ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยยังอยู่ในเทรนด์เติบโตสูงเช่นเดียวกับทั่วโลก ปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 3.2 ล้านล้านบาท เซ็กเมนต์ B2C (Business to Consumer) ขยายตัวสูงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน จากการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบอีเพย์เมนต์ที่สะดวก ส่งผลให้เกิดผู้ซื้อผู้ขายในธุรกิจออนไลน์เพิ่มขึ้น ช่วยหนุนธุรกิจขนส่งเติบโตตามไปด้วย
คมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแฟลช (FLASH GROUP) ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจร กล่าวว่าแนวโน้มตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยยังคงอยู่ในช่วง “ขาขึ้น” แฟลช กรุ๊ป ยังเห็นโอกาสการขยายตัวในธุรกิจนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม B2C
โดยได้เปิดตัวธุรกิจ Flash Home รูปแบบ “จุดรับส่งพัสดุ” ให้ผู้สนใจทำธุรกิจสมัครเป็นสมาชิก Flash Home โดยใช้สถานที่ บ้าน ร้านค้า อาคารพาณิชย์ ปรับเปลี่ยนเป็นจุดให้บริการ ถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับตัวแทน และเป็นอีกช่องทางส่งสินค้าในชุมชน Flash Home
เปิดตัวเมื่อต้นปี 2562 เริ่มต้นที่ 100 สาขา เน้นคนทั่วไป ผู้ประกอบการรายย่อย และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่สนใจ ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก เพื่อเป็นตัวแทนบริการจุดรับส่งพัสดุ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ลงทุนไม่สูง เพราะใช้สถานที่ที่ผู้สมัครมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ส่วนผลตอบแทน จะมาจากรายได้จากค่าขนส่ง รายได้จากการขายบรรจุภัณฑ์ Flash express และค่าธรรมเนียมธุรกิจ COD
ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา Flash Home เปิดสาขากว่า 1,100 สาขาทั่วประเทศ คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขารวม 2,000 สาขาทั่วประเทศ
ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ถึงปัจจุบันมียอดจัดส่งพัสดุไปแล้วกว่า 1.4 ล้านชิ้น สร้างกำไรให้แก่สมาชิกโครงการราว 8.5 ล้านบาท การจัดงานแนะนำธุรกิจ Flash Home ให้ผู้สนใจล่าสุดมีผู้เข้าร่วมกว่า 700 คน เชื่อว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสของธุรกิจขนส่งและ Flash Home ในการขยายสาขาและสมาชิก