สรุปภาพรวมชิมช้อปใช้จากการใช้จ่ายช่วง 14 วันแรก มีผู้ใช้สิทธิ์เกือบ 6 ล้านราย มีการใช้จ่ายเงิน 5,600 ล้านบาท กระจายสู่ร้านเล็กๆ เกิน 80% และใช้จ่ายในกรุงเทพฯ 13%
ลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
มีผู้ที่ได้รับสิทธิจากการลงทะเบียนวันแรก (วันที่ 23 กันยายน 2562) จำนวน 807,321 ราย ไปเริ่มต้นใช้สิทธิ 710,013 ราย ถูกตัดสิทธิ 97,308 ราย เนื่องจากไม่เริ่มใช้สิทธิภายใน 14 วันที่กำหนด โดยสิทธิดังกล่าวจะนำมาพิจารณาให้ลงทะเบียนในมาตรการฯ ระยะที่ 2
การตรวจสอบสิทธิผู้ลงทะเบียน 16 วันแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีผู้ได้รับสิทธิ 9,998,518 ราย ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้วจำนวน 9,990,275 ราย ทั้งนี้ มีผู้เข้ายืนยันตัวตนในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว 9,361,729 ราย โดยยืนยันตัวตนสำเร็จ 8,755,873 ราย และมีผู้ที่ยังไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชัน 628,546 ราย
ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5,000 ล้านบาท
ในการใช้จ่าย 14 วันแรก มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 5,910,924 ราย มีการใช้จ่ายรวม 5,635 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดเล็กตามวัตถุประสงค์ของมาตรการฯ ประมาณ 4,601 ล้านบาท หรือมากกว่า 80%
และมีการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขาประมาณ 1,034 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 22% ในช่วงเริ่มต้น เหลือ 18% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด เป็นการใช้จ่าย g-Wallet ช่อง 1 ประมาณ 5,578 ล้านบาท
โดยเป็นการใช้จ่ายที่ร้าน “ช้อป” ซึ่งเป็นร้านในกลุ่ม OTOP ร้านวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐ และบริการที่เกี่ยวเนื่องต่อการท่องเที่ยว 3,205 ล้านบาท
ส่วนร้าน “ชิม” หรือร้านอาหารและเครื่องดื่มมียอดใช้จ่าย 729 ล้านบาท ร้าน “ใช้” เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ เป็นต้น มียอดใช้จ่าย 66 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไปมียอดใช้จ่าย 1,578 ล้านบาท
สำหรับการใช้จ่าย g-Wallet ช่อง 2 มีการใช้สิทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้สิทธิแล้ว 19,436 ราย มียอดใช้จ่ายประมาณ 57 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละ 2,948 บาท เป็นการใช้จ่ายที่ร้าน “ช้อป” 38 ล้านบาท ส่วนร้าน “ชิม” และร้าน “ใช้” มียอดใช้จ่าย 12 ล้านบาท และ 7 ล้านบาท ตามลำดับ
ใช้จ่ายในกทม. 13%
มีการใช้จ่ายกระจายครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เฉพาะในเมืองใหญ่ โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่
- กรุงเทพฯ 713 ล้านบาท หรือ 13%
- ชลบุรี 368 ล้านบาท หรือ7%
- สมุทรปราการ 236 ล้านบาท หรือ 4%
- ปทุมธานี 173 ล้านบาท หรือ 3%
- พระนครศรีอยุธยา 162 ล้านบาท หรือ 3%
- นครปฐม 140 ล้านบาท หรือ 2%
- ระยอง 140 ล้านบาท หรือ 2%
- ลำพูน 135 ล้านบาท หรือ 2%
- นนทบุรี 132 ล้านบาท หรือ 2%
- เชียงใหม่ 129 ล้านบาท หรือ 2%