างยาวนานไม่ต่ำกว่า 24 ปี 

อย่างไรก็ตามทางบริษัท IBM ได้ยื่นเรื่องต่อศาลขอให้ยกคำฟ้องของแลงลีย์ ซึ่งในวันอังคาร (30 .) ทีมทนายความของแลงลีย์ได้ยื่นคำคัดค้านต่อการยื่นของทาง IBM 

การค้านรวมไปถึงความเห็นจากไวลด์ซึ่งได้มาจากการให้การใต้คำสาบานที่ยังคงเป็นความลับ ทั้งนี้ไวลด์ทำงานให้กับ IBM มาเกือบ 8 ปีและพ้นจากตำแหน่งในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อ้างอิงจาก LinkedIn ไวลด์กล่าวว่า เขาไม่สามารถให้ความเห็นได้ในเรื่องนี้ 

ทั้งนี้พบว่าทางบริษัทยักษ์ใหญ่สีน้ำเงินเริ่มต้นนโยบายปรับปรุงการที่มีพนักงานกลุ่มสูงวัยผสมอยู่ตั้งแต่ปี 2014 อ้างอิงจากคำฟ้องที่มีโจทก์เป็นกลุ่มคณะถูกยื่นขึ้นที่นิวยอร์ก 

โดยทาง IBM เริ่มต้นไล่พนักงานกลุ่มสูงวัยออก และแทนที่ด้วยกลุ่มมิลเลนเนียลส์ที่มีอายุน้อย คนในแผนกที่ปรึกษาของ IBM กล่าวว่า คนเหล่านี้เป็นพวกมีความสร้างสรรค์และมีการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้ดีกว่ากลุ่มยุคเบบี้บูม

เดือนที่ผ่านมาที่อาร์มองค์ (Armonk) ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท IBM ในนิวยอร์ก พบว่าได้มีการสั่งปรับลดพนักงานไป 2,000 คน โดยในเวลานั้นทางบริษัทได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่าทางเรายังคงอยู่ในระหว่างการปรับสถานะทีมของเราเพื่อให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายของเราในกลุ่มที่มีมูลค่าสูงของตลาด IT ในขณะเดียวกันยังคงเปิดรับสมัครงานอย่างมากในพื้นที่ใหม่ที่สำคัญที่จะมอบคุณค่าให้กับลูกค้าและบริษัท IBM” 

นอกจากนี้ในเดือนมีนาคมล่าสุด โปรพับลิกา(ProPublica) เผยแพร่การสอบสวนสำคัญที่พบว่า *** IBM ที่ผ่านมาได้เลิกว่าจ้างพนักงานอเมริกันจำนวน 20,000 คนที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปีในรอบ 5 ปีล่าสุด***

Bloomberg ได้รายงานอีกว่า เมื่อปี 2015 บริษัทยักษ์ใหญ่ทางคอมพวเตอร์ของสหรัฐฯได้ออกมาปฎิเสธการรายงานของนิตยสารฟ็อบส์ที่ว่า ทาง IBM จะทำการเลิกจ้างพนักงานร่วม 100,000 คน หรือราว 1 ใน 4 ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัทในไม่กี่ปีข้างหน้า โดยทาง IBM กล่าวอ้างในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ยูเอสเอ ทูเดย์ว่าเป็นเรื่องไร้สาระและไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

Source