นายอดัม ซิงโกลด้า ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของทาบูล่า (แฟ้มภาพ)
วานนี้ (3 ต.ค.) บ.ทาบูล่า (Taboola) แพลตฟอร์มแสดงผลคอนเทนต์และโฆษณา (advertising-based content recommendation platform) เจ้าใหญ่ของโลกที่มีความร่วมมือกับสื่อจากทั่วโลกกว่า 23,000 สำนัก เปิดเผยว่าได้เข้าซื้อกิจการเอาท์เบรน (Outbrain) บริษัทด้วยเงิน 850 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 26,000 ล้านบาท ตามรายงานของเว็บไซต์เทคครันช์
“ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผมนับถือเอาท์เบรน และนวัตกรรมที่ยารอน กาไล และโอริ ลาฮาฟ และทีมทั้งหมดของเอาท์เบรนผลักดันสู่ท้องตลาด การร่วมมือกันครั้งนี้เราหวังว่าจะสามารถสร้างคู่ปรับที่มีกำลังพอจะแข่งกับเฟซบุ๊กและกูเกิล เพื่อที่จะทำให้ผู้ลงโฆษณามีทางเลือกที่มีความหมาย” นายอดัม ซิงโกลด้า ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของทาบูล่ากล่าวตอนหนึ่งในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ
ข้อมูลจาก eMarketer ระบุว่า ปัจจุบันกว่าร้อยละ 70 ของโฆษณาในตลาดสื่อดิจิทัลของสหรัฐฯ ถูกควบคุมไว้โดยยักษ์ใหญ่เพียง 3 เจ้าคือ กูเกิล เฟซบุ๊ก และอะเมซอน
“เรามุ่งมั่นผลักดันการเติบโตให้แก่ลูกค้าของเราและสนับสนุนโอเพ่นเว็บ ซึ่งเราเห็นว่าจำเป็นสำหรับโลกใบนี้ที่มีสภาพแบบสวนปิด (walled garden) ซึ่งผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างจำกัดภายใต้สภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุม และบางครั้งกำแพงที่ปิดกั้นนั้นก็แข็งแกร่งมากเกินไป การร่วมมือกันครั้งนี้เรายังคงเดินหน้าลงทุนในการทำให้เม็ดเงินโฆษณาทุกบาททุกสตางค์ไปถึงองค์กรสื่อและผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่วงการสื่อสารมวลชนในทศวรรษหน้า และนั่นคือเหตุผลที่เกิดการควบรวมกิจการครั้งนี้และพันธกิจของเรา” ซีอีโอของทาบูล่าเสริม
“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นพันธมิตรกับทาบูล่า ทั้งเอาท์เบรนและทาบูล่ามีพันธกิจและวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสนับสนุนการสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพในระดับสากลและส่งมอบคุณค่าต่อตลาดโอเพ่นเว็บ” ยารอน กาไล ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอร่วม เอาท์เบรนกล่าว โอริและผมมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ผู้คนค้นพบคอนเทนต์ออนไลน์ที่มีคุณภาพ เรามองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการร่วมมือกับทาบูล่าเพื่อสร้างคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่สำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้โฆษณาที่เป็นพันธมิตรของเรา ผมมั่นใจว่า ด้วยความร่วมมือครั้งนี้เราจะสามารถสานต่อพันธกิจของเราที่เรียกว่าไลท์เฮาส์ (Lighthouse) เพื่อนำความสามารถในการค้นพบคอนเทนต์ที่ดีที่สุดและเชื่อถือได้ไปยังผู้ใช้งานทั่วโลก”
จนกว่าการควบรวมกิจการจะเสร็จสิ้น อดัม ซิงโกลด้า ผู้ก่อตั้งและซีอีโอคนปัจจุบันของทาบูล่า จะยังคงดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทหลังควบรวมกิจการ ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้ชื่อการค้าทาบูล่า ทั้งนี้ ชื่อการค้าจะได้รับการพิจารณาเพื่อสะท้อนถึงการควบรวมของทั้งสองบริษัทต่อไป อนึ่งภายใต้เงื่อนไขในสัญญาการควบรวมกิจการ ผู้ถือหุ้นเอาท์เบรนจะได้รับหุ้น 30% ของบริษัทหลังควบรวมกิจการและเงินสดมูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.63 ล้านล้านบาท) กรรมการบริหารของบริษัทหลังควบรวมกิจการจะประกอบไปด้วยทีมบริหารและกรรมการจากทั้งทาบูล่าและเอาท์เบรน อัลดาด มานีฟ ผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของทาบูล่า และเดวิด โคสต์แมน ซีอีโอร่วมของเอาท์เบรนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการบริหารงานทุกมิติภายหลังการควบรวมกิจการ ส่วนยารอน กาไล จะยังคงมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จของบริษัทต่อไปและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทอย่างแข็งขันในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปเป็นระยะเวลา 12 เดือนจนกว่าการควบรวมจะแล้วเสร็จ
“เราโชคดีที่มีทีมงานที่มีความสามารถจากทั้งเอาท์เบรนและทาบูล่า” อัลดาด มานีฟ กล่าว “ทันทีที่การควบรวมเสร็จสิ้น เราจะดำเนินการเพื่อบูรณาการทีมงานต่างๆ เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในทุกมิติ เราได้กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายไว้เพื่อส่งมอบคุณค่าต่อลูกค้า ขับเคลื่อนนวัตกรรมเทคโนโลยี และผลงานทางการเงินต่อผู้ถือหุ้นผ่านประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและนวัตกรรม การทำงานร่วมกับเดวิด และทีมงานจากเอาท์เบรน ผมมั่นใจว่าจะสามารถประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างแน่นอน”
“นับเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปีที่ทั้งสองบริษัทได้สร้างสรรค์โซลูชั่นที่ทรงพลังและน่าทึ่ง เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้โฆษณาหลายหมื่นรายสามารถเติบโตได้” เดวิด โคสต์แมน กล่าว ผมตั้งตารอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับอัลดาดและทีมของเขาเพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์โอเพ่นเว็บให้น่าสนใจและเป็นทางเลือกเพิ่มเติมจากกูเกิลและเฟซบุ๊ก”
บริษัทหลังควบรวมกิจการ ทาบูล่าจะมีพนักงานมากกว่า 2,000 คนในสำนักงาน 23 แห่ง ดูแลลูกค้ากว่า 20,000 รายในกว่า 50 ประเทศทั่วทั้งอเมริกาเหนือ ละติน อเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ในประเทศไทย ทาบูล่าให้ความสำคัญถึงขนาดตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่อาคารเมเจอร์ทาวเวอร์ ในย่านทองหล่อง 10 โดยที่สำนักงานในประเทศไทยทาบูล่ามีพนักงานหลากหลายเชื้อชาติจากทั่วโลกกว่า 100 คน
สำหรับสื่อประเทศไทย ผู้ให้บริการคอนเทนต์ระดับแนวหน้าที่รองรับ Taboola มีทั้งสนุกดอทคอม ไทยรัฐ ข่าวสด เดลินิวส์ พีพีทีวี และ ผู้จัดการ 360 โดย 9 ใน 10 ของเว็บ Top 10 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทยตามรายชื่อทรูฮิตส์ล้วนมีบริการของ Taboola ติดอยู่ที่เว็บไซต์ทั้งสิ้น
โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซีอีโอของ Taboola เพิ่งมาเยือนเมืองไทย และกล่าวถึงความมั่นใจในการขยายธุรกิจ Content Recommendation ว่าแม้จะยังไม่หวังให้บริษัทที่เพิ่งทำรายได้ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่าง Taboola สามารถชนะบริษัทที่มีรายได้หลายหมื่นล้านเหรียญอย่างกูเกิล (Google) และเฟซบุ๊ก (Facebook) แล้วครองแชมป์ตลาดโฆษณาออนไลน์ แต่จุดเด่นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง Publisher กับ Taboola ที่ไม่เหมือนใคร จะทำให้ Taboola เติบโตชัดเจนท่ามกลางความกังวลของ Publisher ที่ไม่อยากเสี่ยงเรื่องการเปลี่ยนอัลกอริธึม
“ความสัมพันธ์ของ Taboola กับ Publisher ไม่เหมือนกับความสัมพันธ์กับ Facebook และ Google ทุกครั้งที่มีการคลิก Taboola ก็จะทำรายได้ให้ เราเป็นมิตรกับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะ Google หรือ Apple แต่คือทุกส่วนหลักที่เหลือ” อดัมระบุ “อย่างที่ 2 คือแม้ Facebook หรือ Google จะเป็นบริษัทที่ดี แต่ต้องยอมรับว่าเป็นความเสี่ยงที่สื่อออนไลน์จะผูกหนทางสร้างรายได้ไว้บนระบบเดียว หรือผ่านโมเดลสมัครสมาชิกเท่านั้น ทำให้ Taboola เป็นอีกทางเลือกที่สื่อออนไลน์ให้ความสนใจมากขึ้น”
ลิงก์ข้อมูลเพิ่มเติม
- Taboola and Outbrain to Merge to Create Meaningful Advertising Competitor to Facebook and Google
- Taboola โชว์ผลงาน 6 ปี ปั้มรายได้ป้อนสำนักข่าวออนไลน์ทั่วโลกเกิน 2,000 ล้านดอลล์