หลังจากปีก่อนแจ้งเกิดโปรเจกต์ 9×9 (ไนน์บายไนน์) การรวมตัวของ 9 ไอดอล ผลิตคอนเทนต์ป้อนทุกแพลตฟอร์มทั้ง ละคร เพลง คอนเสิร์ต 4NOLOGUE เดินหน้าปั้นศิลปินไทย (T-POP) ใช้โมเดลเดียวกับเกาหลี เป้าหมายใหญ่จัด “เวิลด์ทัวร์” หวังจุดพลุส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงไทย
4NOLOGUE (โฟร์โนล็อค) เริ่มธุรกิจในปี 2550 ด้วยการจัดอีเวนต์และคอนเสิร์ตต่างประเทศ ผลงานที่สร้างชื่อ คือนำศิลปินดังจากเกาหลี TVXQ (ดงบังชินกิ) เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในสินค้าในประเทศไทยและเปิดคอนเสิร์ตในไทยครั้งแรก และเป็นผู้จัดคอนเสิร์ตศิลปินดังอีกหลายวง ไม่ว่าจะเป็น BIGBANG GOT7
อนุวัติ วิเชียรณรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฟร์โนล็อค จำกัด กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ด้วยการเป็นคอนเทนต์ โปรวายเดอร์ เปิดตัวโปรเจกต์ 9×9 (ไนน์บายไนน์) ซึ่งเป็นการรวมตัวของ 9 ไอดอล ผลิตคอนเทนต์ ละคร เพลง และคอนเสิร์ต โดยคอนเสิร์ตปิดโปรเจกต์ ที่อิมแพ็ค ขายบัตร sold out ทั้ง 2 รอบ
ไนน์บายไนน์ ถือเป็นไพรอต โปรเจกต์ ที่ใช้งบลงทุนสูง 150 ล้านบาท เพื่อสร้างชื่อให้ โฟร์โนล็อค ก้าวสู่ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ปีนี้ได้ขยายสู่ธุรกิจเพลงเต็มตัว โดยเปิดตัวศิลปินกลุ่มแรก TRINITY 4 หนุ่ม จากโปรเจกต์ ไนน์บายไนน์ คือ เจมส์ ธีรดนย์, เติร์ด ลภัส, ปอร์เช่ ศิวกร และแจ็กกี้ จักริน
ปั้นศิลปินต้องทุ่มทุน
หลักคิดการทำธุรกิจเพลงของโฟร์โนล็อค คือ ต้องลงทุน พัฒนาศิลปินทุกด้านเพื่อให้มีความสามารถเทียบเท่ากับศิลปินต่างประเทศ โปรเจกต์ TRINITY จึงใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท
เฉพาะการทำอัลบั้มและเพลงกว่า 40 ล้านบาท เริ่มต้นด้วย 4 เพลง ต้นทุนทำเพลงละ 1 ล้านบาทสูงกว่า อุตสาหกรรมที่อยู่หลักหมื่นถึงแสนบาท เพราะให้ทีมไทยและทีมโปรดิวเซอร์อินเตอร์ อย่าง Jam Factory ที่อยู่เบื้องหลังศิลปินมากมาย อาทิ Chris Brown, Travis Scott, Jennifer Lopez, Will Smith, Pitbull ถือเป็นครั้งแรกที่ Jam Factory มาทำงานให้ศิลปินไทย ส่วนมิวสิกวิดีโอต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 7 – 8 ล้านบาท
สิ่งที่สำคัญคือ การเทรนนิ่งศิลปิน ที่ต้องฝึกร้อง เต้น และความสามารถอื่นๆ ทุกด้าน เฉลี่ยปีละ 8 – 10 ล้านบาท แต่ ละคนต้องฝึกอย่างน้อย 3 ปี เป็นการเทรนนิ่งรูปแบบเดียวกับศิลปินเกาหลี เพื่อให้น้องๆ มีความพร้อมในการแสดงคอนเสิร์ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“โปรเจกต์ ไนน์บายไนน์ เริ่มจากการปั้นอินฟลูเอนเซอร์ แต่ TRINITY จะเป็น เรียล อาร์ติส ที่ขยายฐานแฟนคลับสู่คนฟังเพลง”
จุดพลุส่งออกบันเทิงไทย
การทำงานเฟสแรกของ TRINITY คือ ตลาดในประเทศ ซึ่งจะมีทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ และเฟสต่อไป คือ เอเชีย ทัวร์ ในกลุ่มประเทศอาเซียนทุกประเทศ (ยกเว้น บรูไน) และจีน ซึ่งมีฐานแฟนคลับที่รู้จักน้องๆ ตั้งแต่โปรเจกต์ ไนน์บายไนน์
“เชื่อว่าความสามารถของคนไทยไม่แพ้ใคร แต่ที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมเพลงอาจยังขาดการฝึกฝนอย่างจริงจัง เพื่อให้ศิลปินมีความพร้อมในเวทีระดับภูมิภาคและก้าวต่อสู่ระดับโลก”
ตัวอย่างความสามารถของคนไทยที่เห็นได้ชัดเจน คือ ลิซ่า Blackpink และ แบมแบม GOT7 ที่ก้าวไปเป็นศิลปินระดับโลกได้
เป้าหมายของโฟร์โนล็อค ต้องการผลักดันให้ธุรกิจเพลงในประเทศไทย เป็นอุตสาหกรรมบันเทิงที่สามารถส่งออกไปทำตลาดต่างประเทศและสร้างรายได้เหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆของประเทศ เช่นเดียวกับประเทศเกาหลีที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกวัฒนธรรมบันเทิงในตลาดโลก ดังนั้นเป้าหมายของ TRINITY และศิลปินของโฟร์โนล็อคต้องก้าวไปให้ถึง “เวิลด์ทัวร์” ให้ได้