สมรภูมิ “ทีวีดิจิทัล” โค้งสุดท้ายของปี ศึกคอนเทนต์รอบใหม่ พุ่งเป้าไปที่ “รายการข่าว” หลัง 7 ช่อง พ่ายเกมการแข่งขัน “ลาจอ” ก่อนจบอายุใบอนุญาต มีช่องข่าว 3 ช่อง สปริงนิวส์ ไบรท์ทีวี และวอยซ์ทีวี หากรวม “ไทยทีวี” ที่ออกจากตลาดไปก่อนตั้งแต่ปี 2558 เหลือ “ช่องข่าว” 3 ช่อง จาก 7 ช่องที่ กสทช. ออกใบอนุญาตไว้ในปี 2557
ในมุมของโอกาสทำรายได้จาก “รายการข่าว” ที่โกยเรตติ้งในกลุ่มผู้นำ สามารถทำเม็ดเงินโฆษณาเป็นกอบเป็นกำไม่แพ้คอนเทนต์อื่นๆ เห็นได้จากยุคผู้ประกาศดัง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ปั้นแบรนด์ “ครอบครัวข่าว” ให้ช่อง 3 ติดอันดับท็อปเรตติ้ง มาในยุคนี้ “พุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี” สร้างชื่อเรตติ้ง “ทุบโต๊ะข่าว” ช่องอมรินทร์ทีวี ขึ้นมาติดอันดับช่องท็อปเท็นเช่นกัน
หากวิเคราะห์เม็ดเงินโฆษณาทีวี ปีละ 6 – 7 หมื่นล้านบาท สัดส่วน 70% มาจากละครและวาไรตี้ ที่มีเรตติ้งสูงสุด ราคาโฆษณา rate card แตะระดับ 3 – 4 แสนบาทต่อนาที ขณะที่รายการข่าวมีสัดส่วนราว 20% ของเม็ดเงินโฆษณาทีวี หรือกว่า 1.2 – 1.4 หมื่นล้านบาทต่อปี ต้องถือว่าไม่น้อย ที่สำคัญต้นทุนต่ำกว่าละครและรายการวาไรตี้ จึงเป็นเรื่องปกติเมื่อทีวีดิจิทัล ที่เหลืออยู่จะหันมาโฟกัสคอนเทนต์ข่าวเพื่อปั้นเรตติ้งและเม็ดเงินโฆษณา ช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ จึงเห็นหลายช่องประกาศผังข่าวใหม่กันคึกคัก
“9 MCOT” เขย่าผังข่าวเช้า
เป็น 1 ใน 7 ช่อง “ทีวีดิจิทัล” ที่ขอคืนใบอนุญาต ช่องเด็ก Mcot 14 Family มีคิวลาจอเที่ยงคืนวันที่ 15 ก.ย. 2562 เพื่อมาโฟกัสคอนเทนต์ช่องหลัก 9 Mcot HD
เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวว่าตั้งแต่เดือน ก.ย. นี้ ช่อง 9 ได้ปรับผังรายการใหม่ มีสัดส่วนรายการบันเทิง 39% ข่าวและรายงานสถานการณ์ 37% สาระและความรู้ 8% กีฬา 8% และสาระบันเทิง 8% เป็นรายการที่สถานีผลิตเอง 64% ร่วมผลิตและแบ่งรายได้ 14% และเช่าเวลา 22%
โดยเริ่มทยอยปรับผังรายการตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เริ่มด้วยการถ่ายทอดสดรายการมวยไทย “แม็กซ์ มวยไทย” รูปแบบ Sport Entertainment ซึ่งเป็นรายการมวยเรตติ้งสูง ที่ย้ายมาจากช่องสปริง 26 ออกอากาศ 5 วัน วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น.
อีกไฮไลต์การปรับผังเดือน ก.ย. นี้ คือกลุ่มรายการข่าวเช้า เน้นเนื้อหาวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจระดับโลก ทั้งการค้าการลงทุน หุ้น ทั่วโลก และสัมภาษณ์กูรูผู้เชี่ยวชาญ เริ่มด้วยช่วงเช้ารายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” โดย “ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” และ “อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-09.30 น.
ส่วนช่วงค่ำ โดย 2 กูรูคนข่าว กับบทวิเคราะห์เจาะลึกข่าวในประเทศและรอบโลก โดยวีระ ธีรภัทร ในรายการ “ฟังหูไว้หู” และสุทธิชัย หยุ่น ในรายการ “กาแฟดำ”
“ช่อง 9 อสมท กำลังทยอยปรับเนื้อหาอีกหลังจากนี้ เพื่อวาง Positioning ที่ชัดเจน ให้เป็น top of mind ด้านคอนเทนต์และแพลตฟอร์ม ทั้งเทรดดิชันนอล มีเดียและโซเชียล มีเดียมากขึ้น”
“โมโน29” หวังผังข่าวติดท็อปเท็น
หลังจากใช้คอนเทนต์บันเทิง ภาพยนตร์-ซีรีส์ ต่างประเทศ ขึ้นมายึด เรตติ้งอันดับ 3 มาพักใหญ่ ก็ได้เวลา MONO29 ต้องเสริมความแข็งแรงให้คอนเทนต์ใหม่ๆ และก็มุ่งเป้ามาที่ “รายการข่าว” เช่นกัน
บรรณสิทธิ์ รักวงษ์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29 ในเครือโมโนกรุ๊ป กล่าวว่า โมโนได้ปรับทัพคอนเทนต์ข่าวใหม่ โดยดึง ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า มาเป็นหัวเรือใหญ่ของทีมผู้ประกาศข่าว เพื่อนำเสนอรายการข่าวภายใต้คอนเซ็ปต์ “MONO29 NEWS สร้างสรรค์ มีสาระ เข้าใจง่าย”
“โจทย์สำคัญของเรา คือจะทำอย่างไรให้ผู้ชมรู้ว่าช่องโมโน 29 มีรายการข่าวเหมือนกับช่องอื่นๆ เพราะคอนเทนต์ส่วนอื่น ทั้งหนังและกีฬาบาสเกตบอลคนรู้อยู่แล้วว่าต้องดูที่ช่องโมโน”
การปรับทัพรายการข่าวและผู้ประกาศข่าวของสถานีในรอบ 5 ปี ได้ให้น้ำหนักกับรายการข่าวมากขึ้น ทั้งเนื้อหา รูปแบบการนำเสนอข่าวแบบบอกเล่าเข้าใจง่าย เพราะต้องการให้เป็นรายการข่าวแนวทางใหม่ๆ รวมทั้งปรับทีมผู้ประกาศข่าวใหม่ โดยมี ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า เป็นทัพหน้า เจาะฐานผู้ชมกลุ่มแมส เช่นเดียวกับคอนเทนต์อื่นๆ ของสถานี
หลังปรับผังข่าวใหม่ โมโน คาดหวัง ให้เรตติ้งรายการข่าวที่อยู่อันดับ 15 – 16 ก้าวขึ้นมาติดท็อปเท็น เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
หนึ่งในรายการข่าวไฮไลต์ คือ “กระแสโลก World News” จันทร์-ศุกร์ เวลา 05.00 – 05.30 น. ที่มี สุผจญ กลิ่นสุวรรณ ในฐานะพิธีกรอิสระ รับหน้าที่เป็นผู้ประกาศร่วมกับ คริสโตเฟอร์ ไร้ท์ ด้วยเป้าหมายทำให้คนดูหันมาเสพข่าวต่างประเทศมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีรายการ “ข่าวเช้า Good Morning Thailand” วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.30-07.30 น. ดำเนินรายการโดย พิภู พุ่มแก้วกล้า, นนทกฤช กลมกล่อม, วรวิตา จันทร์หุ่น, เจษฎา มณีรัตน์ และ เลลาณี ทศพร นำเสนอความเคลื่อนไหวต่างๆ และสถานการณ์ที่น่าสนใจในรอบวัน เจาะลึกประเด็นดังและขยายมุมมองเชิงสร้างสรรค์
รายการ “เจาะข่าวเด็ด The Day News Update” จันทร์-ศุกร์ เวลา 15.20-15.45 น. ดำเนินรายการโดย นนทกฤช กลมกล่อม และ พบเอก พรพงเมตตา เจาะประเด็นเด่นรอบวัน สุดท้ายคือรายการ “ข่าวสั้น Motion News” เกาะติดข่าวรอบวัน ดำเนินรายการโดย ธนภัทร ศุภวรรณาวิวัฒน์ ออกอากาศทุกวัน วันละ 3 ช่วงเวลา คือ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 น., 11.55 น. และ 22.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30 น., 15.00 น., และ 22.30 น.
“ช่อง 3” ชิงพื้นที่ข่าวตั้งแต่เช้ามืด
ฟากผู้นำเรตติ้งกลุ่มบันเทิง “ช่อง 3” ขยับปรับโฉมรายการข่าวเช่นกัน โดยเดือน ก.ย. นี้ เริ่มรายการข่าวตั้งแต่เช้ามืด 04:00 น. เป็นต้นไป ด้วยรายการ “โลกยามเช้า” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 04.00-04.30 น. และ “ครอบครัวข่าว 3” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 04.30-05.30น.
โดย “โลกยามเช้า” จะนำเสนอข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศที่ทั่วโลกให้ความสนใจในแต่ละวัน เกาะติดสถานการณ์รอบโลก เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจและเข้าถึงครบทุกประเด็นทั้ง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโนโลยี รวมถึงแง่มุมวัฒนธรรม ความบันเทิง ดำเนินรายการโดย “ศมจรรย์ จรุงวัฒน์”
ต่อด้วยรายการ “ครอบครัวข่าว 3” โดย 4 พิธีกร นำทีมโดย เอ ดนยกฤตย์ แดงหวานปีสีห์ – นิธินาฏ ราชนิยม – ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ และ คำรณ หว่างหวังศรี เป็นการสรุปข่าวใหม่และข่าวใหญ่ให้ผู้ชมไม่ตกข่าว รวมถึงประเด็นเหตุการณ์สำคัญในรอบวัน
จากนั้นต่อด้วยรายการข่าวหลัก เริ่มตั้งแต่ เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง เรื่องเล่าเช้านี้ แฟลชนิวส์ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เรื่องเด่นเย็นนี้ ข่าว 3 มิติ โลกยามเช้าสุดสัปดาห์ และเรื่องเล่าเสาร์ อาทิตย์
“ช่อง 5” จัดมาทั้งข่าวและวาไรตี้
สำหรับ ช่อง 5 สู้ศึกเรตติ้งโค้งสุดท้าย จัดรายการใหม่ลงผังเดือน ก.ย. 2562 ทั้งรายการข่าวและวาไรตี้ รายการ ไฮไลต์ฝั่งข่าว ยกให้ Halftime Report ผลิตรายการโดย JKN-CNBC ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30-12.00 น. นำเสนอสถานการณ์การลงทุนและการซื้อขายหุ้นในตลาดโลก วิเคราะห์ผลกระทบรวมถึงข่าวสารที่เกี่ยวกับตลาดการลงทุนของไทย
ส่วนกลุ่มรายการข่าวเดิม มีทั้งข่าวเช้า ข่าวเที่ยง ทันข่าวต้นชั่วโมง ฮาร์ดคอร์ข่าว ข่าวภาคค่ำ และจับประเด็นข่าวร้อน เพิ่มเติมเข้ามา คือ “กีฬานอกสนาม” ที่จะนำเสนอข่าวแวดวงกีฬา ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมส่งเสริม อนุรักษ์ ฟื้นฟูกีฬาพื้นบ้านไทย ดำเนินรายการโดย ณฐมน ใบบัว พิธีกรภาคสนาม ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงข่าวกีฬาภาคค่ำ
ส่วนวาไรตี้ รูปแบบซิทคอมสั้น “ชุมชนปรองดอง” เรื่องราว ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ละครสร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชน “ไอดินกลิ่นทุ่ง” ร่วมผลิตกับ ฟินนาเร่คิดส์ ครีเอทีฟ ตามด้วย ซีรีส์อินเดีย “อิทธิฤทธิ์เทพนาคา” และซีรีส์ “ลูกผู้ชายหัวใจทองคำ”
นี่แค่ผังรายการข่าวที่หลายช่องเริ่มขยับเพื่อช่วงชิงฐานผู้ชมจากช่องข่าวที่ “ลาจอ” คืนใบอนุญาต สำหรับ 15 ช่องทีวีดิจิทัลที่ขอไปต่อ ยังคงอยู่ในสมรภูมิแข่งขันดุเดือดและยังต้องเติมผังรายการใหม่เข้ามาสร้างเรตติ้ง เพื่อให้เป็นผู้รอดในอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล.