ยังไปได้สวยกับการทำตลาดขายลิขสิทธิ์ “ซีรีส์อินเดีย” ในตลาด CLMV เพราะแม้ทีวีดิจิทัลในประเทศไทยปิดฉาก “ลาจอ” ไป 7 ช่อง แต่ตัวเลข JKN ครึ่งปีแรกยังกำไร ครึ่งปีหลังยังเชื่อว่าจะโตได้อีก 20%
บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้จัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ต่างประเทศ รายงานผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกปี 2562 (ม.ค. – มิ.ย. 2562) มีรายได้ 870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้ 698 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.98% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 139 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2562 (เม.ย. – มิ.ย. 2562) ทำรายได้ 446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 352 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 69.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 68.4 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยจากรับผลกระทบภาวะค่าเงินบาทแข็งค่าและกดดันกำไรสุทธิไตรมาสนี้
ตลาด CLMV หนุนรายได้โต
จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN กล่าวว่า รายได้และกำไรครึ่งปีแรกยังเติบโตได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์อินเดียและฟิลิปปินส์ในกลุ่ม CLMV (กัมพูชาลาว เมียนมา และเวียดนาม) เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดในประเทศไทยที่ลูกค้าทีวีดิจิทัลยังคงซื้อคอนเทนต์ซีรีส์ไปออกอากาศอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีทีวีดิจิทัลคืนใบอนุญาต 7 ช่อง ในเดือน ส.ค. – ต.ค. นี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับธุรกิจ
อีกทั้งการเป็นตัวแทนจำหน่ายคอนเทนต์ซีรีส์ละครไทยจาก “ช่อง 3” ในตลาดต่างประเทศ ได้ผลตอบรับที่ดี JKN มีแผนขยายการตลาดและการจำหน่ายคอนเทนต์ซีรีส์ละครไทยครอบคลุมกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรปแคนาดา และละตินอเมริกา โดยเฉพาะในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเพิ่มขึ้น
“มั่นใจว่าครึ่งปีหลังจะสามารถปิดการขายคอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มมูลค่างานในมือได้มากขึ้น จากสิ้นไตรมาส 2 มีอยู่ 470 ล้านบาท”
ครึ่งปีหลังชูกลยุทธ์ “ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง”
สำหรับแผนธุรกิจครึ่งปีหลังจะรุกทำตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ผ่านกลยุทธ์การตลาด “ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง” จากการร่วมออกบูธและจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างกระแสให้กับคอนเทนต์ที่นำไปจำหน่ายในต่างประเทศ ปลายปีนี้ JKN มีแผนนำ ซีรีส์ละครไทย อีกกว่า 40 เรื่อง ไปจำหน่ายในงาน MIPCOM 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส
ส่วนตลาดในประเทศมองว่ายังเติบโตได้ เนื่องจากลูกค้าทีวีดิจิทัล ที่ยังดำเนินธุรกิจต่อมีแนวโน้มนำเงินมาลงทุนซื้อคอนเทนต์แทนการผลิตรายการเอง เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับช่องเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้จะรับรู้รายได้จากการผลิตรายการภายใต้แบรนด์ JKN-CNBC ที่ดำเนินงานภายใต้ บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด ซึ่งเป็นอีกธุรกิจที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตต่อจากนี้ หลังจากได้เริ่มออกอากาศผ่านช่อง GMM 25 ตั้งแต่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม
โดยมีแผนเพิ่มคอนเทนต์จากแบรนด์ CNBC อีก 5 รายการ เพื่อออกอากาศผ่านช่องทีวีดิจิทัล ได้แก่ ช่อง 5 ทรูโฟร์ยู อมรินทร์ทีวี เป็นต้น คาดว่าจะช่วยผลักดันเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้เติบไม่ต่ำกว่า 20% ตามแผนที่วางไว้.