FLY ME TO SENDAI การบินไทยเปิดเส้นทางบินตรง สู่นครแห่งต้นไม้ “ เซนได “


ต้อนรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เริ่มบิน 29 ตุลาคม 2562 ด้วยราคาพิเศษสุด เริ่มต้นเพียง 16,120 บาท (รวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว)

การบินไทยพร้อมพาคุณไปสัมผัสเสน่ห์แห่งนครเซนได ท่ามกลางลมหายใจแห่งขุนเขาอันเขียวขจี ดื่มด่ำทัศนียภาพใบไม้เปลี่ยนสีอันตระการตา

 สัมผัสประสบการณ์หลากสีสันที่ “เซนได” จุดหมายล่าสุดจากการบินไทย

“ญี่ปุ่น” คือจุดหมายเปี่ยมเสน่ห์น่าค้นหาที่สามารถเดินทางไปเยือนได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนธันวาคมของทุกปี ต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ต่างพากันอวดใบสีสันจัดจ้านงดงามตระการตา สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนไล่ตั้งแต่เหนือจรดใต้ก่อนจะร่วงโรยและเข้าสู่ฤดูหนาว

“เซนได” เมืองหลวงของจังหวัดมิยะงิ เมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาค “โทโฮคุ” ภูมิภาคเหนือสุดของเกาะฮอนชูก่อนข้ามสู่เกาะฮอกไกโด อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 300 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานถึงกว่า 4 ศตวรรษ โดยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าของภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีต้นไม้เขียวขจีจนได้รับสมญานามว่า “เมืองแห่งต้นไม้” จึงเป็นจุดหมายชั้นเยี่ยมสำหรับการดื่มด่ำทัศนียภาพใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามตระการตา นอกจากนี้ เซนไดและภูมิภาคโทโฮคุยังเป็นแหล่งออนเซนชั้นเลิศจนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “สวรรค์แห่งออนเซน” อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เซนไดและโทโฮคุมีกิจกรรมหลากหลายต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การชื่นชมผลงานศิลปะที่มีธรรมชาติเป็นศิลปินผู้รังสรรค์ขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี

เซนไดแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม

จุดหมายห้ามพลาดเมื่อเยือนเซนไดคือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ “ดาเตะ มาซามูเนะ” (Date Masamune) นักรบผู้กรำศึกมาอย่างโชกโชนเจ้าของฉายา “มังกรตาเดียวแห่งเซ็นโงคุ” จากการสูญเสียตาขวาตั้งแต่กำเนิด อย่างเช่น “ปราสาทเซนได” หรือ “ปราสาทอาโอบะ” (Aoba Castle) จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์เมืองเซนไดที่สร้างขึ้นในปีค.ศ.1601 “สุสานซุยโฮเดน” (Zuihōden Mausoleum) ที่ตั้งหลุมศพดาเตะ มาซามูเนะ ซึ่งออกแบบอย่างวิจิตรบรรจงตามสมัยโมโมยามะ (Momoyama Period) อันเป็นช่วงสุดท้ายของยุคเซ็นโงคุ ยุคที่เต็มไปด้วยการต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อช่วงชิงอำนาจของเหล่าผู้ครองนคร “โอซากิ ฮาจิมังหงุ” (Ōsaki Hachimangū) ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นโดยดาเตะ มาซามูเนะและ “พิพิธภัณฑ์เมืองเซนได” (Sendai City Museum) ที่จัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมจากตระกูลมาซามูเนะ ทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของเมืองเซนไดอีกด้วย

ผู้รักงานศิลปะไม่ควรพลาดชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงทั้งศิลปะร่วมสมัยและศิลปะสมัยต่าง ๆ ของโทโฮคุ อาทิ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเซจิ นากามูระ” (Seiji Nakamura Museum of Contemporary Art) “พิพิธภัณฑ์ศิลปะรีอัสอาร์ค” (Rias Ark Museum of Art) “พิพิธภัณฑ์คาเมอิ” (Kamei Museum) ที่นอกเหนือจากผลงานศิลปะแล้วยังจัดแสดงคอลเล็กชันของนักสะสมแมลงชื่อดัง “คาเมอิ บุนโซ” และตุ๊กตาไม้ทำมือ “โคเคะชิ” (Kokeshi Dolls) ที่น่าทึ่ง รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ถูกใจคอการ์ตูนอย่าง “พิพิธภัณฑ์มังหงะอิชิโนะโมริ” (Manga Ishinomori Museum) ซึ่งรวบรวมผลงานต้นฉบับของโชทาโร อิชิโนะโมริ (Shōtarō Ishinomori) ผู้เขียนการ์ตูนคาร์เมนไรเดอร์ไว้อย่างน่าชม

หลากจุดหมายหลายอารมณ์กับแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสี

สมญานาม “เมืองแห่งต้นไม้” คงพอรับประกันการเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่เป็นสองรองใครของเซนไดได้ดี ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เซนไดและภูมิภาคโทโฮคุจะได้รับการแต่งแต้มสีสันจากธรรมชาติ เกิดเป็นทัศนียภาพงดงาม นอกจากที่ถนนโจเซนจิ (Jozenji Dori) ซึ่งปกคลุมไปด้วยใบไม้สีทองอร่ามแล้ว เซนไดยังเป็นเมืองต้นทางของการออกเดินทางเก็บภาพธรรมชาติสีสันจัดจ้านในเมืองอื่น ๆ ของโทโฮคุ ซึ่งนับเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น “หุบเขานารุโกะ” (Naruko Gorge) ที่สามารถมองเห็นรถไฟวิ่งลอดอุโมงค์ท่ามกลางหุบเขาประดับใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง จากสะพานโอฟุคะสะวะ (Ofukazawa) “ที่ราบสูงอุระบันได” (Urabandai Highlands) ในจังหวัดฟุคุชิมะ แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมที่ตั้งของทะเลสาบ 5 สี “หมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ” (Kakunodate) ถิ่นพำนักของซามูไรในสมัยเอโดะในจังหวัดอะคิตะ ที่ซึ่งสีเหลืองแดงจัดจ้านตัดกับบ้านไม้โบราณสีทะมึน หรือล่องเรือใน “อ่าวมัตสึชิมะ” (Matsushima) แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ 1 ใน 3 สุดยอดจุดชมวิวของญี่ปุ่น ซึ่งทุกจุดหมายสามารถเดินทางโดยรถบัสและรถไฟจากเซนไดได้อย่างสะดวก

ปลดปล่อยกายใจไปกับวัฒนธรรมออนเซน

ขึ้นชื่อว่า “สวรรค์แห่งออนเซน” ย่อมมีแหล่งออนเซนชั้นเลิศหลากหลายให้เลือกแช่กันได้อย่างจุใจ

ไม่ว่าจะเป็น “อะคิว ออนเซน” (Akiu Onsen) แหล่งออนเซนเก่าแก่ที่มีต้นกำเนิดมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 มีโรงแรมและรีสอร์ตให้บริการสะดวกสบายหลายแห่ง “ซะคุนามิ ออนเซน” (Sakunami Onsen) แหล่งออนเซนอันเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณในการบำรุงผิว หรือจะเดินทางต่อไปยัง “เนียวโตะ ออนเซน”​  (Nyoto Onsen) ออนเซนสีน้ำนมที่ซ่อนตัวอยู่กลางธรรมชาติในจังหวัดอะคิตะ มีประวัติยาวนานมาถึงกว่า 400 ปี “กินซัง ออนเซน” (Ginzan Onsen) สถานที่ใช้ถ่ายทำละครเรื่อง “สงครามชีวิตโอชิน” ในจังหวัดยะมะงะตะก็ล้วนสร้างความประทับใจมิรู้ลืม

ช็อป…ชิม สไตล์เซนได

             แม้จะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติ แต่นักช็อปผู้มาเยือนเซนไดจะไม่ผิดหวังเนื่องจากมีแหล่งช็อปปิงมากมาย อาทิ “คลิสโร้ด” (Clis Road) ถนนช็อปปิงสายใหญ่กลางใจเมืองที่มีทุกอย่างครบครัน “มิตชุย เอาท์เลตพาร์ค เซนไดโค” (Mitsui Outlet Park Sendaiko) และ “เซนได อิสุมิ พรีเมียม เอาท์เลต” (Sendai Izumi Premium Outlet) สวรรค์สำหรับนักช็อปของแบรนด์เนม ตลอดจนห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ อีกหลายแห่ง หลังจากช็อปปิงจนเหนื่อยล้าแล้ว แวะไปเติมพลังที่ “ตรอกบุงคะ โยะโคะโช” (Bunka Yokocho) ที่เรียงรายไปด้วยร้านกินดื่มสไตล์อิสะคะยะ (Izakaya) ย้อนยุคถึงกว่า 50 ร้าน เป็นอันจบวันท่องเที่ยวแสนประทับใจ

สัมผัสทุกความประทับใจในการบริการอันแสนอบอุ่นราบรื่นดุจแพรไหม

เติมความอบอุ่นในหัวใจ บินไปเซนไดกับการบินไทย ด้วยเที่ยวบินตรง 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200 ที่แสนสะดวกสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน การบินไทยพร้อมพาคุณบินสู่จุดหมายปลายทางใหม่ เซนได และอีก 5 เมืองยอดนิยม โตเกียว โอซากา นาโกยา ฟุกุโอกะ และซับโปโร ที่ใกล้กว่าที่คิด

สำรองที่นั่งได้แล้ววันนี้ที่ www.thaiairways.com หรือ โทร. 02-356-1111 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

บินไปญี่ปุ่น บินไปกับการบินไทย สบายต่างกัน