เดินหน้าปรับเพิ่มฟีเจอร์ครั้งใหญ่ “ครบเครื่อง” “เบ็ดเสร็จ” “ไร้รอยต่อ”
ทีเอ็มบี เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำดิจิทัลแบงก์กิ้ง เร่งพัฒนาความเหนือชั้นของทีเอ็มบี ทัช (TMB TOUCH) อย่างไม่หยุดหย่อน เปลี่ยนพฤติกรรมทำได้ “ทุกธุรกรรม” บนสมาร์ทโฟน ล่าสุดกับการขนทัพปรับเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ครั้งใหญ่อีกครั้งให้กับโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน TMB TOUCH เพื่อเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์และรู้ใจความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัลอย่างตรงจุด โดยลูกค้าทีเอ็มบีสามารถเปิดใช้และเข้าถึงบริการต่างๆ ของธนาคารได้ครบถ้วนทุกผลิตภัณฑ์ รองรับการใช้งานทั้งด้านเงินฝาก บัตรเครดิต สินเชื่อ ประกันชีวิต และการลงทุน ส่งผลให้เกิดการทำธุรกรรมได้อย่างเบ็ดเสร็จไร้รอยต่อ พร้อมทั้งเปิดตัวบริการตั้งค่ากำหนดใส่รหัสผ่านเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมและบริการ TMB ID สำหรับยืนยันตัวตนในการติดต่อ TMB Contract Center เป็นการยกระดับความสะดวกและปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินไปอีกขั้น นับเป็นการเพิ่มคุณค่าการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลสำหรับลูกค้าธนาคารได้อย่างเห็นผล
นางณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารกลุ่มลูกค้าบุคคลระดับกลาง ทีเอ็มบี ตอกย้ำว่าด้วยปรัชญา Make THE Difference ทำให้ทีเอ็มบีมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์และการบริการด้วยความเข้าใจในความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคมาโดยตลอด ขณะเดียวกันยังมุ่งส่งเสริมแนวคิด GET MORE with TMB เพราะลูกค้าทีเอ็มบีต้องได้มากกว่า จึงเป็นที่มาของการพัฒนาและปรับปรุงบริการแอปพลิเคชัน TMB TOUCH ให้ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าธนาคารสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของทีเอ็มบีได้มากที่สุด สะดวกที่สุด โดยมีคีย์เวิร์ดชัดเจนว่า ลูกค้าต้องสามารถทำทุกอย่างได้เพียงแค่ปลายนิ้ว ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก และมีเวลาออกไปใช้ชีวิตได้มากยิ่งขึ้น
การปรับเสริมเพิ่มเติมฟีเจอร์ของ TMB TOUCH ในครั้งนี้ สร้างเซอร์ไพร์สให้กับวงการธนาคารไทยอย่างมาก เมื่อทีเอ็มบีมุ่งต่อยอดความสำเร็จ โดยลุกขึ้นมาประกาศความพร้อม เป็นผู้นำเดินหน้าปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ ซึ่งเดิมต้องติดต่อที่สาขาธนาคารเท่านั้น ให้ลูกค้าใช้ทุกบริการผ่านช่องทางออนไลน์ นั่นคือสามารถเปิดและซื้อบริการผ่านแอปพลิเคชันได้เลย
ความเป็นผู้นำดิจิทัลแบงก์กิ้งตัวจริงของทีเอ็มบี “ฉายแวว” และ “โดดเด่น” ด้วยการเป็นธนาคารแรกของไทยที่ให้บริการซื้อประกันชีวิตผ่านแอป ME by TMB และตอนนี้ก็สามารถซื้อประกันชีวิตผ่านโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน TMB TOUCH โดยลูกค้าสามารถซื้อประกันชีวิตไลฟ์ เซฟเว่อร์ 15/9 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตามเบี้ยประกันภัยที่ต้องการ ภายในทุนประกันภัยที่ธนาคารกำหนด ไม่เสียเวลาในการเดินทาง และไม่ต้องกรอกหรือเตรียมเอกสารให้ยุ่งยากอีกต่อไป
นอกจากนั้นยังสร้างมิติใหม่ด้วยบริการเพื่อการลงทุน โดยลูกค้าสามารถเปิดพอร์ตการลงทุนในกองทุนตัวท็อปจาก 10 บลจ. ชั้นนำ ซึ่งลูกค้าใหม่สามารถเปิดพอร์ตลงทุนได้โดยไม่ต้องไปเริ่มต้นที่สาขา และสามารถเลือกเปิดพอร์ตการลงทุน (Open New Portfolio) แบบกองทุนรวมทั่วไป (Fund by Fund) และแบบ TMB Smart Port บริการจัดพอร์ตกองทุนครบวงจรที่มีผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลและปรับสัดส่วนการลงทุนให้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าสามารถไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ ทีเอ็มบี ยังนำเสนอฟีเจอร์การขอสินเชื่อบุคคล (Instant approval loan) ซึ่งลูกค้าทีเอ็มบีสามารถใช้บริการบนแอป TMB TOUCH ได้ทันทีเช่นกัน
ไม่ใช่เพียงพัฒนาฟีเจอร์ด้านประกันชีวิต การลงทุน และสินเชื่อ ซึ่งยังไม่มีแบงก์ใด “กล้า” ประกาศตัวชัดเจนเช่นนี้มาก่อน ทีเอ็มบียังเห็นความต้องการของลูกค้าที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง จึงนำเสนอฟีเจอร์ที่ทำให้ลูกค้าได้มากกว่า (ที่คิด) นั่นคือ บริการตั้งเป้าหมายการออมเงิน (Savings Goals) สำหรับบัญชีเพื่อออม (TMB NO FIXED) ที่ทำให้การออมเงินของลูกค้ามีความหมาย โดยให้ลูกค้าสามารถตั้งเป้าหมายการออมและจัดการกับบัญชีได้ง่ายๆ ไม่ต้องแบ่งการออมออกเป็นหลายๆ บัญชี และยังได้โอกาสรับดอกเบี้ยสูงถึง 1.6% เช่นเดิม
นางณัฐวรรณ อธิบายเพิ่มเติมว่า ฟีเจอร์นี้จะทำให้การออมเงินเป็นเรื่องสนุกและส่งผลลัพธ์อันน่าทึ่ง เพราะลูกค้าจะเก็บเงินได้สำเร็จตามเป้าหมายง่ายยิ่งขึ้นด้วยการตั้งเป้าหมายในการเก็บออมผ่านบัญชี เริ่มจากกำหนดชื่อเป้าหมายของตน เช่น ท่องเที่ยวต่างประเทศ ซื้อบ้าน ซื้อรถ ค่าเทอมลูก เป็นต้น ถ้าต้องการเก็บเงินตามเป้าหมายที่กำหนด ก็สามารถย้ายเงินจากบัญชี TMB NO FIXED เข้าไปยังเป้าหมายที่ลูกค้าตั้งไว้ พร้อมแสดงยอดเงินการเก็บออมของแต่ละเป้าหมาย หรือแสดงข้อมูลการเก็บเงินเพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามผลการเก็บเงินที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้นั่นเอง
ส่วนเรื่องที่ทุกธนาคารจัดให้เป็นภารกิจสำคัญ คือการสร้าง “บาลานซ์” ระหว่างการอำนวยความสะดวกลูกค้าถึงขีดสุด กับ ความระแวดระวังการโจรกรรมข้อมูลดิจิทัล ซึ่งทีเอ็มบี ถือเป็นธนาคารรายแรกๆ ที่ส่งสัญญาณชัดในการพัฒนา “ระบบหลังบ้าน” ให้เข้มแข็ง พร้อมสื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ง่ายจริง โดยล่าสุด ทีเอ็มบี ส่งรูปแบบบริการตั้งค่ากำหนดใส่รหัสผ่านเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมทางการเงินออกมา โดยลูกค้าสามารถตั้งค่าแอป TMB TOUCH ให้ขึ้นใส่รหัสผ่านหรือไม่ใส่ก็ได้ สำหรับการทำธุรกรรม โอนเงิน จ่ายบิล เติมเงิน ไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ ปรับเปลี่ยนเพดานมูลค่าการทำธุรกรรมทางการเงินได้อิสระ อีกทั้งยังทำการเปลี่ยนแปลงชื่อเมนูจาก “วงเงินทำธุรกรรมต่อวัน (Daily Limit)” ในเมนูตั้งค่าเป็นชื่อใหม่คือ “ตั้งค่าการทำธุรกรรม (Transaction)” ซึ่งจะมีการแบ่งเมนูย่อยภายใน เป็นการตั้งค่าวงเงินทำธุรกรรมต่อวัน และตั้งค่าทำธุรกรรมโดยไม่ใช้รหัสผ่าน
ขณะเดียวกัน “หัวใจ” ของระบบดิจิทัลแบงก์กิ้งต้องมีความปลอดภัยสูงสุดควบคู่ไปกับการสร้าง “ทางลัด” เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวก รวดเร็ว ทีเอ็มบีจึงปรับปรุงบริการ TMB ID สำหรับการยืนยันตัวตนผ่าน TMB Contact Center 1558 ซึ่งบริการนี้จะสร้างความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น โดยลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาตอบคำถามส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ เพียงลูกค้าเลือกเมนูขอรับบริการ ระบบจะส่งข้อมูลไปที่แอป TMB TOUCH เพื่อให้ท่านยืนยันตัวตน เมื่อกดยืนยันตัวตนแล้ว ระบบจะส่งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ หรือเข้าระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อทำรายการด้วยตนเอง (Self-service) ต่อไป โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล อายัดบัตรเครดิต การสมัครบริการหรือยกเลิกบริการพร้อมเพย์ (PromptPay) และบริการอื่นๆอีกมากมายผ่าน TMB Contact Center 1558 พร้อมทั้งปรับปรุงหน้าจอ TMB ID ในหน้าอนุมัติตัวตน ให้รองรับการทำรายการต่างๆ และก้าวไปสู่การพัฒนาขั้นตอนการอนุมัติรายการได้เอง
ไม่เพียงเท่านั้นทีเอ็มบี ยังปรับเพิ่มเติมฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ การจัดการ Debit Card และ Credit Card รวมทั้งการเพิ่มบริการขอออกบัตร TMB WAVE บนจาก TMB TOUCH การปรับปรุงหน้าจอออกบัตรเดบิต การปรับปรุงฟังก์ชันการจ่ายบิลและเติมเงิน อาทิ แสดงข้อมูลผู้ให้บริการจ่ายบิล เพิ่มการชำระบิลค่าไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำให้ลูกค้าสามารถจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ทั่วประเทศผ่าน TMB TOUCH ได้แล้ววันนี้ รวมทั้งการปรับปรุงดีไซน์สลิปการทำธุรกรรมโอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล และ E-Donation พร้อมทั้งปรับปรุงหน้าจอเลือกโปรโมชั่นสำหรับการโอนเงินไปยังต่างประเทศ เป็นต้น
นางณัฐวรรณ กล่าวต่อว่า ในส่วนระบบแอปพลิเคชันเอง ทีเอ็มบี มีการปรับให้สามารถตอบสนองได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทั้งการพัฒนาให้รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 และที่สำคัญ TMB TOUCH ยังเป็นแอปพลิเคชันรายแรกที่พร้อมให้ลูกค้าโหลดใช้งานและอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่บน Huawei AppGallery นั่นจึงส่งผลให้เวลานี้ ทีเอ็มบี ทัช กลายเป็นโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน ที่ให้บริการครอบคลุมมากที่สุดทั้ง App Store, Play Store และ Huawei AppGallery
“เป้าหมายของการเพิ่มบริการในทีเอ็มบี ทัช ในครั้งนี้ เรามองไปที่ผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งคาดหวังจะเพิ่มความสะดวกสบายที่มากกว่าให้กับลูกค้า TMB ทุกท่านเพื่อให้เข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของธนาคารได้อย่างง่ายดายและประหยัดเวลาที่สุด ขณะเดียวกันเราต้องการยืดหยัดในปรัชญา Make THE Difference และพยายามที่จะสื่อสารถึงความพร้อมของทีเอ็มบี เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำดิจิทัลแบงก์กิ้ง อย่างเต็มภาคภูมิด้วยเช่นกัน”