ชำแหละกรณีศึกษา Potato Corner ขี่กระแส #พีชแพท ขยี้ปมปั้นแบรนด์ปัง!!

เป็นอีกกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นพลังโซเชียลหนุนแบรนด์แจ้งเกิด วันนี้เชื่อว่าชาวโซเชียลรู้จักร้าน Potato Corner ธุรกิจของพีช พชร จิราธิวัฒน์” เป็นอย่างดี หลังออกมายอมรับว่าเลิกรากับนางเอกแพทริเซีย กู๊ดทำให้หลายคนขอเลือกข้างปลอบใจหนุ่มพีช แห่อุดหนุนธุรกิจเฟรนช์ฟรายปรุงรส Potato Corner คิวยาว Sold Out ทุกสาขาในกรุงเทพฯ วานนี้ (21 ..)

สำรวจคิวร้าน Potato Corner วันนี้ (22 ส.ค.) หลายสาขาในกรุงเทพฯ คอนเฟิร์มคิวยังแน่น เพราะกระแส #พีชแพท ยังมี Story ต่อ หลัง “แพทริเซีย กู๊ด” ยอมรับว่าเลิกกันจริง ยิ่งมีปมบุคคลที่ 3 กระแสยิ่งยาวออกไป ร้าน Potato Corner ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ดร.เอกก์ ภทรธนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษาด้านแบรนด์และผู้แต่งหนังสือ “อัจฉริยะการตลาด” อธิบายกรณีกระแสโซเชียลแห่ซื้อเฟรนช์ฟราย ร้าน Potato Corner ของ “พีช พชร จิราธิวัฒน์ ทายาทเซ็นทรัล ว่า เป็นการแสดงพลังของชาวโซเชียล ที่พยายามให้กำลังใจสนับสนุน “พีช” และเป็นการแสดงให้เห็นว่าเลือกข้างไหน

ไม่ใช่แค่ให้กำลังใจคนคนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่จับต้องได้ง่ายที่สุดของกรณีนี้ คือ แบรนด์ Potato Corner กลายเป็นตัวแทนของบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งที่จริงจะหยิบแบรนด์อื่นที่เกี่ยวข้องกับ “พีช” มาแสดงออกก็ได้ เช่น ธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล แต่ Potato Corner ถือว่าชัดเจน เพราะ “พีช” เป็นเจ้าของ เป็นสินค้าที่ซื้อง่ายขายคล่อง ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบพีช

แต่เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ผลกระทบกับอีกฝ่าย (แพทริเซีย) รวมทั้งมีปมเรื่องมือที่ 3 จึงไม่ใช่เพียงการให้กำลังใจ แต่เป็นการแสดงความเห็นและการแสดงออกแบบเลือกข้าง กระแสเรื่องนี้จึงถูกพูดถึงในหลายมุมและยังยืดเยื้อต่อไป

แบรนด์เก่งขี่กระแสเล่นทุกช่วง

ในมุมของแบรนด์ Potato Corner ที่เล่นกับกระแส “พีชแพท” ถือว่าทำได้ดี คือ เก็บทุกเม็ด ตั้งแต่ “ก่อน ระหว่างและหลัง” ที่ผ่านมาแบรนด์ที่ต้องการเล่นกับกระแสโซเชียล มักมีคำถามว่า จะหยิบช่วงจังหวะไหนมาเล่นดี คำตอบของเคสนี้ คือ ทำทุกช่วงตั้งแต่ “ก่อน ระหว่างและหลัง”

ภาพจากเฟซบุ๊ก Potato Corner Thailand

เริ่มทำ “ก่อน” กระแสคือ ตั้งแต่มีประเด็นของ “พีชแพท” ก่อนที่ “พีช” จะออกมาเคลียร์ คนส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคยกับ Potato Corner และไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของเพจ Potato Corner ก็เริ่มสร้างคอนเทนต์ “ให้กำลังใจนาย” ถือเป็นการกระพือไฟ โหมกระแสที่ถูกจุดให้แรงขึ้น

ช่วง “ระหว่าง” ที่เกิดกระแส คือ หลังจากที่ “พีช” ให้สัมภาษณ์ว่า “เลิก” กับแพทแล้ว เป็นช่วงพีคที่ชาวโซเชียลเห็นใจและต้องการแสดงออกถึงการเลือกข้างและสนับสนุน “พีช” ด้วยการซื้อ Potato Corner คราวนี้แบรนด์ก็ทำโปรโมชั่นร่วมกับเซอร์วิส “ฟู้ด เดลิเวอรี่” ต่างๆ และยิงโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1

ปิดท้าย “หลัง” กระแสกับการโพสต์ Sold Out ขายเกลี้ยงทุกสาขาในกรุงเทพฯ เพื่อคอนเฟิร์มกระแสการสนับสนุนบอสพีช ถือเป็นการที่แบรนด์เล่นกับกระแสทุกช่วงของเหตุการณ์ ไม่ใช่เล่นจังหวะใดจังหวะหนึ่งเท่านั้น

ภาพจากเฟซบุ๊ก Potato Corner Thailand

พฤติกรรมเกาะกระแสแห่ทำตามกัน

ขึ้นชื่อว่าโซเชียล ปกติมาเร็วไปเร็ว แต่ถามว่ากระแส “พีชแพท” จะจบเร็วไหม ต้องบอกว่า พลังโซเชียลเป็นเรื่องเดาได้ยาก เพราะกระแสแห่ซื้อ Potato Corner วันนี้ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มที่ต้องการให้กำลังใจ “พีช” ที่ต่อเนื่องจากโลกโซเชียล

แต่อีกส่วนมาจากกระแสแห่ “ทำตามกัน” แบบว่าเห็นคนอื่นทำก็ทำบ้าง เห็นคนอื่นมีก็มีบ้าง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอกับโลกโซเชียล เพราะไม่อยากตกกระแส

วันนี้ถือว่า Potato Corner สร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี หลังจากนี้ต้องต่อยอดจากการรับรู้ไปสู่การเป็น “แฟนคลับ”ของแบรนด์

ถามว่ากระแส “พีชแพท” ที่จะสร้างแรงหนุนให้กับ Potato Corner จะอยู่ได้อีกนานไหม ต้องดูที่ Story หลังจากนี้ หากมีการโยงไปที่บุคคลอื่นๆ อีก กระแสก็ยังคงอยู่ แรงสนับสนุนก็ยังไปต่อได้ จากกระแสแห่ทำตามกัน

เกาะกระแสได้ต้องหลุดให้เป็น

สิ่งที่สำคัญ หากแบรนด์ต้องการเล่นกับกระแส ต้อง “เล่นเป็น เกาะเป็น และหลุดเป็น” กรณีหากมีปมที่เห็นว่าอาจเกิดปัญหากับกระแสที่เล่น แบรนด์ก็ต้องหลุดจากสถานการณ์ให้เป็น เช่น หากกระแสตีกลับมาที่ “พีช” และหากเป็น การกระทำที่ผิด จากแบรนด์ที่ให้กำลังใจบอส ก็ต้องต่อว่าบอสและขอโทษแทนบอสให้เป็นด้วยเช่นกัน หากแสดงออกแบบนี้ จะทำให้คนเห็นแบรนด์เป็นแบรนด์ ไม่ได้อิงกับตัวบุคคล

ข้อควรระหว่างของ “ทุกแบรนด์” คือ ไม่ควรขายด้วยตัวบุคคล หรือ นำแบรนด์ไปผูกติดกับตัวบุคคล เพราะ “คน” มีอารมณ์หลากหลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมบุคคลไม่ได้ แต่สามารถเล่นเกาะกระแสสั้นๆ ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วการตัดสินใจซื้อสินค้าคือเรื่องของ “แบรนด์และผลิตภัณฑ์” และการจัดจำหน่าย